ความอีโรติกคือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องที่ถูกหลอมรวมเข้ากับแต่ละห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยหลากหลายของมนุษย์ ซึ่งถูกตีแผ่ออกมาเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง บนพื้นฐานของการแสดงที่เน้นในความเรียลลิสติกสมจริงที่สุด
หลุมพราง - นำเสนอภาพความอีโรติก สุดเข้มข้นที่ถ่ายทอดอยู่บนเนื้อหาของเรื่องราวที่สะท้อนเรื่องราวด้านมืดของ เซ็กส์ เงื่อนปมความรักความลุ่มหลง ที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำเมื่อครั้งอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพความรู้สึกที่มีต่อน้าสาวที่ชีวิตวนเวียนอยู่ท่ามกลางวังวนของบ่วงพิศวาสกลับมาสะกิดเตือน และแล้วแต่ละภาพแต่ละเหตุการณ์กลับเด่นชัดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นเงื่อนปมแห่งความพยาบาทที่เต็มไปด้วยความชิงชังดุจหลุมพราง ที่พร้อมจะดักเหยื่อหรือใครก็ตามที่ไม่เคยดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งความลุ่มหลงของกิเลสตัณหาอันนำไปสู่โศกนาฏกรรมโดยมีเซ็กส์เป็นเครื่องต่อรอง
ทฤษฏีบนโต๊ะอาหาร - เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะหลากหลายรูปแบบตั้งแต่บทกวี ละครเวที รวมไปถึงการนำเอาเทคนิคในการถ่ายทำภาพยนตร์มาผนวกเข้ากับการแสดงในลักษณะเหนือจริง ผสมผสานรูปแบบความอีโรติก และศิลปะในแนวเซอร์เรียลลิสต์เล่าเรื่องราวของเพื่อนสาว2คนที่สัมพันธภาพที่แสนเปราะบางของทั้งคู่กำลังถูกทดสอบ เมื่อเพื่อนสาวแอบมี "เซ็กส์" กับชายหนุ่มที่เป็นคนรักของเพื่อน พร้อมกับการตั้งคำถามถึงคนดูว่า "ความสุขที่แท้จริงในชีวิตคืออะไร" หลากหลายสัญลักษณ์ที่รอการตีความจากผู้ชมคือการส่งสารระหว่างผู้กำกับและคนดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยยะบางอย่างที่ผกก.แอบซ่อนไว้ในตัวละคร "ชายตาบอด" ที่ความบกพร่องทางอวัยวะหาได้เป็นข้อจำกัดหรือการกีดกั้นขวางสัมผัสแห่งการรับรู้ถึงความสุขและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อยู่รายล้อมรอบตัวแต่อย่างใด
คู่รักบนดาวโลก - การนำเอาแนวคิดและมุมมองของศิลปะในเชิงเหนือจริง (เซอร์เรียลลิสต์) ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์อีโรติกโดยมุมมองความแตกต่างกันระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ซึ่งมีมุมมอง อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิดไปจนถึงความต้องการทางเพศ โดยสะท้อนผ่านเรื่องราวของหนุ่มสาววัยทำงานคู่หนึ่งในเรื่องความรักเดินทางมาถึงจุดที่ต้องทบทวนสถานภาพและความสัมพันธ์ในกันและกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างต้องย้อนกลับมาตั้งคำถามถึงคุณค่าและความหมายของ "ความรัก" ที่แท้จริงว่าคืออะไร การสะท้อนผ่านแง่มุมที่เปรียบดั่งเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าชายและหญิง