เข้าไปร่วมโปรเจกต์นี้ได้อย่างไร
ทราบข่าวการรับสมัครนักแสดงสำหรับภาพยนต์เรื่องนี้ จากโซเชี่ยลมีเดียครับ เห็นว่าน่าสนใจดี ก็เลยลองสมัครดู และไปแคสติ้ง จากนั้นก็ได้รับเลือกจากผู้กำกับครับ และบินไปถ่ายทำที่สิงคโปร์
อยากให้คุณเอี่ยว พูดถึงการทำงานร่วมกับ อิริค คู และความประทับใจ ในการแสดง IN THE ROOM
เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ดีที่สุดในชีวิต คุณอีริค เป็นมืออาชีพมากๆ รวมถึงทีมงานทุกคนด้วย ซึ่งให้เกียรติและดูแลผม ซึ่งไม่ใช่นักแสดงที่โด่งดังอะไรอย่างดี และเหมือนกับนักแสดงท่านอื่นๆ ที่ต่างก็มีชื่อเสียงในประเทศของตน เป็นความประทับใจที่ได้เข้าไปทำงานในโรงถ่าย ซึ่งสร้างฉากขึ้นมาเป็นโรงแรมได้สวยงาม คุณอีริค ใจดี และไม่กดดัน เขาค่อนข้างเชื่อด้วยซ้ำว่าเราสามารถทำได้ แต่ตัวเราเองเสียอีกที่กดดัน เพราะปกติจะคุ้นชินกับการแสดงละครเวทีมากกว่า ชินกับการสร้างอารมณ์ต่อเนื่องแล้วค่อยๆไป แต่กับงานภาพยนต์มันแตกต่างกัน เราจะต้องเล่นซีนเดิมๆ หลายครั้ง และมีทีมงานอยู่รายรอบเรามากมาย และเรามีชั่วโมงทำงานและตัวทีมงานเองก็ควบคุมตารางการทำงานอย่างเคร่งครัด หลังการทำงาน คุณอีริค และ คุณฟงเชง โปรดิวเซอร์ ก็เป็นกันเอง พาไปทานข้าว นั่งคุยกัน และร่วมแชร์ประสบการณ์ทางการทำงาน ที่ยิ่งว่านั้นคือ ผมได้รับเชิญให้ไปชมภาพยนตร์ที่สิงค์โปร์ และร่วมเดินพรมแดงในรอบเวิร์ลพรีเมียร์ ที่มารีน่า เบย์แซน ซึ่งคุณอีริคและทีมงานของ Singapore International Film Festival ดูแลเราดีมากๆครับ
บทบาทที่คุณได้รับแรงมากแค่ไหน
ผมรับบทเป็นนักธุรกิจไทยในช่วงยุค 70 ที่พาแฟนของเราซึ่งเขาเป็นกระเทย ไปผ่าตัดแปลงเพศ และ เราก็เข้าพักที่ห้องนี้ ในคืนก่อนการผ่าตัด เราก็พยายามโน้มน้าวแฟนเราให้เปลี่ยนใจ เพราะเราชอบที่เขาเป็นอย่างนี้ และเรามีความสุขกับสรีระของเขาแบบที่เป็นอยู่ แล้วเราก็มีเซ็กส์กัน เพื่อเป็นการสั่งลาความเป็นชายของเขา เป็นบทที่แปลกดีครับ และก็น่าสนใจ ผู้ชายคนอื่นๆ ในเรื่องต้องเกือบเปลือยกันหมด แต่มีผมคนเดียวที่ไม่ต้องถอดเสื่อผ้า รวมถึงทรงผมที่ต้องใส่วิกเพื่อให้เป็นคนยุคนั้นเลย ในส่วนของการแสดงเวลาถ่ายทำจริงก็ผ่านได้ในเทคแรกๆ เลยครับ เพราะผมบอกทางคุณอีริคและทีมงานว่า จะทำอะไรกับผมก็ได้ ขอให้ผมออกมาเป็นอย่างที่ผู้กำกับต้องการ และทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์ที่สุดครับ
ประเด็นของการที่หนังโดนแบน
เท่าที่ทราบจากคุณอีริคและทีมงาน ซีนที่ผมเล่นนเป็นหนึ่งในซีนที่ทาง กองเซ็นเซอร์ของสิงคโปร์ให้ตัดออก แต่คุณอีริคยืนยันว่าจะไม่ตัด และจะไม่ฉายในสิงค์โปร์ก็ได้ ซีนที่ผมเล่นนั้น ไม่ได้โป๊เปลือยอะไรมากมาย แต่คอนเทนต์และภาพที่ออกมาค่อนข้างดูแรงเลยที่เดียว และมันเป็นซีนที่เป็น LGBT ทางการของสิงคโปร์์ก็ไม่ค่อยยอมรับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ครับ นอกจากซีนผม ซีนอื่นก็ค่อนข้างเปลือยเนื้อหนังมังสากันพอตัวเลยทีเดียว และมันเป็นหนังอีโรติเรื่องแรกของสิงคโปร์ครับ แต่เนื้อหาของหนังนั้นน่าสนใจและโดนใจมากครับ