ในปี ค.ศ. 450 จักรวรรดิจีนถูกคุกคามไม่ลดละจากชนเผ่าโหรวหรันอันป่าเถื่อน กองทัพจีนจึงต้องเกณฑ์ไพร่พลจากทั่วประเทศ มารับมือกับภัยต่อความมั่นคงของชาติ ทหารปลดประจำการชื่อ ฮัวหู่ ยืนกรานจะขอร่วมรบกับกองทัพเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน ในขณะที่ มู่หลาน (จ้าวเหว่ย) ลูกสาวของเขาซึ่งทั้งฉลาดหลักแหลม และมีทักษะทางศิลปะการต่อสู้เป็นเลิศ แต่เป็นผู้หญิงจึงร่วมทัพไม่ได้ ทว่าเมื่อคิดว่าพ่อที่แก่ชราต้องไปตกระกำลำบากในสนามรบ เธอก็ทนไม่ได้เช่นกัน จึงตัดสินใจมอมเหล้าพ่อจนเมามาย แต่งตัวเป็นชาย และเข้าร่วมทัพในชื่อของพ่อ
ระหว่างฝึกหนักในค่ายทหาร มู่หลาน พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอกล้าหาญ ไม่เคยย่อท้อ และช่วยปกป้องหลาย ๆ คนให้รอดพ้นจากนักเลงในกองทัพ กระทั่งกลายเป็นที่สนใจของรองแม่ทัพ เหวินไถ้ (เฉินคุน) หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็พัฒนาความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม มู่หลาน ต้องคอยระวังไม่ให้ใครๆ ล่วงรู้เพศที่แท้จริงตลอดเวลา ครั้งหนึ่ง เหวินไถ้ เห็นเธออาบน้ำโดยบังเอิญ ทว่ายังโชคดีที่หนีไปได้ก่อนที่เขาจะเห็นตัวตนที่แท้จริง แต่กระนั้น เหวินไถ้ ก็ยังมุ่งมั่นจะเปิดโปงหญิงสาวที่หลบซ่อนในกองทัพตามข่าวลือ สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อนักเลงในกองทัพทำจี้หยกหาย ทุกคนต้องเข้าแถวเปลือยกายให้ค้นตัว ด้วยความที่กลัวว่าตัวตนจะถูกเผย ชื่อเสียงของพ่อต้องป่นปี้ มู่หลาน จึงรับเป็นขโมยเสียเอง ซึ่งต้องโทษถึงประหาร ระหว่างถูกจองจำ เธอเล่าความจริงทั้งหมดให้ เหวินไถ้ รู้ ในขณะที่เขาก็ให้สัญญากับเธอว่า จะเก็บไว้เป็นความลับไปจนวันสุดท้ายของชีวิต
ต่อเมื่อเผ่าโหรวหรันบุกโจมตีกะทันหัน เหวินไถ้ จึงปล่อย มู่หลาน ให้เป็นอิสระ ทว่าเธอยังยืนกรานที่จะรบ จนกระทั่งตัดศีรษะนายพลโหรวหรันได้ในที่สุด ด้วยความดีความชอบครั้งนี้ เธอพ้นโทษตายทันที มิหนำซ้ำยังได้เลื่อนขึ้นเป็นรองแม่ทัพอีกคนหนึ่งด้วย มู่หลานและเหวินไถ้ ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันในศึกหลังจากนั้นอีกหลายต่อหลายครั้ง ในขณะเดียวกันมิตรภาพก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความรักทีละน้อย
แต่กระนั้น กองทัพโหรวหรันกลับแข็งแกร่งขึ้น เมื่อ เจ้าชายเม่าตุ้น กระทำปิตุฆาตและขึ้นครองบัลลังก์ พร้อมทั้งยกพลบุกโจมตีสายฟ้าแลบนับครั้งไม่ถ้วน มู่หลาน จึงต้องนำพาความรักและความกล้าหาญ ข้ามผ่านสุดยอดบทพิสูจน์นับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน หรือเธอจะต้องสละรักแท้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองกันแน่?