โครงการ "ภาพยนตร์เฉลิม พระเกียรติเทิดเกล้า" จัดทำขึ้นด้วยการสร้างภาพยนตร์ 9 เรื่องสุดยิ่งใหญ่ที่คนไทยต้องดู โดยได้น้อมนำพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวประทับใจบนแผ่นฟิล์ม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสปีมหามงคล ที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555
"กระท่อมผีป่า" วุ้น หมอหนุ่มไฟแรง ทุ่มเทค้นคว้าวิจัยยาต้านมะเร็งจนกระทั่งประสบผลสำเร็จ แต่ปรากฏว่าเครดิตผลงานกลับตกเป็นของอาจารย์หมอที่ปรึกษาโครงการ วุ้น ไม่พอใจมากจึงตัดสินใจลาออกจากทีมวิจัยแล้วเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านเกิด วุ้น ก็ได้ทราบข่าวการตายของ บอล เพื่อนสนิทสมัยประถมที่เสียชีวิตอย่างลึกลับอยู่ในป่าเพียงลำพัง! เหตุการณ์นี้ ทำให้ วุ้น ย้อนคิดไปถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อ 12 ปีที่แล้ว สมัยที่เขายังเป็นเด็กประถม และเป็นหัวโจกที่ดึงดันจะชวนเพื่อน ๆ เข้าไปที่ กระท่อมผีป่า เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ และ บอล ก็คือคนที่ถูกเขากดดันให้เข้าไปที่กระท่อมเป็นคนสุดท้าย ในคืนนั้น ทุกคนได้ยินเพียงแต่เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวสุดขีด แต่ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่บอลเห็นในกระท่อมคืออะไร แต่สิ่งที่ วุ้น ได้รับรู้ต่อมาก็คือนับจากวันนั้น บอล กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่สุงสิงกับใคร และชอบหายเข้าป่าไปทีละหลาย ๆ วัน จนชาวบ้านต่างลือกันว่า บอล ถูก ผีป่า เข้าสิง ด้วยความรู้สึกผิดในใจ ทำให้ วุ้น พยายามค้นหาสาเหตุว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ บอล เปลี่ยนไป และที่งานศพของ บอล ในคืนหนึ่ง วุ้น ก็ได้มาพบกับ หลิว เพื่อนในวัยเด็กอีกคนที่เข้าไปพิสูจน์ความกล้าด้วยกันในกระท่อมผีป่าคืนนั้น พอ วุ้น ถาม หลิว ถึงเรื่องของ บอล หลิว จึงชวนให้ วุ้น กลับไปค้นหาคำตอบด้วยกันที่กระท่อมผีป่าอีกครั้ง วุ้น แปลกใจกับท่าทีแปลก ๆ ของ หลิว แต่ก็ตัดสินใจตาม หลิวเข้าไปในป่าอีกครั้ง อะไรคือสิ่งที่ บอล เจอในคืนนั้น และอะไรที่รอเขาอยู่ในกระท่อมผีป่า
"ความฝันอันสูงสุด" โต้ง ที่เคยสำมะเลเทเมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อได้ฟังบทเพลง ความฝันอันสูงสุด ที่พ่อให้ไว้ โต้ง ที่ทำตัวหลักลอยค้นพบความฝันของตัวเอง แต่จะกลับมามีโอกาสสร้างความฝันได้หรือไม่
"นายอำเภอกล้วยน้ำว้า" เรื่องราวที่ถ่ายทอดจากชีวิตจริงของ ปชา นักวิจัยข้าวหนุ่มไฟแรง ถูกสั่งย้ายไปที่นครศรีธรรมราช เพื่อไปเวนคืนที่ดินจากประชาชน ซึ่งเป็นที่ดินที่ชาวบ้านหวงแหน ปชา จึงต้องหลบหนีการขู่ฆ่า จากชาวบ้านแม้แต่อาหารก็ยังหาซื้อกินไม่ได้ ปชา ต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ชาวบ้านยอมรับในตัวเขา และยินดีที่จะมอบคืนที่ดินให้กับรัฐด้วยความเต็มใจ
"กฤษฎาภินิหาร" เรื่องราวของเด็กนักศึกษา 4 คน ได้แก่ แอ๊นท์, เบ๊นซ์, แดน และ พล ที่ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมขับรถออกไปเที่ยวในชนบท แต่แล้วรถที่พวกเขาขับมาเกิดเสียตำรวจผ่านมาสองนายเห็นเข้า จึงช่วยลากรถนักศึกษาไปไว้ที่โรงพัก ทำให้เด็ก ๆ ได้พบกับ จ่าแก้ว ในขณะนั้น พล ได้นั่งอ่านหนังสือชื่อ กฤษฎาภินิหารอันบดบังมิได้ จ่าแก้ว จึงได้เล่าถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ผสมผสานระหว่างสมัยของสมเด็จพระนเรศวรกับสมัยของในหลวงปัจจุบัน เด็กวัยรุ่นทั้งสี่ที่แทบจะไม่มีความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเลย พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อได้ทราบเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้
"เพลงของพ่อ" ภารกิจของการเป็นคนสอนดนตรีของ ภานุ นั้นจบลง ภานุ ก้มลงกราบ ครูสุพงษ์ ก่อนจะเอ่ยปากเรียก ครูสุพงษ์ ว่า "พ่อ" วันนี้เป็นวันที่ ภานุ เองก็เฝ้ารอมานานเพื่อที่จะได้กลับมาบ้าน กลับมาหาพ่อของเขาเอง เส้นบาง ๆ ที่กั้นขวางระหว่างพ่อกับลูกถูกดึงขาดออกไป ความรักความห่วงใยเหมือนจะกลับมาอีกครั้ง และเมื่อ ภานุ กำลังจะจากไป สิ่งที่เขาได้รับจากเหล่าเด็กนักเรียนซึ่งมีค่ามากมายสำหรับคนดนตรีอย่างเขานั่นคือ คำว่า "ครู" และเสมือนเป็นสัญญาระหว่างกัน ภานุ สัญญาด้วยแววตาและหัวใจของเขาเอง ว่าเขาจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะของ ครูดนตรี ของโรงเรียนแห่งนี้
"เส้นทางแห่งเส้นชัย" เรื่องราวที่ถ่ายทอดจากชีวิตจริงของแซมซั่น ส. ศิริพร ออกมาเป็นภาพยนตร์ โดยเล่าถึง ส้ม เด็กหญิงวัย 17 ปี ที่ดำเนินชีวิตในทางที่ผิด จนต้องถูกจำคุกนานถึง 10 ปี เมื่ออยู่ในเรือนจำ ส้ม ก็มีเรื่องชกต่อยกับผู้อื่นเป็นประจำ จนกระทั่งได้อ่านพระบรมราโชวาทเรื่อง ความเพียร ประจวบเหมาะกับเมื่อผู้ชักชวนให้ส้มเข้าค่ายชกมวยในเรือนจำ ส้ม จึงตั้งใจฝึกซ้อม และแข่งขันจนได้เป็นแชมป์เปี้ยนโลกหญิงคนแรกของเมืองไทยขณะยังเป็นนักโทษ ด้วยความพยายามของ ส้ม นี้ จะช่วยให้ ส้ม กลับไปมีอิสรภาพอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่
"ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว" เรื่องราวของพี่ชายกับน้องสาวตัวเล็ก ๆ ที่เผชิญปัญหาชีวิต แม่ตาย พ่อป่วย น้อง ไม่ยอมพูด พี่ชายมีชีวิตดำดิ่งลงเรื่อย ๆ จนเขาได้มาทำงานพิเศษกับด็อกเตอร์ที่ทำงานในท้องฟ้าจำลอง ด็อกเตอร์ทำให้สองพี่น้องได้เห็นมุมมองต่อโลกผ่านการพูดคุยกับเธอ และได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตต้องประกอบด้วยความเพียร จึงจะผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ โดยแทนที่จะถามว่าเราจะไปถึงดวงดาวดวงไหนได้ไหม เรากลับต้องถามตัวเองว่า วันนี้ฉันว่ายน้ำแล้วหรือยัง ถ้าอยู่นิ่ง ๆ เราจะจมลงและจะไม่มีทางไปถึงดวงดาวที่อยากไปได้เลย
"นักวิทยาศาสตร์ในแบงก์" เรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ตามหาว่าใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งเรื่องน้ำที่สุด โดยมีคำใบ้จากลุงเพียงแค่ คนที่อยู่ในแบงก์ หลังจากที่เด็กน้อยค้นหาคำตอบมานาน ลุงจึงเพิ่มคำบอกใบ้เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกหลายชิ้นซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันสร้าง วันหนึ่งเด็กน้อยก็ค้นพบคำตอบตอนที่แม่ให้สตางค์ไปจ่ายค่าขนม เขาจึงเก็บแบงก์ใบนั้นมาให้ลุงดูว่าใครเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น
"มหัศจรรย์เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ ตอน ร้อยเรื่องรู้" ขจร คือนักจัดรายการวิทยุที่แฟน ๆ รายการวิทยุของเขาขนานนามให้ว่า อาจารย์ขจร หลังจากได้ฟังการตอบปัญหาทุกอย่างของเขาผ่านรายการวิทยุอย่างฉะฉานชัดเจน โดยไม่มีใครระแคะระคายสักนิดว่า ความรอบรู้ของ ขจร นั้น เป็นเพียงแค่ความรู้ที่จำ ๆ มาเท่านั้น แต่ไม่มีความรู้ใดที่เรียกว่า รู้จริง ได้เลย เรียกง่าย ๆ ว่าขี้โม้นั่นเอง ความศรัทธา และ ความน่าเชื่อถือของเขาถูกสั่นคลอนด้วยคำถามง่าย ๆ จาก เด็กหญิงเขียว เด็กน้อยจากถิ่นห่างไกลที่ว่า แม่ไก่ไม่ยอมฟักไข่จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร? อาจารย์ขจร เดินทางไปหา เด็กหญิงเขียว ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง ปัญหาขี้ปะติ๋วแบบนี้มีหรือเขาจะแก้ไม่ได้ และเมื่อไปถึงก็ต่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่นซะมากมาย ไม้เว้นแม้กระทั่ง ครูดวงใจ ครูสาวเจ้าของวิชาที่ เด็กหญิงเขียว และเพื่อน ๆ จะต้องส่งรายงานเรื่องวงจรชีวิตไก่นี้ด้วย อาจารย์ขจร ทำหลากหลายวิธีเพื่อให้แม่ไก่ยอมฟักไข่ แต่จนแล้วจนรอด แม่ไก่ก็ไม่ยอมฟักไข่ เขาได้แต่หน้าแตกกลับกรุงเทพฯไป ท่ามกลางความผิดหวังของเด็ก ๆ ครูดวงใจ และชาวบ้าน แล้วจากนี้เขาจะให้ใคร ๆ เรียกเขาว่า อาจารย์ขจร ได้อย่างไร ใครจะช่วยให้เด็ก ๆ มีรายงานส่งคุณครู? ขจร ตั้งใจว่าจะค้นคว้าหาวิธีให้แม่ไก่ฟักไข่ให้จงได้ เขาจะเลิกเป็นคนขี้โม้เสียที เพราะการดีแต่พูดไม่เคยสร้างประโยชน์ให้กับใคร แม้กระทั่งตัวของเขาเองเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์ เครือ Major Cineplex เท่านั้น