ในภาพยนตร์ตลกโรแมนติค ทุกอย่างมักเดินหน้าไปตามสูตรทำนองว่า ผู้ชายพบผู้หญิง ทุกอย่างไปได้สวย กิ๊กกันน่ารัก จากนั้นเกิดเหตุผิดพลาดเล็กๆ ก่อนที่จะจบกันแบบอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดกาล แต่จะเป็นยังไงเมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวเกิดเหนื่อยล้าหลังจากเจอวันหนัก ๆ มาทั้งวัน เมื่อชีวิตประจำวันซ้ำซากเริ่มทำให้เขาและเธอแทบคลั่ง เมื่อเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหลายที่เคยทำให้เขาและเธอรักกัน เริ่มทำให้พวกเขารำคาญกัน
เรื่องราวการใช้ชีวิตของชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่บ่อยครั้งมีเรื่องเฮฮาน่ารัก บางครั้งพบเรื่องเจ็บปวดเหลือทน แต่เป็นการเดินทางที่แสนเพลิดเพลินที่นำไปสู่การทำลายความสัมพันธ์ที่ครั้งหนึ่งเคยรักและมั่นคง วินซ์ วอห์น และ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน รับบทเป็น แกรี่และบรู๊ก ชายหนุ่มหญิงสาวที่ปล่อยให้การโต้เถียงที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มพูนขยายจนกลายเป็นเรื่องยากจะควบคุม และจู่ ๆ พวกเขาต่างพบว่าตัวเอง (หลังจากอยู่ด้วยกันมานานสองปี) ต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกระหว่างความรักและการสูญเสีย
เมื่ออดีตคู่รักหวานแหววต่างยืนกรานหัวชนฝา โดยไม่มีใครยอมย้ายออกไปจากคอนโดที่เขาและเธออาศัยอยู่ด้วยกัน สงครามระหว่างคู่รักจึงเริ่มปะทุ The Break-Up ยังได้ทีมนักแสดงสมทบมารับบทเป็นเพื่อน ๆ และครอบครัวที่คอยให้คำปรึกษาแก่แกรี่และบรู๊กจากทุกมุมมองที่เป็นไปได้
ทางฝั่งของแกรี่ก็คือเพื่อนซี้ปึ้กอย่าง จอห์นนี่ (จอน ฟาฟวโร), ริกเกิลแมน (เจสัน เบทแมน) นายหน้าขายบ้านของเขา, เดนนิส ผู้บ้างาน (วินเซนต์ ดีโอโนฟรีโอ) และ ลูปัส (โคล ฮาวเซอร์) ซึ่งสองรายหลังคือพี่น้องและหุ้นส่วนทางธุรกิจของแกรี่ ส่วนแก๊งค์ที่ให้คำปรึกษากับบรู๊ก ประกอบไปด้วย แอ๊ดดี้ (โจอี้ ลอว์เรน อดัมส์), แอนดรูว์ (ปีเตอร์ บิลลิงสลี่ย์) สามีของแอ๊ดดี้, ริชาร์ด (จอห์น ไมเคิล ฮิกกิ้นส์) น้องชายติดหรู (แต่ไม่ใช่เกย์) ของบรู๊ก ผู้พอใจจะคลุกคลีอยู่ในกลุ่มนักร้องประสานเสียงหนุ่มล้วนที่พวกเขาตั้งชื่อว่าเดอะโทน แรงเจอร์ส, แม่ผู้ตั้งใจดีของเธอ (แอนน์ มาร์เกร็ต) และบรรดาเพื่อนร่วมงานที่แต่ละคนมาพร้อมความประหลาด ได้แก่ มาริลิน ดีน (จูดี้ เดวิส) เจ้าของแกลเลอรี่สุดพิลึก และ คริสโตเฟอร์ (จัสติน ลอง) พนักงานต้อนรับ เพราะทำตามคำแนะนำที่ตั้งใจดี แต่บ่อยครั้งให้ผลที่ผิดพลาด
จากบรรดาที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทั้งหลาย แกรี่และบรู๊กจึงต้องผจญกับแผนการต่าง ๆ ที่เป็นความพยายามจะบีบให้อีกฝ่ายต้องย้ายออกจากคอนโด ในภาพยนตร์ตลกแสนสนุกที่ทำให้อบอุ่นหัวใจอย่างไม่น่าเชื่อเรื่องนี้ สุดท้าย แกรี่และบรู๊กถึงได้รู้ตัวว่า เมื่อเป็นเรื่องของหัวใจ ชัยชนะไม่ได้เกิดจากการเป็นคนสุดท้ายที่ยังยืนเป็นหนึ่งอยู่ได้ แต่มาจากการเรียนรู้เมื่อพวกเขาเปลือยหัวใจต่อกัน