ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > สัมภาษณ์ดารา

"เกรซ" ทำดีด้วยหัวใจ ตั้งปณิธานตามรอยพ่อของแผ่นดิน

31 ต.ค. 2559 11:51 น. | เปิดอ่าน 1526 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางความโศกเศร้า นั่นคือความรักความสามัคคีของคนไทยทุกอาชีพ ทุกหมู่เหล่า รวมไปถึงกลุ่มศิลปินดาราที่สลับหมุนเวียนกันมาเป็น "จิตอาสา" ไปร่วมแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล แก่ประชาชนที่ตั้งใจเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ "ดาวต่างมุม" สัปดาห์นี้ เลยถือโอกาสนัดพูดคุยกับหนึ่งในจิตอาสา สาวเกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ที่จะมาเล่าถึงความภาคภูมิใจในฐานะพสกนิกรไทย และการตั้งปณิธานทำความดีตามรอยพ่อของแผ่นดิน

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @gracekanklao (IG)

 

พูดถึงจุดเริ่มต้นการเป็นจิตอาสาที่สนามหลวง?

"จุดเริ่มต้นที่เกรซเริ่มไปเป็นจิตอาสา ก็คือ วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เกรซเห็นประชาชนไปรอรับพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กันเยอะมาก เห็นคนเป็นลม เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง วันรุ่งขึ้นก็เลยรวมพลกับเพื่อน ๆ ไปซื้อของที่คิดว่ามีความจำเป็น แล้วก็ขนใส่รถกระบะมาที่สนามหลวง วันแรกที่เราไปก็รู้สึกมีความสุข ไม่ได้คิดเหมือนกันว่าจะมีวันต่อ ๆ มา แต่พอไปแล้วรู้สึกว่าชีวิตเรามีคุณค่าสำหรับคนอื่น ๆ คนที่ไปอยู่ตรงนั้นทุกคนมีความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ซึ่งสิ่งที่เกรซทำก็เหมือนไปมอบความสุขทางกายให้เขา ถึงแม้จะทำได้เล็กน้อยก็ตาม เพราะเวลาเราไปก็จะมีคนเข้ามาพูดคุยกับเรา ทำให้เรารู้ว่าคุณยายบางคน คนในหมู่บ้านเขาต้องรวมเงินมาให้เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน เพราะเขาไม่ได้มีเงินมากรุงเทพฯกันทุกคน พอเขามาปุ๊บเขาก็มาเก็บความรู้สึกนี้ เก็บภาพเหล่านี้ เอาไปเล่าให้คนในหมู่บ้านนั้น ๆ ที่ฝากส่งใจมา พอเกรซได้รับฟังก็ทำให้เราคิดเลยถ้าเรามีแรงไหวจะต้องมาทุกวันให้ได้"

เวลาไปเป็นจิตอาสา ต้องทำอะไรบ้าง?

"เราก็ซื้อของไปแจกตามความเหมาะสม อย่างช่วงตอนกลางวันก็จะไม่ค่อยมีใครไปแจก เพราะแดดมันร้อน แต่เกรซไปช่วงเวลานั้นเพราะคิดว่าของที่เราซื้อมาเนี่ย คนที่ได้รับไปต้องได้ใช้ประโยชน์ ไม่ใช่แจกพัดตอนกลางคืนที่ลมโกรก หรือแจกยาดมตอนที่เขาไม่ได้ใช้กันแล้ว ซึ่งคนที่ได้ใช้ของที่เราแจก คือคนที่ต่อแถวรอลงนามแสดงความอาลัย และไปเคารพพระบรมศพพระองค์ท่าน อีกอย่างหนึ่งคนแก่ ๆ จะมาช่วงกลางวัน 60-70 เปอร์เซ็นต์เลย นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เกรซไปแจกช่วงกลางวัน แต่ถ้าวันไหนเราไม่มีงานอยู่ยาวถึงกลางคืนได้ก็จะอยู่ แล้วเราก็ไม่ได้แจกสุ่มสี่สุ่มห้า บางวันยาดมเรามีจำกัด ก็ต้องขออนุญาตว่าให้กับคนแก่จริง ๆ ได้ไหมคะ เพราะบางทีในมือเราเหลือยาดมแค่ 20 อันแล้ว แต่เห็นคุณป้าคุณยายที่อยู่ท้ายแถวยืนเอามือปาดเหงื่ออยู่อีกไกลเลย"

เห็นไปแจกของที่หัวลำโพงมาด้วย?

"ก็มีบางวันที่เราไป 2 ที่ค่ะ แต่ถ้าวันไหนจะไปหัวลำโพงด้วย ก็ต้องเลือกเวลาให้ดี ต้องศึกษาข้อมูลก่อนไปลงพื้นที่ว่าคนเขานอนเวลาไหน คนที่เขาอดอยากเวลาไหน คนที่เขาขึ้นรถกลับกันเวลาไหน เราจะไปได้ถูก"

 

 

เห็นคนเยอะมาก เวลาไปบางทีมีความรู้สึกเหนื่อย หรือจะเป็นลมบ้างไหม?

"บางวันเราไปก็รู้สึกจะเป็นเหมือนกัน เพื่อนแอบถ่ายรูปตอนที่เกรซยื่นยาดมแจก แล้วตัวเองก็ดมยาดมอยู่ด้วย (ยิ้ม) ก็มีคนถามว่าเราเอาแรงมาจากไหนมากมาย ตอนนั้นคำตอบและความรู้สึกก็เข้ามาในหัว ก็คือเราได้แรงพวกนี้มาจากคนบนฟ้า คนที่ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว คนที่เราไม่เคยเห็นหน้า เราเห็นภาพท่านแต่ตามโซเชียล ตามข่าว คิดดูว่าเกรซเป็นคนยุคนี้ยังซึมซับมาได้ประมาณหนึ่ง แล้วคนแก่ที่อายุ 70-80 ปี ที่ดูข่าวพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านทุกวัน ก็ต้องยิ่งผูกพัน  แต่เกรซว่าความรู้สึกว่าเหนื่อยของเราแค่นี้ เทียบไม่ได้กับเวลาที่ท่านทรงงานหนักเลย เวลาที่เราหลับแล้วแต่ท่านยังไม่ได้หลับ ยังต้องทรงงานอยู่เรื่อย ๆ คน ๆ หนึ่งทำงานหนักมา 70 ปี แต่เราตากฝน ตากแดด ติดกัน 10 วันก็ป่วยแล้ว แล้วทำไมประชาชนคนไทยจะไม่รักท่าน ไม่มีเหตุผลเลย"

ฉายานางฟ้าสนามหลวง?

"ไม่ใช่หรอกค่ะ ความจริงแล้วทุกคนตรงนั้นเป็นนางฟ้าสนามหลวงกันหมดทุกคน เพราะว่าคนที่ไปบ่อยกว่าเกรซยังมีอีกเยอะ คนที่อยู่นานกว่าเกรซยังมีอีกเยอะ บางคนขนของมาตั้งแต่ตีสี่อยู่ถึงเที่ยงคืน เพียงแต่เขาไม่ใช่คนในสื่อ แต่เกรซเป็นคนที่อยู่ในสื่อ คนอื่น ๆ ก็เลยมีโอกาสได้เห็นเท่านั้นเอง แต่เกรซก็ต้องขอบคุณที่คนเห็นการกระทำของเรา ขอบคุณข้อความที่ส่งกำลังใจมาในอินสตาแกรม บางคนได้รับของไปก็กลับมาคอมเมนต์ด้วย ก็เป็นอะไรที่ชื่นใจ เพราะปกติทำงานมาเหนื่อย ๆ แทนที่เราจะเอาเงินไปซื้อของให้ความสุขกับตัวเอง เราเอาเงินตรงนี้มาซื้อความสุขให้กับคนอื่นและกระจายวงกว้าง ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นไปอีก จริง ๆ เกรซเองไม่เคยลุกมาทำอะไรแบบนี้นะคะ นี่เป็นครั้งแรก แต่ที่เราลุกขึ้นมาทำก็เพราะพระองค์ท่านนี่แหละค่ะ"

ในแง่มุมที่ดีของสนามหลวง แต่ก็มีบางส่วนที่ดราม่าด้วย?

"เกรซก็ได้อ่านเหมือนกัน คือต้องบอกว่าโลกเรามีสองด้านอยู่แล้ว คนเรามีเส้นมาตรฐานของความรู้สึกความนึกคิด และไตร่ตรองไม่เท่ากัน บางคนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไร บางคนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม ตรงนี้เป็นวิจารณญาณของแต่ละคน เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องหาตรงกลาง หาคำว่าพอดีให้เจอ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ทะเลาะกัน ให้คนบนฟ้ามองลงมาแล้วจะไม่ต้องทรงวิตกกังวลอีกแล้ว เกรซมองแล้วก็สงสารดาราคนอื่น บางคนก็มาเป็นจิตอาสาทุกวันเหมือนเกรซ ก็ยังโดนเลย ก็งงเหมือนกัน เพราะถ้าพวกเราจะมาเพื่อสร้างภาพ มาแค่สองวันก็ได้ แต่นี่เรามาทุกวันเพื่ออะไร ในเมื่อเวลาของเราก็มีค่าเหมือนกับเวลาในชีวิตของทุก ๆ คน แต่เราก็เลือกจะทำสิ่งที่มีค่ามากกว่าตัวเรา อย่ามองว่าเราเป็นดารา เพราะตอนที่เราไปเป็นจิตอาสา เราไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นดารา เราก็เป็นลูกของพ่อคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะทุกคนก็เป็นลูกของพ่อ ทุกคนก็มีหัวใจที่แตกสลายเหมือนกัน อย่าตัดสินคนอื่นถ้าคุณเป็นคนที่แค่โพสต์อย่างเดียว ไม่ได้ลุกขึ้นมาทำอะไรแบบเรา"

 

 

จากเหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้ เราได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอีกบ้างไหม? 

"ใช่ค่ะ เกรซก็มีไปทำบุญร่วมกับพี่น้องนักแสดงคนอื่น ๆ ทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลครบรอบ 7 วัน (สัตตมวาร) ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แล้วก็มีไปทอดกฐินตามต่างจังหวัด ตามวัดป่าต่าง ๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย คือเกรซคิดว่าถ้าเรามีกำลังที่จะทำอะไรได้เล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ทำ หรืออย่างล่าสุดที่ไปร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา เราก็ไปร้องเพลงและแจกของด้วย อยู่ถึงตอนกลางคืนเลย เพราะเรารู้สึกว่าอยากเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งวันนั้นมีประชาชนมาเยอะมาก ๆ ไม่มีที่เดินเลย แล้วฝนก็ตก แต่ทันทีที่เปล่งเสียงร้องเพลงฝนก็หยุดทันที แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันหุบร่ม ร้องเพลงแสดงความอาลัย ก็เป็นอะไรที่กินใจเรามาก ๆ"

มีไปร้องเพลงเพื่อพระองค์ท่านกับทางช่อง 7 มาด้วยใช่ไหม? 

"ใช่ค่ะ เป็นโปรเจคท์ใหญ่ของช่อง เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อพ่อ เราก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง เพราะทุก ๆ ท่อนมีความหมายมากจริง ๆ นอกจากจะได้ร้องในท่อนฮุคแล้ว ทางช่องก็มอบหมายให้เกรซร้องคอรัสด้วย เราก็ดีใจที่ทางช่องมั่นใจในตัวเรา เราก็เต็มที่เลย เป็นการร้องเพลงที่ยากที่สุดจริง ๆ เพราะการร้องเพลงต้องดึงอารมณ์จากข้างใน เราก็เลยร้องเพลงไป ร้องไห้ด้วยความตื้นตันไป ก็น่าจะได้ชมกันเร็ว ๆ นี้ ส่วนผลงานอื่น ๆ ก็รอเปิดกล้องปีหน้า เพราะช่วงนี้เกรซก็อยากทำอะไรที่อยากทำก่อน ตอนนี้เป็นจิตอาสาอยู่ แต่ถ้าวันไหนมีเวลาว่างก็จะร้องและแกะเพลงพระราชนิพนธ์ที่ยังไม่เคยร้อง หรือเพลงเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 หลาย ๆ เพลง คิดว่าจะหาเวลาว่างทำ"

จำได้ว่าเมื่อปี พ.ศ. 2548 เกรซเคยเล่นละครเฉลิมพระเกียรติ? 

"ตอนนั้นเกรซได้เล่นละครเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง ประทีปแห่งแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2548 ก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่าละครพวกนี้จะไม่มีค่าตัว และตอนนั้นเกรซเพิ่งเล่นละครเรื่องแรก คือเรื่อง "ดวงใจและสายน้ำ" ของค่ายดาราวีดีโอ เกรซก็เลยได้มีโอกาสไปเล่นละครเฉลิมพระเกียรติด้วย จำได้ว่าตอนนั้นถ่ายทำกันจนเกือบเช้าเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร เรายังชื่นชมในบทบาทด้วยซ้ำ ว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น จำได้ว่าตอนนั้นใส่ชุดผ้าไทยพื้นเมือง เกรซไม่ทราบว่าพระองค์ท่านจะได้เห็นหรือเปล่า แต่จะเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่เราก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในละครเรื่องนี้"

 

 

อยากให้เกรซพูดถึงความประทับใจที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9?

"ครอบครัวเกรซถูกปลูกฝังในเรื่องของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มาตั้งแต่เด็ก ๆ เกรซเกิดวันรัฐธรรมนูญด้วย คุณพ่อก็เลยตั้งชื่อว่ากาญจน์เกล้า ส่วนน้องสาวคนเล็กเกรซชื่อ ด้วยเกล้า มาจากคำว่า "ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม" เพลงแรกที่เกรซเล่นเปียโนเป็นและร้องเพลงได้คือเพลง "ใกล้รุ่ง" เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ แล้วที่บ้านเกรซจะมีรูป ๆ หนึ่งที่คุณพ่อกับคุณย่าทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อแผ่นดิน ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรับด้วยพระองค์เอง เราเห็นภาพนั้นมาตั้งแต่เกิดเลย เป็นความภูมิใจของครอบครัวเรามาก เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยเลยว่าทำไมเราถึงรักท่าน เกรซมองว่าพระองค์ท่านเป็นสิ่งมหัศจรรย์ พระองค์มีหนึ่งสมองกับสองมือเหมือนกับพวกเราทุกคน แต่สามารถบันดาลสิ่งดี ๆ สามารถสร้างสรรค์ และแก้ไขจุดบอดต่าง ๆ ในประเทศ สามารถสมานแผลของความไม่สามัคคี ความแตกแยกในประเทศ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การคมนาคมต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหายิบย่อยมาก ๆ พระราชกรณียกิจของพระองค์มี 4,400 โครงการ ปีหนึ่งมี 365 วัน ต่อให้เรามานั่งพูดกันวันละเรื่องว่ามีอะไรบ้าง 10 ปี ยังพูดกันไม่หมดเลย พอเกรซได้ทำงานตรงนี้ แล้วต้องทำหน้าที่พิธีกรด้วย เราเลยต้องเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจเยอะมาก พอเราได้ศึกษาจริง ๆ เราก็ยิ่งตื้นตัน ว่าเราเป็นแค่รอยเท้า เป็นแค่เศษดินจริง ๆ เกรซเข้าใจความหมายของคำว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเลยว่าเป็นอย่างไร (น้ำตาคลอ) พระองค์ท่านคือเทวดาเดินดิน ที่หาอะไรเปรียบไม่ได้จริง ๆ"

มีคำสอนไหนของพระองค์ท่านที่เกรซนำมาปรับใช้ในชีวิตบ้าง?

"เศรษฐกิจพอเพียง เป็นอีกข้อหนึ่งที่เกรซนำมาปรับใช้ในชีวิต คำว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" ไม่ใช่ประหยัด แต่คือการพึ่งพาตัวเองได้จากสิ่งที่เรามีอยู่ เพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรม เรามีทรัพยากร มีของในมือ มีทรัพย์สินทางปัญญาเยอะมาก ที่คนทั่วโลกนับถือ แต่คนไทยกลับมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป ถ้าเราพอใจในสิ่งที่เรามี เราพอเพียงสิ่งที่ตัวเองมีแล้ว ก็จะเหมือนที่จิตอาสาทุก ๆคนทำ คือเราแบ่งปันให้กับคนอื่น มอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เขายังขาด นั่นเป็นการเติมเต็มช่องว่างของแต่ละคนที่มีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากันอาจจะเป็นเพียงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อย่างน้อยแค่คำว่าพอเพียง จะทำให้เราไม่เกิดการแก่งแย่งชิงดี เราไม่เป็นหนี้ เศรษฐกิจจะดี สังคมจะน่าอยู่  นักการเมืองก็จะไม่ฉ้อโกงประเทศเหมือนที่ผ่านมา เราก็จะมีเงินทำนุบำรุงประเทศเราในจุดบอดต่าง ๆ ได้มากขึ้น ประเทศก็จะเจริญไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย ถึงแม้เราจะสูญเสียมหาราชาที่เรารัก แต่เราก็ทำให้โลกรู้ว่า เราจะเป็นปึกแผ่นหลังจากนี้ มันอาจจะช้า แต่ไม่มีคำว่าสายเกินไป เพราะเกรซเชื่อว่ายังไงพระองค์ท่านจะทอดพระเนตรลงมาจากฟ้า"

สุดท้าย ช่วงเวลานี้อยากฝากอะไรถึงคนไทยด้วยกัน?

"เกรซอยากฝากให้คนไทยทุกคนจดจำช่วงเวลานี้ แล้วก็ทำแบบนี้ไปตลอด จำคำสอนของพระองค์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องครบก็ได้ แต่ถ้าทุกคนทำได้แค่คนละข้อ สองข้อ แผ่นดินเราก็จะเป็นปึกแผ่น ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร หรืออยู่ในสถานะไหนของสังคม ถ้าคุณมีใจเดียวกัน มีปณิธานแน่วแน่ว่าจะสืบทอดคำสอนของพ่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ทำให้พระองค์มองลงมาแล้วไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ไม่ใช่เวลาผ่านไปแล้วทุกอย่างก็ซาลง อย่าให้การสวรรคตของพระองค์ วาระการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่เราเคยเจอผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ฝากอะไรไว้ในใจเราเลย..."

 

เราเชื่อว่าพระจริยวัตรอันงดงามของมหาราชผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้จะตราตรึงอยู่ในหัวใจของพสกนิกรชาวไทย ตราบนานเท่านาน...

 

: เกรซ กาญจน์เกล้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกรซ กาญจน์เกล้า, แกรนด์ กรณ์ภัสสร ร่วมงาน 20 ปี Absolute Health ศูนย์ดูแลฟื้นฟูสุขภาพแบบบูรณาการ
  • "MEW SUPPASIT" - "GRACE KANKLAO" ส่งเพลงพิเศษผ่านโปรเจกต์พิเศษ "RS Music Switching Voice"
  • "อาร์เอส มิวสิค" เปิดโปรเจกต์ยิ่งใหญ่ "RS Music Uprising EP.1: RS Music X"
  • ฟิตติ้ง “เริงริตา” ช่อง GMM25 ดึง “เกรซ-ลี-เอมี่-สมาร์ท” ประชันความแซ่บ
  • แพนเค้ก–เกรซ ประชันลุคสวยซ่าแซ่บ มารี - จีน่า –คารีสา ในงานเปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษแห่งปี “Jaspal X Megan Hess”
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :