เรื่องราวการผจญภัยใน Underworld ยังคงสืบเนื่องต่อมาเมื่อ เซลีน่า (เคท เบคคินเซล) แวมไพร์สาวที่โดนตามล่า ได้ออกตามหา มาร์คัส (โทนี่ เคอร์แรน) ราชาแห่งแวมไพร์ โดยเซลีนหวังจะต่อรองเพื่อชีวิตของเธอ ไมเคิล (สก็อตต์ สปีดแมน) ลูกผสมระหว่างแวมไพร์กับไลแคน ต้องการร่วมเดินทางไปกับเซลีน แต่เขาไม่สามารถไว้วางใจความเป็นมนุษย์หมาป่า ที่ควบคุมไม่ได้ภายในตัวเขา เซลีนจึงปฏิเสธไม่ให้เขาร่วมเดินทางไปด้วย ความรักของเขาและเธอได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ทรงพลังยิ่งกว่าชาติกำเนิด อย่างไรก็ดี เมื่อมาร์คัสเข้าโจมตีเซลีน โดยตั้งใจจะทำลายเธอ ในสงครามที่ตามมา เซลีนพบว่าเธอถูกทรยศโดยครอบครัวของเธอเอง และเธอมุ่งมั่นที่จะแก้แค้น
เซลีนออกตามหา เอเดรียน ทานิส (สตีเว่น แม็คกินทอช) นักประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการของพวกโคเว่นส์ เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้เขาไขโยงใยของคำโกหกที่มาร์คัสและวิคเตอร์ (บิลล์ ไนฮีย์) เป็นผู้สร้างขึ้น ในการต่อสู้เพื่อความยิ่งใหญ่ ความลับลมคมนัยยิ่งถลำลึกมากขึ้น เมื่อทานิสเปิดเผยถึงตัวตนของผู้เป็นอมตะคนแรก ที่ไม่ใช่ทั้งมาร์คัสและวิคเตอร์อย่างที่ทุกคนเชื่อกัน แต่เป็น อเล็กซานเดอร์ คอร์วินัส (เดเร็ค จาโคบี้) พ่อของมาร์คัส และพี่น้องฝาแฝดของเขาที่ชื่อ วิลเลี่ยม คอร์วินัส เป็นเหมือนเทพที่มีหูตาอยู่ในทุกหนทุกแห่ง เขาคอยติดตามความเคลื่อนไหวของทุกคน และจัดการเก็บกวาดหลังจากสงครามของพวกเขา โดยคอร์วินัสตั้งใจที่จะเก็บลูกหลานของเขา ให้จำกัดอยู่ในเงามืดของสังคมมนุษย์
เซลีน่าและไมเคิล ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้กับมาร์คัส ผู้มุ่งมั่นและแข็งแกร่ง โดยมาร์คัสตั้งใจจะปลดปล่อยวิลเลี่ยมจากการโดนกักขัง และจะใช้เลือดของเขาเพื่อครองโลกให้จงได้ การเผชิญหน้าแต่ละครั้ง ช่วยเผยความลับใหม่ ๆ ออกมา เป็นการปล่อยแสงส่องสว่างให้กับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และทะลวงผ่านความมืดมิด ของความทรงจำอันแสนเจ็บปวด ที่ถูกฝังลึกเอาไว้...