เรื่องของรัก 4 เส้า ชาย 1 หญิง 3 ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งกว่านวนิยาย ระหว่าง เสี่ยหนุ่มใหญ่นักธุรกิจ นายวิชัย ชนะพานิช (รับบทโดย ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) กับเศรษฐีนีสาว น.ส.สุวิมล พงษ์พัฒน์ (รับบทโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล), น.ส.ทิพย์วรรณ แม่บ้านสาวของนายวิชัย และ เชอรี่ แอน (รับบทโดย รุ่งนภา บรู๊ค) เด็กสาวแสนสวย ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน อายุ 16 ปี และแล้ว ความรักที่ทุกคนหลงใหล ก็ได้นำไปสู่โศกนาฏกรรมการตายของ เชอรี่ แอน มีผู้พบศพเธอที่ป่าแสมใกล้ถนนสุขุมวิทสายเก่า หลักกิโลเมตรที่ 42 แถวบางปู สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
หลังการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้ความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.เลิศล้ำ ธรรมนิสา (รับบทโดย สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับ พ.ต.ท.มั่งคั่ง ศรีพรพงษ์ (รับบทโดย ฉัตรกฤษณ์ เพิ่มพานิช) นำไปสู่การจับกุม นายวิชัย ชนะพานิช พร้อมบริวาร 4 คน นายเฉลิมรุ่ง ชวาลชัย (รับบทโดย ทวิน เคล้าเครือ), นายพิพัฒน์ ค้าขจร (รับบทโดย สมหมาย นิลทาง), นายกระสิน มณีกลุ่ม (รับบทโดย วิทวัส ทีทา) และนายธวิช กิจประยุทธ (รับบทโดย บุญส่ง นาคภู่) ในข้อหาจ้างฆ่าและร่วมกันฆ่า โดยตำรวจได้แยกย้ายผู้ต้องหา ออกคุมขังกระจายไปตามสถานีตำรวจจำหวัดสมุทรปราการ
นางไพลิน พี่สาวของเสี่ยหนุ่ม ได้ว่าจ้างสำนักงานทนายเข้าแก้คดี เพ็ญนภา ธรรมรุ่งโรจน์ (รับบทโดย ชฎาพร รัตนากร) ทนายสาวจึงเข้ามารับผิดชอบในคดีนี้ ในระหว่างการถูกคุมขัง ผู้ต้องหาต่างต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ นานา
แม้ว่าเสี่ยหนุ่มใหญ่นายวิชัย จะรอดตัวอย่างหวุดหวิดจากการถอนฟ้องของอัยการท้องที่ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ แต่บริวารของเขา 4 คน ก็ถูกฟ้องร้องด้วยหลักฐานปลอม พยานเท็จ จากการปรุงแต่งของตำรวจชั่ว จนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต และส่งตัวไปจองจำที่เรือนจำบางขวาง
เสี่ยวิชัยรู้ดีว่า ลูกน้องของเขาไม่ใช่ผู้กระทำผิด จึงนำเรื่องร้องเรียนไปทางกองปราบฯ ซึ่งก็ได้ตั้งทีมงานขึ้นสืบสวนลับทันที โดยมี พ.ต.อ.อดิศัย จิตตนะพัฒนา (รับบทโดย อนันต์ สัมมาทรัพย์) เป็นหัวหน้าหน่วย และผู้ช่วย พ.ต.ท.นรินทร์ ธนาธรณ์ (รับบทโดย ปราบ ยุทธพิชัย) ซึ่งร่วมทำงานกับทนายสาวเพ็ญนภาอย่างใกล้ชิด
ทั้งสองออกสืบสวนหาข้อเท็จจริงท่ามกลางการคุกคามอย่างลึกลับ จนได้พบความจริงว่า ผู้ต้องหา 4 คนเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะติดขั้นตอนทางกฎหมาย แพะรับบาปทั้งหมดต้องรอความหวัง จากกระบวนการยุติธรรมของศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ทุกคนจึงต้องแบกรับชะตากรรมอันเลวร้าย ต่อสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 เวลาผ่านไปร่วม 7 ปี ศาลฎีกาได้ยกฟ้องปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับแพะทั้ง 4 คน คือสภาพครอบครัวแตกแหลกสลาย นายเฉลิมรุ่งเสียชีวิตในคุก นายพิพัฒน์และนายธวิช ติดโรคร้ายจากเรือนจำอย่างอ่อนเปลี้ย และเสียชีวิตหลังพ้นโทษไม่นาน เหลือเพียงหนึ่งเดียว นายกระสิน นอกจากต้องต่อสู้กับความปวดร้าวในสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวแล้ว เขายังต้องแบกรับความเจ็บปวดไปชั่วชีวิต จากอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง อันเป็นผลมาจากระบบการสอบสวนผู้ต้องหาของตำรวจเลว ขณะเค้นให้รับสารภาพเมื่อแรกถูกจับกุม
เมื่อคดีเดิมถึงที่สุด กองปราบฯ จึงสามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นฟ้องร้องได้อีกครั้งหนึ่ง และนำไปสู่การจับผู้ต้องหาจ้างวาน น.ส.สุวิมล พงษ์พัฒน์ และติดตามไล่ล่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเชอรี่ แอน คือ นายสมาน ธูปชิบาการ, นายสมจิต ปุญฤทธา, นายสมพจน์ ปุญฤทธา, นายจีระ ว่องไววิทย์ และพยานเท็จ นายประมวล พลัดโพชน์ เพื่อให้ศาลสถิตย์ยุติธรรม พิจารณาตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดจริงจนสำเร็จ และจบด้วยข้อมูลต่างๆ ของผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว...