เจ้าพ่ออาชญากร พอล วิตตี (โรเบิร์ต เดอ นิโร) กำลังใกล้จะพ้นโทษ จากการถูกจองจำที่เรือนจำ ซิงซิง ทว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ต้องคอยสอดส่องดูแลเขาต่างก็พากันสับสนงุนงงอย่างทั่วหน้า เมื่อพวกเขาต้องใช้เวลาทุก ๆ วัน เฝ้าดูหัวหน้าแกงค์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิวยอร์คเดินวนเวียนในห้องขัง เหมือนเสือหน้าโง่ติดจั่น และในบางเวลาก็ระเบิดเสียงร้องเพลงจากหนังเรื่อง West Side Story ออกมา
วิตตีกำลังจะเสียสติไปเนื่องจากการถูกคุกคามชีวิตโดยครอบครัวคู่อาฆาตในช่วงที่ผ่านมา หรือว่าพฤติกรรมแปลก ๆ นั้นเป็นแผนการของเขาเพื่อจะได้ทำให้พ้นโทษเร็วขึ้นกันแน่? เจ้าหน้าที่เอฟบีไอไม่แน่ใจในเรื่องนั้น แม้แต่อดีตจิตแพทย์ประจำตัวของเขา เบน โซเบล (บิลลี่ คริสทัล) ที่ถูกเรียกตัวมาเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีนี้ก็เช่นกัน
ครั้งสุดท้ายที่โซเบลได้รักษาวิตตี เขาได้พยายามหาสมุหฐานของอาการถูกจู่โจมโดยความวิตกในช่วงอ่อนแอ แต่ไม่อาจแม้แต่กะเทาะผิวหน้าออกมาได้ มันต้องใช้เวลาในอันที่จะวิเคราะห์ความชั่วร้ายที่ยังสิงสู่อยู่ในความคิดของวิตตี เพื่อทำให้เขากลับตัวกลับใจ เวลาที่โซเบลไม่พร้อมจะมีให้ ไม่ใช่กับวิตตี ไม่ใช่ตอนนี้
ความจริงก็คือ โซเบลกำลังมีปัญหาของตัวเอง พ่อของเขาเพิ่งจะตายจากไป และนั่นทำให้เขาตกอยู่ในวิกฤติชีวิตทั้งส่วนตัวและหน้าที่การงาน นอกจากนั้น เขารู้ดีว่าภรรยาของเขา ลอร่า (ลิซ่า คูโดรว์) จะต้องเป็นฟืนเป็นไฟ หากเขายอมให้วิตตีผู้ไม่อาจเดาใจได้กลับเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตพวกเขาอีก
แต่เมื่อวิตตีได้รับทันฑ์บนปล่อยตัวออกมาภายใต้การดูแลของโซเบล และกลายเป็นคนไข้ของเขาอีกครั้ง ที่ร้ายไปกว่านั้น คือการเป็นแขกของบ้านเขา และจิตแพทย์ผู้หนักใจกลับพบว่าเขาไม่มีทางเลือก และเพื่อที่จะกอบกู้ความสงบให้กลับคืนมาสู่ชีวิต เขาจำต้องช่วยหัวหน้าอาชญากรแก้ปัญหาทางจิต โดยหางานที่มีรายได้สูงให้ เพื่อมีชีวิตปกติธรรมดา ข่าวดีก็คือ วิตตีเริ่มจริงใจและร่วมมือในการรักษา และโซเบลก็อยากจะเชื่อเขาจริง ๆ แต่ทว่าเขาจะแน่ใจได้อย่างไร ในเมื่อพลพรรคของลู เดอะ เรนช์ คอยมาปรากฎตัวอยู่เรื่อย?