รีเบคก้า แฟร์แบงส์ (เอลิซาเบธ เฮอร์ลี่ย์) ผู้ใช้เทคนิคเมธ็อด ซึ่งก็คือการดึงเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาใช้ร่วมในการแสดงหนังมาใช้ในการทำงาน และสำหรับหนังเรื่องใหม่ล่าสุดของเธอ รีเบคก้าก็ได้รับบทเป็น เบล กันเนส ฆาตกรชื่อดังซึ่งมีตัวตนจริง ๆ ในยุคศตวรรษที่ 19 ด้วยชื่อเสียงของเธอที่รู้กันดีว่าเธอนั้นทุ่มเทให้กับการแสดงเป็นอย่างมาก รีเบคก้า ก็เริ่มที่จะซึมซับเอาลักษณะนิสัยของตัวละครของเบลเข้าไปทุกที รวมไปถึงชีวิตนอกจอด้วย ความทุ่มเทนอกจอ ทำให้เธอค้นคว้าหาโลกของเบล พยายามฝึกสำเนียงอินเดียน่า เปลี่ยนห้องพักในโรงแรมเป็นฉากในปี 1908 และยังเลือก เจค ฟิลด์ (เจเรมี่ ซิสโต้) ดาราบู๊ที่เคยเป็นแฟนเก่าของเธอเมื่อ 4 ปี ก่อน มาแสดงร่วมกับเธอในหนังเรื่องนี้ด้วยซึ่งแม้จะเลิกรากับเขาไปแล้ว ซึ่งความสัมพันธ์ครั้งก่อนต้องจบลงเพราะโมน่าผู้เป็นแม่สั่งให้เลิก แต่รีเบคก้าก็ยังอาลัยรักดาราหนุ่มรูปหล่อคนนี้อยู่
ขณะที่การถ่ายทำดำเนินไป ความเป็นเบลก็ยิ่งถูกซึมซับเข้าไปในตัวรีเบคก้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งพฤติกรรมและทัศนคติ จนเมื่อมีคนในกองถ่ายเริ่มหายตัวไปพร้อม ๆ กับการถ่ายฉากการฆาตกรรมในหนัง ก็มีคนพบศพของเหยื่อรายแรกในกองถ่าย ซึ่งก็คือภรรยาของเจคกับนักข่าวจอมจุ้น แต่ถึงแม้รีเบคก้าจะเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก แต่แรงจูงใจของโมน่าที่มีต่อกับคนรักเก่าของเจค ก็ทำให้คนเลิกสงสัยเธอจนในสัปดาห์สุดท้ายของการถ่ายทำ อีกหนึ่งศพที่ถูกพบก็คือโมน่า ที่ศพนั้นอยู่กับจดหมายลาตายที่ระบุว่าเธอนั้นเป็นคนฆ่าเหยื่อที่ผ่านมาเอง ซึ่งเหตุนี้เองก็ทำให้ผู้คนต่างพากันเชื่อว่าเป็นไปได้ที่เธออาจจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด เมื่อตัวขัดความสุขหมดไปแล้ว รีเบคก้ากับเจคก็มุ่งหน้าไปพักผ่อนยังริเวอร่า แต่รีเบคก้ายังสลัดอีกตัวตนของเธอได้ ขณะที่ไปพักร้อนกับเจค เธอต้องต่อสู้กับเบลว่าใครจะอยู่ใครจะไป