ร่างไร้ชีวิตของหญิงสาวถูกพบที่แอ่งดินในป่าละเมาะแห่งหนึ่งของเมืองซานเบนนิโต ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย แคสซี่ เมย์เวทเทอร์ (แซนดร้า บูลล็อค) นักสืบผู้เชี่ยวชาญคดีฆาตกรรมและสอบสวนสถานที่เกิดเหตุ ได้รับมอบหมายให้ติดตามคดีนี้ร่วมกับคู่หูคนใหม่ของเธอ แซม เคนเนดี้ (เบน แชบปลิน)
ทั้งคู่ได้ดำเนินการตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างจนละเอียดลออ และพบว่าหลายสิ่งบ่งถึงการต่อสู้อย่างรุนแรง แต่แคสซี่มีความรู้สึกลึก ๆ ว่ามีอะไรที่มากกว่าการฆาตกรรมทั่วไปอย่างที่เห็นอยู่ บางสิ่งบางอย่างทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อเธอต้องเข้าฟังการทำทัณฑ์บนของคดีตำรวจซึ่งเหมือนเป็นการทำให้เธอต้องย้อนไปในอดีตอีกครั้ง
แคสซี่ทุ่มเทกายใจเพื่อไขความลับดำมืดของคดีนี้ และเพ่งความตั้งใจรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเท่าที่จะหาได้เพื่อนำมาวิเคราะห์ รวมทั้งพยายามแกะรูปร่างหน้าตาของฆาตกรจากร่องรอยที่เหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ คู่หูคนใหม่ของแคสซี่ คือแซมซึ่งเป็นคนฉลาดและขยัน เขายังมีความอดทนสูงและชื่นชมความเฉียบแหลมของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์กับใคร แต่แซมก็ปลื้มที่มีผู้ฝึกสอนอย่างแคสซี่และมองข้ามเรื่องราวที่ไม่ค่อยราบรื่นกับคู่หูในอดีตของเธอไปได้
จากหลักฐานที่นักสืบทั้งสองค้นพบนพวกเขาไปสู่หนุ่มน้อยนามริชาร์ด เฮย์วู้ด (ไรอัน กอสลิ่ง) ซึ่งเป็นเจ้าของรองเท้าบู๊ตแบบพิเศษ ซึ่งเป็นคู่เดียวกับที่ฆาตกรสวมในที่เกิดเหตุ ริชาร์ดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีรวมทั้งมีพยานยืนยันให้เขาอย่างแน่นหนา แม้ว่าแคสซี่จะพบทางตันกับริชาร์ด แต่เธอก็ยังสงสัยว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางแสนจะบริสุทธิ์ของเขา
หลังพบกับริชาร์ด แคสซี่และแซมเริ่มที่จะมองหลักฐานไปคนละทาง จากหลักฐานและทุกรายละเอียดที่ฆาตกรทิ้งรอยไว้ แคสซี่ดูเหมือนจะตัดสินทุกอย่างด้วยสัญชาติญานและลางสังหรณ์รวมทั้งจากรอยอดีตของเธอ และสรุปทุกอย่างเข้าด้วยกันโดยทฤษฎีที่ว่าริชาร์ด เฮย์วู้ดและเพื่อนลึกลับของเขาจัสติน เพนเดิลตัน (ไมเคิล พิตต์) ร่วมมือกันวางแผนฆาตกรรมอำพราง ความเชื่อมั่นในทฤษฎีนี้ทำให้เธอตัดขาดจากแซมและยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับหน้าที่การงานของเธอในที่สุด
ริชาร์ดและจัสตินดูแล้วไม่น่าที่จะเป็นเพื่อนกันได้เลย แม้ว่าทั้งคู่จะมาจากครอบครัวชั้นกลางเหมือนกัน แต่ทั้งคู่มีบุคคลิกที่ต่างกันคนละขั้ว จัสตินเป็นหนอนหนังสือที่รังเกียจตนเอง เป็นคนโรแมนติคและเวียนว่ายอยู่ในโลกของ Rimbaud และ Nietzche เขาถูกทอดทิ้งอยู่เดียวดายในบ้านหรูหราแต่ขาดความอบอุ่น ส่วนริชาร์ดในทางตรงกันข้ามเป็นคนมีเสน่ห์ นุ่มนวลและช่างจัดการ เขาใช้หน้าตาหล่อเหลาของเขายั่วยวนคนอื่นเพื่อความสนุกโดยแท้ และยังมีความเป็นนักจิตวิทยาโดยกำเนิดอย่างที่พวกต่อต้านสังคมหรือปรวนแปรทางเพศทั้งหลายเป็น ทั้งคู่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ แต่ผู้ให้กำเนิดพวกเขาก็จะปรนเปรอแต่ความสุขทางวัตถุ โดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพหรือรับผิดชอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โลกของพวกเขาคือครอบครัวของเขาเท่านั้นจึงไม่มีความรู้สึกผูกพันหรือรับผิดชอบต่อสังคมภายนอก พ่อแม่เป็นผู้จัดหาสิ่งปรนเปรอความสุขและพึงพอใจที่ตนประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน โดยอ้างว่าทำทุกอย่างเพื่อลูก
ในความเหมือนที่แตกต่าง จัสตินซึ่งขี้อายและริชาร์ดผู้ทรงเสน่ห์กลับกลายเป็นความคล้ายคลึงกันในส่วนลึก ทั้งคู่ได้พบกันและกลายเป็นเพื่อนกันอย่างลับ ๆ และได้ดัดแปลงบ้านร้างให้กลายเป็นคลับเฮาส์เพื่อพบปะโดยไม่มีใครรู้ เวลาผ่านไปเป็นเดือน ๆ เมื่อทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกันแบ่งปันความลับและจินตนาการของคนหนุ่ม ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ พวกเขาได้วางแผนทำบางสิ่งเพื่อยืนยันความซื่อสัตย์ต่อกันและกันด้วยการร่วมประสพการณ์ที่น้อยคนจะได้รู้ "เรามาก่อคดีฆาตกรรมอำพรางกันเถอะ" มันอาจเริ่มจากเรื่องตลก แต่เรื่องตลกกลับกลายเรื่องจริง อย่างน้อยก็ตามทฤษฎีของแคสซี่ซึ่งเกิดจากประสพการณ์ในอดีตและความเปรื่องปราดในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การไขคดี "ฆาตกรรมอำพราง" ผลักดันให้แคสซี่ เมย์เวทเทอร์ต้องเผชิญหน้าและปลดปล่อยตนเองให้หลุดพ้นจากอดีตฝังใจที่ระทมทุกข์ของเธอให้ได้