รัฐบาลออกมาประกาศอิสรภาพให้ชาวไทยทั้งประเทศ โดยการประกาศชำระหนี้คืนให้กับ IMF (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ - International Monetary Fund) ทั้งหมด สร้างความไม่พอใจให้กับองค์กรลึกลับ ภายใต้การนำของผู้มีอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทางองค์กรจึงคิดแผนปฏิบัติการปล้นครั้งนี้ขึ้น ภายใต้ชื่อว่าแผนปฏิบัติการปล้น 102 นาที เพื่อจะขโมยทอง หรือเงินทุนสำรองของคนทั้งประเทศ ภายใต้การนำของ นาวิน (อำพล ลำพูน) อดีตนายทหารฝีมือดี ซึ่งเคยผ่านสมรภูมิรบกับกองโจรพม่า ตามแนวตะเข็บชายแดน นาวินถูกเรียกตัวให้เข้ามารับผิดชอบปฏิบัติการนี้จาก นายพลอนุสรณ์ (โสธรณ์ รุ่งเรือง) ผู้ซึ่ง นาวิน มีหนี้ชีวิตที่ติดค้างอยู่
แผนปฏิบัติการ 102 นาทีเริ่มดำเนินขึ้น พร้อมกับการสืบหาข้อมูลของหัวหน้ากลุ่มองค์กรลับของ พ.ต.ต. ปกรณ์ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) นายตำรวจฝีมือดี สังกัดหน่วยป้องกัน และปราบปรามการก่อวินาศกรรมข้ามชาติ เรียกได้ว่าเป็นตำรวจที่ความรับผิดชอบต้องมาเป็นที่หนึ่ง ปกรณ์ มีหน้าที่สืบหาข้อมูลลับ ของแผนปฏิบัติการนี้ทั้งหมด เพื่อยับยั้งไม่ให้แผนปล้นแบงค์ชาติลุล่วงไปได้ เขาได้เข้ามารับผิดชอบคดีนี้ กับเวลาที่หลงเหลืออยู่แค่เพียง 102 นาที หากปฏิบัติการ 102 นาทีสำเร็จเมื่อไร ชาวไทยทั้งประเทศต้องตกอยู่ในภาวะอันตราย ถือเป็นการทำงานภายใต้ความกดดันของ ปกรณ์ เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีความขัดแย้งระหว่างทหาร ที่ความคิดไม่ค่อยจะลงรอยกัน แต่อย่างไรก็ตาม เงินต้องถูกโอนให้ IMF เพื่อปลดหนี้ของคนทั้งประเทศให้ได้ นั่นเป็นคำขาดจากรัฐบาล
ระเบิดปริมาณมหาศาลถูกวางไว้ทั่วกรุงเทพฯ ปกรณ์ จำต้องสืบให้รู้แผนการทั้งหมด ในการปฎิบัติการของ นาวิน ครั้งนี้ ในขณะที่แผนปฎิบัติการ 102 นาทีดำเนินไป จุดหมายสูงสุดของแผนก็ค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้น ทองคำจำนวน 75 ตัน ในห้องมั่นคงของแบงค์ชาติ คือจุดประสงค์ของปฎิบัติการครั้งนี้ ปกรณ์ และทีมกับปฎิบัติการ 102 นาทีของ นาวิน ทั้งสองจำต้องขับเคี่ยวกัน เพื่อแข่งกับเวลาที่กำลังจะหมดลง รวมทั้งมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น พร้อม ๆ กับแผนปฏิบัติการ 102 นาที ปกรณ์ กับ นาวิน ใครจะถึงจุดหมายก่อนกัน ซึ่งเป็นที่คนทั้งสองรู้อยู่ในใจ