มิสเตอร์โจนส์ (พีท โพสเทลเวท) ชายขี้เมาผู้ขาดความเอาใจใส่ เป็นเจ้าของ แมนเนอร์ฟาร์ม ที่บรรดาสรรพสัตว์ต่างสุดทน กับพฤติกรรมความโหดร้ายทารุณของเขา และในวันหนึ่งขณะที่เขากำลังดื่มสุรากับเพื่อนคือ มิสเตอร์พิลคิงตัน เป็นเวลาเดียวกันกับที่บรรดาสัตว์ทั้งหลาย ต่างนัดพบกันในโรงนา เพื่อฟังคำปราศรัยที่กล่าวถึงการปลดปล่อยโดย ผู้นำหมูเฒ่า ซึ่งปลุกกระแสความคิดที่น่าจับใจยิ่งนัก เขากล่าวกับพวกสัตว์ว่า มนุษย์เป็นต้นกำเนิดของการเอาเปรียบ นอกจากนี้ยังสอนให้บรรดาสัตว์ทั้งหลายใน Manor Farm ร่วมกันร้องเพลงปลุกใจ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความคิด ในการต่อต้านการกดขี่ของมนุษย์อีกด้วย
ขณะที่กำลังเมาฤทธิ์แอลกอฮอล์ มิสเตอร์โจนส์ ได้ยินเสียงแว่ว ๆ จึงได้สืบหาที่มาของเสียงนั้น แต่ทันใดนั้นเองก็เกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด ปืนที่ มิสเตอร์โจนส์ ถือเกิดลั่นไปคร่าชีวิต หมูเฒ่า โดยไม่ได้ตั้งใจ และในวันต่อมาเจ้าหมู 2 ตัวคือ สโนว์บอล (เคลซีย์ แกรมเมอร์) และ นโปเลียน (แพทริค สจ๊วต) ได้บอกกับบรรดาสัตว์ทั้งหลายว่า มันทั้งสองจะเป็นผู้นำในการดำเนินรอยตามแนวทาง ความคิด และปฏิบัติของ หมูเฒ่า
ไม่กี่เดือนต่อมา ด้วยความสะเพร่าไม่เอาใจใส่ของ มิสเตอร์โจนส์ ที่ปล่อยให้สัตว์ในฟาร์มอดข้าวอดน้ำ ทำให้พวกมันสุดทนกับพฤติกรรมของเขา เพลงปลุกใจที่ดังก้องอยู่ในใจเมื่อครั้งที่ หมูเฒ่า เคยสอนให้ร้องทำให้บรรดาสัตว์เริ่มฮึกเหิม พวกมันทั้งหมดจึงก่อการกบฏ ขับไล่ มิสเตอร์โจนส์ และภรรยาของเขา ออกจากฟาร์มไป ชีวิตของสัตว์ในฟาร์มจึงได้เริ่มเปลี่ยนแปลงนับแต่บัดนั้น สโนว์บอล จัดการเปลี่ยนชื่อ Manor Farm เสียใหม่เป็น Animal Farm และยังได้จารึกบทบัญญัติ สำหรับสัตว์ทั้งหลาย ไว้บนกำแพงโรงนา ซึ่งเป็นอันเข้าใจกันว่า เป็นคำสั่งประกาศิตนั่นคือ ห้ามสัตว์ทุกตัวนอนบนเตียงนอน และสัตว์ทุกตัวมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน
จากนั้นชีวิตของสัตว์ใน Animal Farm ก็ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นรูปแบบ โดยมีสัตว์อื่น ๆ เป็นผู้ทำงาน ส่วนหมูเป็นผู้ควบคุมคอยสั่งงาน และบัญชาการ สโนว์บอลจัดแจงสอนพรรคพวก ให้อ่านออกเขียนได้ ภายใต้แนวคิด ลัทธิสัตว์นิยม (Animalism) มีคำขวัญ ในการดำรงชีวิตอยู่ในฟาร์มของบรรดาสัตว์คือ "สี่ขาดี สองขาเลว"
ความไม่ชอบมาพากลเริ่มเกิดขึ้น โดยสัตว์ต่าง ๆ ได้รับรู้ถึงการละเมิดกฎของ หมูผู้นำ เมื่อ สโนว์บอล กับ นโปเลียน ได้เก็บนมและแอปเปิ้ลไว้ สำหรับพวกของมันเองเท่านั้น นอกจากนี้ นโปเลียน และสหายคู่หู สควีลเลอร์ (เอียน โฮล์ม) ได้จัดการติดตั้งโทรทัศน์ และเครื่องฉายหนังในโรงนาให้บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ดูเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ต่อเรื่องหมกเม็ดที่เกิดขึ้น และในขณะเดียวกัน มิสเตอร์โจนส์ กับพวกของเขา ได้จัดการสอดแนม โดยการติดตั้งเครื่องรับวิทยุ เพื่อใช้ในการดักฟังความเคลื่อนไหว ของบรรดาสัตว์ในฟาร์มนี้ด้วย แล้วมนุษย์ก็ตัดสินใจที่จะต่อสู้ เพื่อยึดฟาร์มที่เคยเป็นของพวกเขากลับคืนมา สงครามในครั้งนี้ทำให้พวกสัตว์ในฟาร์มได้รับชัยชนะ จากการวางแผนยุทธศาสตร์ และความพยายามของ สโนว์บอล ในการใช้เครื่องไม้เครื่องมือ โดยบรรดาหมูได้เล็งกระบอกปืนไปยังประตูรั้ว เมื่อ มิสเตอร์โจนส์ กับพรรคพวกบุกเข้ามา นโปเลียน และ สควีลเลอร์ ปรากฎตัวออกมาจากที่ซ่อน ภายหลังจากการต่อสู้ได้ยุติลง และได้รับชัยชนะในที่สุด
ต่อมา สโนว์บอล ได้มีแผนการที่จะสร้างกังหันลม แต่ นโปเลียน พยายามขัดขวาง เพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว ในระหว่างที่มีการโต้แย้งกัน เพื่อให้บรรดาสัตว์ลงความเห็น ว่าจะสร้างหรือไม่นั้น นโปเลียน ได้ส่งสัญญาณ ให้กองกำลังสุนัขรับใช้ส่วนตัว บุกเข้าจู่โจม และวิ่งไล่กวดจน สโนว์บอล ต้องหนี และหายสาบสูญไป จากนั้นก็กล่าวหา สโนว์บอล ว่าเป็นกบฎ แล้วขโมยความคิดเรื่องกังหันลมมาเป็นของตน ทั้งยังยึดอำนาจภายในฟาร์ม และจัดการกับเสียงคัดค้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยใช้กำลังของเหล่าสุนัขรับใช้
ขณะเดียวกัน พวกมนุษย์ก็เรียนรู้ จากการเฝ้าสังเกต การพูดคุยกันของสัตว์ในฟาร์ม มิสเตอร์พิลคิงตัน ได้เข้าไปในฟาร์มในฐานะแขกผู้มาติดต่อ เพื่อดำเนินการตกลงเจรจากับ นโปเลียน เรื่องการค้าขาย พร้อมกับทิ้งวิสกี้ไว้ให้ด้วย บรรดาสัตว์ต่าง ๆ เริ่มเกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วน เมื่อหมูผู้นำได้ละเมิดกฎระเบียบของลัทธิสัตว์นิยม ด้วยการอาศัยอยู่ในบ้าน และนอนหลับบนเตียง เมื่อสัตว์บางตัวเริ่มสงสัยเรื่องกฎระเบียบ สควีลเลอร์ ก็อธิบายว่า บางตอนของกฎ ได้ถูกแก้ไขเป็น "ห้ามสัตว์นอนบนเตียงที่มีฟูก" แล้ว โดยที่บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ไม่แน่ใจว่ากฎได้กล่าวถึงฟูกไว้หรือไม่ แต่ถ้ามันจารึกอยู่บนกำแพง ก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น
มิสเตอร์โจนส์ ได้โอกาสที่จะแก้แค้น โดยจัดการวางระเบิดกังหันลม นโปเลียน โยนความผิดให้กับ สโนว์บอล ว่าเป็นผู้ก่อการกบฎ ทำให้กังหันลมเสียหาย และพวกสัตว์ทั้งหลายจะต้องเสียสละเวลาและพลังงาน ในการลงแรงช่วยกันสร้างกังหันลมขึ้นมาใหม่อีกรอบ พร้อมกันนั้น สควีลเลอร์ ก็ได้ยกเลิกเพลงปลุกใจ ซึ่งเป็นสายสัมพันธ์เดียวที่เหลืออยู่ระหว่าง Animal Farm กับ หมูเฒ่า โดยให้บรรดาสัตว์ทั้งหลาย หันมาร้องเพลงสรรเสริญตัว นโปเลียน แทน
ขวัญและกำลังใจของบรรดาสัตว์ เริ่มถดถอยลงทุกที เนื่องจากบรรดาสัตว์ต่าง ๆ ได้รับอาหารการกินไม่เพียงพอ นโปเลียน โยนความผิดทั้งหมด ให้กับ สโนว์บอล เช่นเคย และสั่งให้บรรดาแม่ไก่ ต้องออกไข่เพื่อให้นำไปขาย แต่พวกแม่ไก่ปฏิเสธ โดยการออกไข่แล้วทำลายทิ้ง นโปเลียน จัดแจงปกปิดความจริง โดยการจัดฉายหนังสารคดี การบริหารงานที่หลอกลวง เพราะมีแต่เรื่องของความสุข ผลผลิตที่ดี และการเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งตรงข้ามกับความจริง ที่มีแต่ความหิวโหย และการทำงานหนัก ขณะที่ผู้นำกำลังสุขสบายกับการดื่มสุราจนเมามาย
สัญญาณที่บ่งชี้ ให้เห็นการปกครองที่กดขี่ของ นโปเลียน มีเพิ่มมากขึ้น เมื่อบ็อกเซอร์ ม้าเทียมเกวียนที่ซื่อสัตย์ เริ่มเจ็บป่วยจากการตรากตรำทำงาน โดย นโปเลียน ให้สัญญาว่า จะนำไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่พวกสัตว์ทั้งหลายเห็นก็คือ บ็อกเซอร์ ถูกบังคับให้ไปกับรถบรรทุกกาว จากนั้นบรรดาหมูก็จัดฉาก ให้ประกาศคำขวัญใหม่ที่ว่า "สี่ขาดี แต่สองขาย่อมดีกว่า" และมีการเปลี่ยนบัญญัติอีกครั้งเป็น "สัตว์ทุกตัวเสมอภาพเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัว ย่อมได้รับความเสมอภาคกว่าบางตัว"
เจสซี่ สุนัขเลี้ยงแกะ ที่บรรดาลูก ๆ ของมันถูกพรากไปเป็นสุนัขรับใช้ที่ดุร้าย ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะหนีออกไปจากฟาร์ม สัตว์บางตัวที่หนีออกจากฟาร์ม ได้ย้อนกลับไปค้นหาความจริง แล้วก็พบว่าการบริหารของผู้นำ เป็นไปด้วยความล้มเหลว และพาไปสู่ความตกต่ำ ลูกของ เจสซี่ ตัวหนึ่ง ที่เคยเป็นสุนัขรับใช้ ได้หลบหนีจากความเลวร้าย และทักทาย เจสซี่ อย่างเป็นมิตร และในพลันที่สัตว์หนีออกมา ก็มีอนาคตที่ดีกว่ารออยู่ คือการได้รับความเห็นอกเห็นใจ จากครอบครัวใหม่ที่เข้ามาดูแล และลูก ๆ รุ่นใหม่ของ เจสซี่ ก็อยู่อย่างมีความสุข