เข้าฉายครั้งแรก 3 ตุลาคม 2546
ภาพแห่งอดีต จริง ๆ แล้วมันไม่เคยจากไปไหน มันอาจจะซุกอยู่ที่ซอกหนึ่ง ในลิ้นชักความทรงจำ และอยู่อย่างนั้นมาตลอด จนความทรงจำใหม่ ๆ เข้ามาทับ เข้ามาซ้อน ดันมันไปจนสุดลิ้นชัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเพลงอย่างนี้แว่วมา หรือเห็นรูปภาพสีเหลือง ๆ แดง ๆ เก่า ๆ ความทรงจำในครั้งนั้น ก็เหมือนถูกมือซน ๆ หยิบมันออกมาปลุกให้กลับมามีชีวิต... อีกครั้งหนึ่ง
ทุกคนคงมีภาพความทรงจำในวัยเด็กกันทั้งนั้น เหมือนกันในรูปแบบ ต่างกันในรายละเอียด มีสิ่งที่ชอบเล่นเหมือนกัน ผู้ชายอาจจะมีขี่จักรยาน เป่ากบ ผู้หญิงอาจจะมีกระโดดยาง เล่นขายของ ...แต่ผมมีทั้งสองแบบ บางคนอาจจะขลุกอยู่หน้าจอทีวี กับลีลาสุดเท่ของยอดมนุษย์ หรือจอมยุทธจากหนังจีนกำลังภายใน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบใช้ชีวิตนอกบ้าน เที่ยวเล่นจนตัวดำ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กลับมาอีกทีก็เมื่อฟ้ามืด ...แต่ผมเป็นทั้งสองแบบ บางคนอาจจะมีเพื่อนเป็นแก๊งค์ลิงทะโมนอยู่กลุ่มใหญ่ ที่พากันดื้อซนจนแม่ ๆ เอือมที่จะด่า ในขณะที่อีกคนกลับมีเพื่อนน้อยมาก เพื่อนที่ซี้ที่สุดอาจจะมีแค่คนเดียว และเป็นเด็กผู้หญิงแก่นกะโหลกด้วยก็มี ...และผมก็มีทั้งสองแบบ
น้อยหน่า คือชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะบ้านเราอยู่ติดกัน แถมละแวกบ้านเรา ยังไม่ค่อยมีเด็กวัยเดียวกันอีก เราจึงเล่นด้วยกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการละเล่นแบบผู้หญิง พวกกระโดดยาง เล่นขายของก็ตาม ผมก็สนุกที่จะเล่นกับเธอ จนกระทั่ง...ผมเริ่มโต เริ่มอยากเล่นแบบเด็กผู้ชายที่มันโลดโผนบ้าง ถึงขนาดไปขอเข้าแก๊งค์เด็กผู้ชาย ที่เป็นคู่อริกับน้อยหน่าก็ยอม พวกมันยื่นคำขาด ให้ผมพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายให้มันเห็น ลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง สามารถเอาชนะศัตรูได้ และศัตรูของพวกมันก็คือน้อยหน่า และเด็ก ๆ ผู้หญิงละแวกนั้น ...ผมยอมทำ นั่นทำให้น้อยหน่าโกรธผม และอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยก็ได้ และที่สำคัญก็คือ ผมไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ เพราะไม่กี่วันต่อมา เธอก็ย้ายบ้านไปที่อื่น คนละจังหวัดกัน และไม่ได้เจอเธออีกเลย
วันนี้ เธอส่งการ์ดงานแต่งงานมาให้ที่บ้านผม สิบกว่าปีที่เราไม่ได้เจอกัน เธอยังจำเพื่อนคนแรกของเธอได้ ลิ้นชักของเธอคงเป็นระเบียบกว่าของผมเยอะ ไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือว่าเห็นหน้าผมแล้วเธออาจจะงง ว่าไอ้ชายหนุ่มคนนี้ เป็นคนเดียวกับเด็กชายคู่หูเธอคนนั้นหรือเปล่า แต่ผมก็จะไปงานแต่งงานเธอ เพื่อนซี้เมื่อสิบขวบของผม...แน่ ๆ