แคลร์ (ฮิลลารี่ สแวงก์) รองประธาน Times Square Alliance รับหน้าที่จัดงาน บอล ดรอป ในวันเคาต์ดาวน์ปีใหม่ โดยมี แบรนดอน (ลูดาคริส) ตำรวจหนุ่มเพื่อนของเธอคอยช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน เลขาสาวแห่ง Ahern Records อินกริด (มิเชลล์ ไฟเฟอร์) ก็กำลังวุ่นวายกับชีวิตหลังลาออกจากงาน เธอให้บัตรเข้างานปาร์ตี้หน้ากากกับ พอล (แซค เอฟรอน) หนุ่มคนส่งของ หากเขารับปากว่าจะช่วยเธอแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนเวลาเที่ยงคืน อีกด้านหนึ่ง คิม (ซาราห์ เจสสิก้า ปาร์คเกอร์) พี่สาวของ พอล ก็กำลังปวดหัวกับลูกสาววัยรุ่น เฮลีย์ (อาบีเกล เบรสลิน) ที่อยากไปฉลองปีใหม่กับเพื่อน ๆ และแฟนหนุ่มของเธอในงานเคาต์ดาวน์ที่ ไทม์ สแควร์ เพราะหลังจากหย่าขาดกับสามีแล้ว คิม เองก็อยากใช้เวลาคืนก่อนปีใหม่กับลูกสาวของเธอมากกว่า ส่วน แรนดี้ (แอชตัน คุทเชอร์) นักวาดการ์ตูนเพื่อนของ พอล ผู้เกลียดวันปีใหม่เข้าไส้เพราะถูกแฟนเก่าทิ้ง ก็ดันติดอยู่ในลิฟต์กับ เอลิเซ่ (ลีอา มิเชล) นักร้องสาวที่ต้องไปร้องคอรัสให้กับ เจนเซ่น (จอน บอน โจวี่) ในงานคอนเสิร์ตของเขาที่ ไทม์ สแควร์ ด้าน เจนเซ่น ก็กำลังเจอกับความรู้สึกถ่ายไฟเก่าลุกโชนกับ ลอว์ร่า (แคทเธอรีน ไฮเกล) คู่หมั้นเก่าของเขา
ในโรงพยาบาลใกล้ ๆ สแตน (โรเบิร์ต เดอ นิโร) พ่อของ แคลร์ ที่กำลังต่อสู้อยู่กับมะเร็งระยะสุดท้าย หวังว่าเขาจะมีชีวิตรอดจนได้เห็นงานบอล ดรอปที่ลูกสาวของเขาจัดขึ้นกับตาเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีพยาบาลสาว เอมี่ (ฮัลลี่ เบอร์รี่) และ มินดี้ (อลิสซ่า มิลาโน่) คอยดูแลอยู่เป็นเพื่อนข้างกาย หลังจากคุณหมอบอกให้ทำใจแล้วว่าเขาจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน ตัดภาพไปยังห้องผู้ป่วยอีกด้าน กริฟฟิน (เซธ เมเยอร์ส) และ เทส (เจสสิก้า บีล) กำลังจะให้กำเนิดลูกคนแรกของพวกเขา โดยแข่งกับอีกหนึ่งคู่รัก เจมส์ (ทิล ชไวเกอร์) และ เกรซ (ซาราห์ พอลสัน) เพื่อของขวัญพิเศษจากการเดิมพันว่าใครจะคลอดลูกในวันปีใหม่ได้ก่อนกัน อีกด้านหนึ่ง แซม (จอช ดูฮาเมล) นักธุรกิจหนุ่มกำลังจะเดินทางไปงานปาร์ตี้หน้ากากของ Ahern Records จากนอกเมืองนิวยอร์ก แต่รถของเขากลับมีปัญหา จนต้องขอติดรถของครอบครัวสุดหรรษาครอบครัวหนึ่งไปด้วย เพื่อร่วมงานปาร์ตี้ที่เขาจะต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญ และลุ้นว่าจะได้พบกับหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักในวันก่อนปีใหม่ปีที่แล้วอีกครั้งหรือไม่
เย็นวันนั้น แผงไฟ LED ของลูกบอลไทม์ สแควร์มีปัญหา แคลร์ ต้องเรียก โคมินสกี้ (เฮคเตอร์ เอลิซอนโด) ช่างไฟเก่าที่เพิ่งโดนไล่ออกไปก่อนหน้านี้กลับมาซ่อมโดยด่วน ก่อน แคลร์ จะรีบไปยังโรงพยาบาลเพื่อรอชมโมเมนต์บอล ดรอปกับพ่อของเธอ ก่อนเขาจะจากไปตลอดกาลในวินาทีที่กิจกรรมลูกบอลอันโด่งดังของมหานครนิวยอร์ดเริ่มขึ้น ส่วน พอล ช่วย อินกริด ทำทุกอย่างที่เธอต้องการได้สำเร็จ แต่แทนที่จะแยกจากกันไป เขากลับชวนเธอเข้างานปาร์ตี้หน้ากากในฐานะคู่เดต ฝั่งคู่ แรนดี้ และ เอลิเซ่ ที่แชร์ประสบการณ์ชีวิตขณะรอความช่วยเหลือในลิฟต์ก็กำลังเคลิ้มจนจะมีจูบแรกด้วยกัน แต่ลิฟต์กลับซ่อมเสร็จขัดจังหวะโรแมนติกเสียก่อน เอลิเซ่ รีบเดินทางไปยังงานสำคัญของเธอ แต่ แรนดี้ สังเกตว่าเธอทำสร้อยข้อมือตกเอาไว้ จึงเก็บแล้วรีบตามไปหวังคืนสร้อยข้อมือนี้ให้เธอกับมือตัวเอง โดยที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่า ในงานคอนเสิร์ตที่ไทม์ สแควร์นั้น เจนเซ่น ตัดสินใจหยุดแสดงกลางคัน เพื่อตามไปง้อขอคู่หมั้นเก่าของเขาคืนดีในงานปาร์ตี้หน้ากากของ Ahern Records ทำให้เอลิเซ่ที่เพิ่งมาถึง ต้องขึ้นโชว์เป็นนักร้องหลักในงานแทน แล้ว เอลิเซ่ กับ แรนดี้ ก็เริ่มความสัมพันธ์สุดโรแมนติกด้วยกันหลังจากนั้น
และแม้ว่าคู่รัก กริฟฟิน และ เทส จะคลอดลูกของพวกเขาก่อน แต่เขาตัดสินใจยกของขวัญพิเศษให้กับคู่รัก เจมส์ และ เกรซ เมื่อรู้ว่าพวกเขาต้องคลอดลูกแฝดอีกสองคนด้วยกัน ส่วน เฮลีย์ ที่ตกลงกับแม่ได้แล้วก็รีบเดินทางไปหาเพื่อน ๆ ที่ไทม์ สแควร์ทันที แต่กลับเห็น เซ็ธ แฟนหนุ่มของเธอกำลังจูบกับหญิงสาวคนอื่น สุดท้าย เฮลีย์ ก็อกหักกลับบ้าน โดยมีแม่ของเธอคอยปลอบใจ ก่อน เซ็ธ จะตามกลับมาขอโทษ เฮลีย์ ถึงบ้าน พร้อมพูดความจริงว่าเขาไม่ได้นอกใจ เฮลีย์ แต่เขาถูกผู้หญิงคนนั้นขโมยจูบไปโดยไม่ทันตั้งตัว เฮลีย์ ให้อภัยและไปอาฟเตอร์ ปาร์ตี้กับ เซ็ธ ต่อหลังจากแม่อนุญาต ส่วน คิม หลังปล่อยให้ลูกสาวไปฉลองวันพิเศษกับแฟน เธอก็ไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และได้พบกับ แซม ที่กล่าวสุนทรพจน์สำคัญของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเปิดเผยตัวว่าเธอคือหญิงสาวคนนั้นที่ได้พบกับ แซม ในงานปีใหม่ปีที่แล้ว พวกเขาเลยได้เริ่มทำความรู้จักกันอย่างจริงจัง และเรื่องราวสุดวุ่นวายในคืนวันปีใหม่ของทุกคนก็จบลงพร้อมกับภาพในงานปาร์ตี้หน้ากากของ พอล และ อินกริด ที่กำลังสนุกกันสุดเหวี่ยง