ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวสู่โลกอารยะ เมื่อความเจริญเริ่มรุกล้ำแต่ผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะมีข้าราชการใจคดขายชาติคอยชักใยหนุนหลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อยู่
จังหวัดชุมพร ปีพ.ศ.2481 ทั้ง ๆ ที่ปืนในมือเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวแต่ นายบุตร์ หรือ ร้อยตำรวจโท ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้อาศัยความสามารถ และวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมาเด็ดชีพ เสือสายหัวหน้าโจรผาแดง พร้อมลูกสมุนที่อุกอาจฮึกเหิมบุกเข้ามาปิดเมืองล้อมตำรวจได้เป็นผลสำเร็จ ขุนพันธ์ เลือกที่จะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด โดยทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพันนั่นคือ การเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ อัลฮาวียะลู (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย ครองอิทธิพล แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ เป็นที่เลื่องลือกันว่ามหาโจรผู้นี้แกร่งกล้า
เพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว สามารถเข้าไปในจิตของคู่ต่อสู้ มีกริชเป็นอาวุธ และมีวิธีสังหารเหยื่อพิสดารในดินแดนที่เต็มไปด้วยภยันตรายถิ่นฐานของ อัลฮาวียะลู ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก 2 พี่น้องชาวประมง ไข่โถ (สนธยา ชิตมณี) และ มาลัย (กานต์พิสชา เกตุมณี) ไม่เพียงให้ที่พักแต่ยังฝากงานในสโมสรงาช้างของ หลวงโอฬาร (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ที่ทุกคนเคารพและยำเกรงให้อีกด้วย นอกจากนี้ ขุนพันธ์ ต้องเผชิญหน้ากับ 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็น และไร้ความปราณีอย่าง เสือสัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) และ บุหงา (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้าย
ขุนพันธ์ ได้รู้ความจริงว่าเมืองทั้งเมืองคือ ชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมืองใหญ่ ข้าราชการท้องถิ่นคอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกิน และขายชาติ การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบ และมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้