ช่วงนี้หายหน้าหายตาไปเทคิวให้กับการถ่ายละครอยู่หลายเรื่อง สำหรับสาว วิว - วรรณรท สนธิไชย นางเอกสาวหน้าหวาน ที่มีความสามารถโดดเด่นอีกหนึ่งคนของวงการบันเทิง และด้วยเสน่ห์ที่เหลือล้นทำให้เจ้าตัวถูกจับตามองทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง วันนี้ "ดาวต่างมุม" มีโอกาสได้นั่งคุยกับเธอถึงผลงาน การเดินทางและใช้ชีวิตในวงการบันเทิง พร้อมกับข่าวคราวความสัมพันธ์กับหนุ่มคนพิเศษอย่าง หน่อง - ธนา ฉัตรบริรักษ์ กันแบบเอ็กคลูซีฟสุด ๆ
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @villwannarot (IG)
ตอนนี้มีงานอะไรอยู่บ้าง ?
ที่เพิ่งผ่านไปมีหนังเรื่อง "เทค มี โฮม สุขสันต์วันกลับบ้าน" เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต ส่วนละครที่ถ่ายทำอยู่มีเรื่อง รักฝุ่นตลบ, แต่ปางก่อน, คลับฟรายเดย์ ค่ะ นอกจากละครก็มีธุรกิจ ทำแหวนอยู่กับคุณแม่ชื่อว่า "เคียร่า ยูนีค แบรนด์" (Keira Unique Brand) ทำมาหนึ่งปีแล้ว ใครสนใจก็ไปดูในไอจีวิวได้ ช่วงนี้ก็เต็มที่กับงานค่ะ ทำงานหลากหลายขึ้น อย่างงานหนังจริง ๆ มีติดต่อมาหลายเรื่องแล้ว แต่ที่เลือกเล่นเทคมีโฮม เพราะเราชอบที่บทดี เวลาลงตัว และวิวไม่อยากเล่นอะไรที่ง่าย ๆ วิวอยากลองเปลี่ยนให้คนเห็นการแสดงของเราหลาย ๆ ด้าน อย่างคนที่ดูหนัง เขาอาจจะไม่ค่อยดูละคร ก็ถือโอกาสให้คนกลุ่มใหม่ ๆ ได้รู้จักเราด้วยค่ะ วิวอยู่วงการมา 8 ปีแล้วค่ะ ก็ทำงานมาเรื่อย ๆ ตอนนี้การรับงานจะเป็นคุณแม่ช่วยดูให้ทั้งหมด คุณแม่จะสกรีนก่อนแล้วค่อยให้วิวตัดสินใจอีกที ส่วนใหญ่วิวจะไม่ค่อยติดขัดอะไรเรื่องงาน เพียงแต่ว่าจะไม่รับงานเยอะ ๆ พร้อมกัน เพราะเคยทำแบบนั้นแล้วรับละครซ้อนกัน ร่างกายเลยแย่ เราก็เลยไม่อยากไปเละอยู่กองไหนกองหนึ่ง เพราะแต่ละงานวิวก็อยากให้ออกมาดีทั้งหมดไม่ใช่ว่าทำกองหนึ่งเต็มที่แล้วจะไปงอแงอีกกองหนึ่ง เพราะฉะนั้นขอรับงานน้อย ๆ แต่เต็มที่ดีกว่า จริง ๆ วิวชอบวงการแฟชั่นนะคะ แต่วิวขาสั้น (หัวเราะ) ก็เลยไปทางนั้นไม่ได้ อย่างงานในวงการบันเทิงตอนนี้หลัก ๆ ก็จะเป็นงานละคร แต่วิวก็อยากลองทำพิธีกรดูเหมือนกัน เพราะวิวรู้สึกสนุกกับการพูด เห็นนักแสดงหลาย ๆ คนก็หันไปทำงานพิธีกรกันเยอะ อย่างรายการท่องเที่ยวก็อยากทำ แต่ดูเรื่องเวลาแล้วเราก็ยังไม่มีมากพอขนาดนั้นค่ะ
ตลอด 8 ปี พัฒนาขึ้นยังไงบ้าง?
แรก ๆ เข้าวงการมา วิวจะค่อนข้างเครียด กลัวจะทำไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปมันก็กลายเป็นประสบการณ์ที่เราก็สามารถผ่านมา ได้ อะไรที่เคยทำไม่ได้เราก็แก้ไขให้ดีขึ้น ตอนนี้เวลาถ่ายละครก็รู้สึกมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น ไม่กดดันตัวเองเท่าเมื่อก่อน ส่วนฟีดแบ็กเรื่องฝีมือการแสดงต่าง ๆ เราก็อ่านคอมเมนต์ หรือไม่ก็ฟังจากคนรอบข้าง ถ้ามีคนวิจารณ์ละครแต่วิจารณ์รวม ๆ ไม่ได้เจาะจงมาที่ตัวเราคนเดียว อันนี้เราก็ยังถือว่าโอเค เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ใช่คนที่พาให้งานเสีย แต่ถ้าเขาชื่นชมนั้นคือกำลังใจ คือกำไรและความสุขของชีวิต เพราะรู้สึกว่าการที่คนเขาจะชมอะไรสักอย่างมันยากกว่าการด่าอยู่แล้ว แต่คำชมมันยากและมีคุณค่า ตรงไหนที่เขาวิจารณ์ วิวก็ต้องปรับปรุง ส่วนเป้าหมายของวิวคือ วิวอยากพัฒนาฝีมือให้แสดงออกมาดี อยากแสดงให้ได้รางวัล วิวไม่ได้หวังเรื่องเงินทอง แต่หวังอยาก ให้คนยอมรับในฝีมือของเรามากกว่า เพราะนั่นคือที่สุดแล้วของนักแสดง
เคยโดนเรื่องราวหนัก ๆ จนรู้สึกล้มเหลวบ้างไหม?
ยังไม่เคยค่ะ การโดนวิจารณ์หรือโดนกระแสต่าง ๆ วิวว่าคนอื่นก็โดน บางคนโดนหนักกว่าเราอีก เราก็ต้องมองให้เป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะเราเองไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลก วิวเป็นคนที่ใช้ชีวิตปกติ การเป็นนักแสดง เป็นแค่ตอนทำงาน พอเดินออกจากกองถ่ายเราคือคนปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษ เราจะไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น คนสามารถด่าเรา วิจารณ์เราได้ แค่เราต้องดูว่าที่เขาว่าเรามันจริงไหม ถ้าเขาด่าว่าเรานิสัยไม่ดี เราก็ปรับปรุง แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้นเราก็ไม่เครียดค่ะ
หลายคนอยากรู้ตัวตนนอกจอของวิวเป็นยังไง?
วิวเป็นคนทำอะไรตามความรู้สึก เป็นเหมือนคนปกติเป็นทุกอย่าง มีอารมณ์มีความสุข เศร้า โมโห อย่างคนชอบบอกว่าผู้หญิงมักจะดราม่า อันนั้นวิวก็เป็นแต่จะเป็นคนไม่ดราม่าอะไรนาน เพราะเรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ และอาชีพมันค้ำคอ จะไม่ไร้สาระนาน มีช่วงเวลาติงต๊องบ้าง ว่าง ๆ ก็หาของกินมีความสุขของเราไป พอกินแล้วคนก็ด่าว่าอ้วน แต่ก็กิน (หัวเราะ) มีความสุขเหมือนคนปกติทั่วไป อารมณ์เหวี่ยงก็มี แต่จะเหวี่ยงตัวเอง หงุดหงิดตัวเองแต่จะไม่โวยวายใคร เราแฮปปี้ในการอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างสนุกสนานมากกว่า อันไหนที่รู้ว่าทำร้ายตัวเองก็อย่าทำแค่นั้นเองค่ะ
แล้วที่เขาบอกว่าเราเป็นคาสโนวี่ล่ะ?
ถ้าวิวเป็นคาสโนวี่ วิวจะอกหักเหรอคะ (หัวเราะ) วิวก็เคยมีโมเมนต์อกหักเหมือนคนทั่วไป ลุคที่ออกมาว่าเป็นคาสโนวี่ก็มาจากข่าวที่ผ่าน ๆ มา มากกว่า แต่เราเข้าใจว่าข่าวก็คือข่าว เรารู้ก็พอว่าเราทำแบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า คุณแม่บอกว่า คาสโนวี่คือการคบทีเดียวหลายคน แต่การที่เราคบทีละคนแล้วเปลี่ยน เพราะถ้าเราคบแล้วไม่ดีเราจะทนคบทำไม หรือเราจะทนคบคนเดียวเพื่อไม่ให้คนมาว่าเราเป็นคาสโนวี่ ทั้ง ๆ ที่คนที่คบทำเลวกับเรา แบบนั้นมันก็ไม่ใช่ ตัววิวเองจะคบใคร คุยกับใครก็ดูเป็นคน ๆ ไป อย่างเมื่อก่อนที่เคยมีข่าวว่าวิวคบผู้ชาย 13 คน อันนั้นถามเขาหรือยัง บางคนเขาก็คงเซ็งถ้าเขามีคนของเขาอยู่แล้วและมาเป็นข่าวกับเรา จริง ๆ ก็เพื่อน ๆ พี่น้องร่วมงานกันทั้งนั้นค่ะ ข่าวแบบนี้ก็กระทบเหมือนกันนะคะ วิวว่าใครก็คงไม่อยากมีเรื่องแบบนั้น เพราะคนที่ไม่รู้พอฟังข่าว คนที่คิดแง่ดีก็อาจจะมองว่า ก็สวยเลือกได้แล้วจะทำไม แต่บางคนที่ไม่เข้าใจก็อาจจะมองว่าทำไมเราทำแบบนั้น แต่วิวเข้าใจค่ะไม่ได้คิดอะไรมาก แค่เกรงใจคนที่ห่วงที่รักเรามากกว่า ซึ่งก็ต้องขอความเห็นใจจากคนเสพข่าวด้วยค่ะ
แล้วความสัมพันธ์กับหน่อง - ธนา ล่ะ เป็นยังไงบ้าง?
เราคุยกันปกติ เรื่อย ๆ ค่ะ เขาเองก็เหมือนวิว เป็นคนมีหลายด้าน มีด้านชิล ด้านติสต์ อะไรของเขาไป แต่ดีที่เขาเป็นคนที่ไม่ได้มีความเป็นดาราเยอะเราเลยสบาย ๆ คนชอบถามว่าวิวคุยกับเขารู้เรื่องเหรอ(หัวเราะ) วิวก็ขำ แล้วไปเล่าให้เขาฟัง ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้เอาเป็นว่าแต่ละคนมีจุดสบายใจของตัวเอง เขาเป็นคนที่เราสนิทที่สุด คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ว่าจะมาพูดมาเปิดตัว มาบอกว่ารักกันแค่ไหน คบกันไปถึงไหนมันก็ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะความมั่นใจมันต้องไปควบคู่กับระยะเวลาด้วย เราคุยกันมาปีกว่า ๆ ค่ะ แต่รู้จักกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว ก็ค่อย ๆ สนิทกันมากขึ้น เขาเองก็เคยถามเรื่องข่าวของวิวที่ผ่าน ๆ มานะ เพราะเขาก็เหมือนคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รู้ว่าความจริงเป็นยังไง เราก็ต้องพูดให้เข้าใจว่าข่าวมันเกิดขึ้นได้ แต่จริง ๆ ก็ไม่ค่อยเอามาพูดกันหรอกค่ะ เราต่างคนต่างทำให้ทุกวันไม่ให้มีปัญหาดีกว่า
แฮปปี้กับหน่องตรงไหนบ้าง?
วิวว่าเรามีมุมติงต๊อง ๆ คล้าย ๆ กัน และเขาเป็นคนรักครอบครัว รักแม่ รักน้อง เราดูแล้วก็รู้สึกว่าคนรักครอบครัวดีกว่าคนที่ใช้ชีวิตแค่ตัวเองคนเดียวอยู่แล้ว การที่เขารักครอบครัวเราเองก็จะหายห่วงเกี่ยวกับปัญหาอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพราะเวลาเขาจะทำอะไรเขาต้องเกรงใจครอบครัวเขาอยู่แล้ว เราก็จะแทบไม่ต้องจัดการอะไร ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ก็คล้ายกันวิวจะเป็นคนชอบอยู่กับครอบครัว เขาก็เหมือนกัน ในเรื่องของความคิดเราอาจจะไม่ได้ตรงกันทั้งหมด แต่อยู่ที่ว่ายอมกันได้มากน้อยแค่ไหน เอาจริง ๆ เราไม่มีใครยอมใครทั้งคู่เลยนะ พยายามหาเหตุผลมาสู้กัน แต่จะออกแนวตลก ๆ กันไปมากกว่าไม่ได้เอาเป็นเอาตาย แค่สนุก ๆ วิวว่าเราเรื่อย ๆ แบบนี้ดีแล้ว อย่าไปกำหนดอะไรมากเลย เขาเป็นคนที่ไม่เยอะด้วย เพราะฉะนั้นมันจะพอดี ไม่มาก ไม่น้อยไป
เขามีมุมหวานมุ้งมิ้งกับเราบ้างไหม?
ไม่ค่อยนะคะ บางทีวิวยังตกใจตอนเห็นในไอจีที่คุณแม่เขาโพสต์ตอนเขาเล่นมุ้งมิ้งกับน้องเขา แต่ขนาดเล่นกับน้องเขายังห้าวเลย วิวสงสารวันใหม่มาก คือน้องจะโตมาเป็นเด็กผู้ชายอยู่แล้ว เราก็บอกเขาให้พูดเพราะ ๆ กับน้องหน่อยสิ น้องเป็นผู้หญิงนะ เขาจะไม่ได้มุ้งมิ้งแต่เขาจะเป็นห่วงเราเรื่อง การดูแลตัวเอง เพราะบางทีวิวจะเป็นคนไม่ระวังตัวเองเท่าไหร่ เขาก็จะคอยเตือนในทุก ๆ อย่าง ส่วนวิวไม่รู้จะห่วงอะไรเขาเชื่อว่าเขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว อาจจะมีเรื่องการดูแลตัวเองบ้างเท่านั้นเองค่ะ
ยกตำแหน่ง "คนพิเศษ" ให้เขาไปแล้ว?
ก็พิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้วค่ะ เราสนิทใจกับเขา อย่างที่บอกว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าการที่เราคุยกันแล้วมันทำให้เขาหรือเราไปในทิศทางที่ดีขึ้น แค่นี้เราก็โอเคแล้ว ขอแค่อย่าฉุดกันลงก็พอ ถามว่าหน่องตรงสเปกไหม คือเราต่างคนต่างพูดว่าเราไม่ใช่คนที่จะมาชอบกันได้ตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เราก็คุยกันได้ วิวคิดว่าคนที่เราคุยได้นาน ๆ อาจจะไม่ต้องตรงสเปกก็ได้ อาจจะเป็นคนที่เราไม่ได้หวังเอาไว้ แต่สุดท้ายคนที่จะอยู่ด้วยกันได้นานก็คือคนที่เป็นเพื่อนกัน มีความรักแบบดูแลกันค่ะ ทุกวันนี้เราคบกันแบบคนสนิทมันแฮปปี้ ไม่ต้องหลบซ่อนอะไร ใช้ชีวิตกันปกติค่ะ
กดดันไหมเพราะคนจับตามองเรื่องส่วนตัวมากเลย?
ไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่ค่ะ เพราะเราก็ทำอย่างที่เราเป็นไม่ได้หลบซ่อน ปิดบังอะไร แต่ในเรื่องงานวิวเป็นคนจริงจัง เครียดกับงานมาก นอกจากจับตามองเรื่องชีวิตของวิวแล้ว ก็อยากให้ลองติดตาม ผลงานของวิวเหมือนกันค่ะ อยากให้เห็นความตั้งใจที่วิวอยากทำออกมาให้ได้ดูกันด้วย
สุดท้ายให้ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?
วิวต้องขอขอบคุณแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานของวิว และคอยให้กำลังใจวิวมาตลอด รวมไปถึงขอบคุณแฟนคลับที่จีนด้วย วิวสัญญาไว้ว่าจะหัดพูดภาษาจีนเพื่อไปพูดกับเขาแต่ตอนนี้ได้คำว่า "ขอบคุณ" คำเดียวเอง แต่วิวจะทำให้ได้ ยังไงก็ฝากติดตามผลงานของวิวไปเรื่อย ๆ นะคะ ตอนนี้งานที่รอให้ติดตามกันอยู่ก็มี ละครสัญญาแค้นแสนรัก, ไอเลิฟทูคิล รักซ่อนแค้น, ในเล่ห์เสน่หา, คลับฟรายเดย์, รักฝุ่นตลบ, แต่ปางก่อน ยังไงก็รอกันอีกนิดค่ะ ได้ชมกันแน่นอน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ