ช่วงต้นทศวรรษที่ 70 เป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างมากในอเมริกา คนในชาติต่างก็แบ่งขั้วจากความแตกต่างกัน มันเป็นยุคของความขัดแย้ง ตั้งแต่ฮอตแพนต์ ศิลปะแนว ปีเตอร์ แมกซ์ และ แกล็มร็อกเกอร์ อย่าง เดวิด โบวี ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ๆ อย่างเวียตนาม, รัฐเคนทักกี และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสิทธิมนุษยชน และในทุก ๆ ชุมชนในประเทศนี้ การขึ้นรถเมล์ร่วมกันของคนผิวขาวและดำนั้น เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก แต่สำหรับอเล็กแซนเดรียแล้ว มันคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ในเวอร์จิเนียนั้น อเมริกันฟุตบอลระดับไฮสคูล ถือเป็นราชาของรัฐเลยทีเดียว มันเปรียบเป็นวิถีชีวิตของคนที่นั่น เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่ต้องเคารพเทิดทูน แต่ละเกมการแข่งขันจะได้รับการฉลองชัยอย่างยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าเทศกาลคริสต์มาส การได้เข้าเพลย์ออฟแต่ละหน ก็ยิ่งใหญ่เกินกว่างานฉลองวันชาติของอเมริกาเสียอีก และด้วยการยอมรับจากผู้คนในเฉกนี้เอง ฟุตบอลก็ได้ฝังอยู่ในสายเลือดของคนที่นี่เสียแล้ว
ปี 1971 ฟุตบอลระดับไฮสคูล เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผู้คนในอเล็กแซนเดรีย ทว่า เมื่อบอร์ดบริหารของโรงเรียนในท้องถิ่น ถูกบีบให้เกิดการรวมตัวกัน ระหว่างโรงเรียนคนดำล้วน กับโรงเรียนคนขาวล้วน รากฐานประเพณีเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ของฟุตบอลก็ถูกทดสอบ และในสถานการณ์อันคลอนแคลน ที่ดูไม่ค่อยมีหวังนี้เอง เฮอร์แมน บูน (แดนเซล วอชิงตัน) ผู้มาจากเซาธ์แคโรไลนา ก็ได้รับการว่าจ้าง ให้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชของ T.C. Williams High Titans แทนที่ บิลล์ โยสต์ (วิลล์ แพตตัน) โค้ชคนเดิมที่มีอายุแก่กว่าเขาหลายปี ผู้เป็นที่รักและนับถือเป็นอย่างมากของชุมชน แถมยังมีแฟน ๆ คอยให้กำลังใจอย่างเหนียวแน่นอีกต่างหาก
การจ้างบูนมาเป็นโค้ชให้กับ เดอะ ไทแทนส์ ครั้งนี้ นับเป็นสถานการณ์ที่ดูไม่ค่อยมั่นคงนัก แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากทั้งเขาและโยสต์ ต่างก็ได้เรียนรู้ที่ในการทำงานร่วมกัน ทำให้พวกเขาพบว่า แท้จริงแล้วทั้งสองมีอะไรเหมือน ๆ กันนอกจากเรื่องของฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ทั้งคู่เป็นคนหยิ่งในเกียรติและศักดิ์ศรี และมีคุณธรรมในการทำงานอย่างแรงกล้า และแม้ว่าทั้งสองจะมีปูมหลังต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาก็ไม่เพียงแค่ช่วยกันหล่อหลอมกลุ่มเด็กหนุ่มผู้กราดเกรี้ยว ไม่เป็นโล้เป็นพายพวกนี้ ให้มุ่งมั่นในชัยชนะเท่านั้น แต่ยังช่วยสอนให้พวกเขา กลายเป็นเด็กหนุ่มที่ใส่ใจ และมีความรับผิดชอบอีกด้วย ความมุ่งมั่นของพวกเขาที่จะทำงานร่วมกัน และประสบกับชัยชนะนั้น นำมาซึ่งสปิริตของทีม และนำพาให้เมืองที่เคยแตกแยกด้วยอคติและทิฐิ ให้เป็นหนึ่งเดียวอีกด้วย ความรักในเกมกีฬาของทั้งสอง ได้สร้างมิตรภาพให้คงอยู่ตลอดกาล
แม้ว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ได้จารึกชื่อของวีรบุรุษทั้งสอง นามว่า เฮอร์แมน บูน และ บิลล์ โยสต์ ก็ตาม ทว่าก็เพราะพวกเขานี้เอง ที่ทำให้เวอร์จิเนียคงไว้ซึ่งวลีที่ว่า "Remember the Titans"