บัลดาบิอู (อัลเฟรด โมลิน่า) พ่อค้าฝรั่งเศสจอมเจ้าเล่ห์ ถือผ้าคลุมจากญี่ปุ่นในมือ มันเบาบางจนเขารู้สึกเหมือนไม่ได้ถืออะไรเลย "รู้ไหมว่านี่อะไร" บัลดาบิอูถามนายกเทศมนตรีเมืองลาวิลดิเออร์ "ของ ๆ ผู้หญิง" นายกเทศมนตรีตอบ "ผิด" บัลดาบิอูตอบ "เงิน ของ ๆ ผู้ชาย" คนเราสามารถถือไข่ไหมได้หลายพันใบบนฝ่ามือ ปี 1860 โรคระบาดเปบรีน แพร่กระจายทำลายไข่ไหมในแหล่งฟักไข่ทั่วยุโรป ลามไปถึงแอฟริกาและอินเดีย ทำให้การค้าขายผ้าไหมในยุโรปซบเซา เพื่อสานต่อธุรกิจกำไรงาม บัลดาบิอูตัดสินใจส่งนายทหารหนุ่ม แอร์เว่ ฌงกูร์ (ไมเคิล พิตต์) ไปปฏิบัติภารกิจอันตรายในญี่ปุ่น ทำให้แอร์เว่ต้องจำจาก เอแล็น ฌงกูร์ (เคียร่า ไนท์ลีย์) ภรรยาสาวแสนสวยไปไกลหลายเดือน
ญี่ปุ่นเป็นแหล่งผลิตไหมคุณภาพดีที่สุดในโลกมานานกว่าพันปี ตั้งแต่ก่อนการขุดคลองสุเอซ และถือเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับชาวต่างชาติ "ญี่ปุ่นเนี่ย มันอยู่ตรงไหนกันแน่" แอร์เว่ถาม "ก็ไปตามทางนั้นเรื่อย ๆ" บัลดาบิอูยกไม้เรียวขึ้นและชี้ไปที่ยอดเขาเซนต์ออกัสต์ "ตรงไปที่สุดขอบโลก" ในการมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น แอร์เว่ต้องเดินทางข้ามยุโรป เริ่มต้นโดยรถไฟจากเวียนนา ผ่านมอราเวียไปยังเคียฟ ที่นั่น เขาต้องจ้างขบวนคาราวานเพื่อข้ามทุ่งหญ้ารัสเซีย ผ่านทุ่งน้ำแข็งและพายุกว่า 3,000 ไมล์ ต่อด้วยการลงเรือขนของหนีภาษีเพื่อข้ามทะเล จากท่าเรือนามากาตะ แอร์เว่เดินทางเข้าสู่เกาะอย่างลับ ๆ เขาถูกปิดตาไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยฟางแห้ง, ไม้ไผ่ และป่า ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาฟูกิชิม่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
ที่นี่เองที่แอร์เว่ได้พบกับ ฮาร่า จูเบอิ (โคจิ ยากุโช) ขุนนางผู้ทรงอำนาจและน่าเกรงขามที่เขาต้องติดต่อค้าขายไข่ไหมด้วย และที่นี่เอง ที่แอร์เว่เผลอใจให้กับนางบำเรอของฮาร่า สาวน้อยลึกลับผู้มีความงามชวนหลงใหล ทั้งคู่พูดภาษาของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็ปล่อยตัวให้จมลงสู่ห้วงรักต้องห้ามของกันและกัน