ชั่วโมงนี้ แน่นอนว่าคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและมีกระแสมากที่สุดในเรื่องของ ละคร "นางทาส" ไม่มีใครที่ไม่พูดถึงเธอ สำหรับ "แยม - มทิรา ตันติประสุต" กับเสียงวิจารณ์ที่ติดด้านลบมากกว่าด้านบวก แต่เธอยังยิ้มสู้ ซึ่งวันนี้แยมจะมาพูดคุยกับเราถึงกำลังใจที่ทำให้เธอเดินผ่านเสียงวิจารณ์ด้านลบ ว่าจริง ๆ แล้วเธอผ่านมันมาได้อย่างไร และวางแผนยังไงกับเส้นทางในวงการบันเทิง เอาล่ะไปคุยกับ แยม - มทิรา กันเลย 

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @yammatira (IG)

เสียงวิจารณ์จากละคร นางทาส ที่ผ่านมาค่อนข้างแรง? 
ใช่ค่ะ นางทาส คือเราคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีเสียงวิจารณ์ เพราะโดนเปรียบเทียบมาตลอด ตั้งแต่ละครยังไม่ออนแอร์ แต่พอละครออกอากาศก็ตกใจ เพราะเราก็เช็กอยากรู้ว่าคนชอบไม่ชอบ แต่พอออกมา 80 เปอร์เซ็นต์ไม่ชอบ เอ้ย 1 ปีที่เราทำงานมาเนี่ย มันไม่มีความหมายกันเลยเหรอกับแค่ 1 ตอนที่ออกอากาศไป คือตัดสินกันเลยเหรอ ก็ยอมรับคะว่าเสียใจนิดหนึ่ง ยังรู้สึกว่าอยากให้คนเปิดใจมากกว่านี้นิดหนึ่ง

ถามตรง ๆ แยม ท้อไหมคะ กับกระแสที่ออกมาค่อนข้างแรง? 
ก็อาจจะมีบ้าง แต่เราก็ยังต้องทำงานต่อไป แต่เราอาจจะต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเก่า คือที่ผ่านมาในเรื่องนางทาส เราก็ทำการบ้านหนัก แต่เรื่องต่อไปก็คิดเหมือนกันว่าคนจะจับตามองเรามาก ก็ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นอีก เราต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่องาน

จากเสียงวิจารณ์ที่ได้รับ มันทำให้เรากด ดันไหม ถ้าเราจะเล่นละครเรื่องต่อไป? 
ก็อาจจะมีบ้าง แต่เราก็ยังต้องทำงานต่อไป แต่เราอาจจะต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเก่า คือที่ผ่านมาในเรื่องนางทาส เราก็ทำการบ้านหนัก แต่เรื่องต่อไปก็คิดเหมือนกันว่าคนจะจับตามองเรามาก ก็ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นอีก เราต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่องาน

 

 

แล้วตัวจริงของแยมเป็นไง เป็นคนคิดมากไหม? 
มันแล้วแต่เรื่องค่ะ แต่จะเป็นคนหายเร็ว จะไม่เก็บให้มันเครียด จะหาอย่างอื่นมาทำเพื่อให้มันลืมเรื่องที่ทำให้เราเครียด ๆ ไป ออกไปหาเพื่อน ซึ่งอยู่เนี่ยอยู่กับเพื่อนบ่อย เพราะเพื่อนเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ

จริง ๆ แล้ว การแสดงมันเป็นความฝันของแยมเลยหรือเปล่า กับการเข้าวงการนี้? 
มันเป็นความบังเอิญ ที่ได้เข้ามา คือแรก ๆ ยังคิดเลยนะว่า แยมเนี่ยนะจะเล่นละครได้ แยมยังคิดว่าเด็กคนนี้จะรับผิดชอบอะไรแบบนี้ได้ จะแสดงหรือทำอะไรพวกนี้ได้เลยจริง ๆ แต่พอเราได้เข้ามาแล้ว ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราแล้วก็กลายเป็นว่า ตอนนี้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีความอดทนต่อแรงกดดันหรือว่าอดทนต่อความยากลำบากในการทำงานได้ขนาดนี้

แล้วความฝันตอนเด็ก ๆ ของแยม คืออะไร? 
แยม มีความฝันอยากจะเป็นดีไซเนอร์ อินเตอร์นะ แต่พอโตขึ้นเรื่อย ๆ เห็นศักยภาพของตัวเองก็รู้แล้วว่าไม่ได้แล้วล่ะ เพราะตัวเองวาดรูปไม่เป็นเลย ก็รู้แล้วว่าเราคงเป็นดีไซเนอร์ไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปอยากจะเป็น แอร์โฮสเตส ตามความฝันของเด็ก ๆ แต่ก็ถามว่าใจรักจริงไหมก็รู้แล้วว่าไม่ได้รักจริง แต่พอได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แรก ๆ ก็เฉย ๆ นะคะ แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเรารักการแสดง เพราะว่าเรายังไม่เห็นภาพของตัวเองที่จะไปทำอย่างอื่นเลย นอกจากภาพของตัวเองที่เป็นนักแสดง

 

 

แล้วถ้าไม่เข้าวงการนี้ แยมคิดว่าตัวเองจะทำงานอะไร? 
คือตอนนี้แยมยังเรียนไม่จบนะคะ แต่ถ้าเรียนจบแล้ว เอาจริง ๆ ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าเรียนจบแล้ว และถ้าไม่ได้ทำงานในวงการนี้จะทำอะไร หรือว่าชอบอะไรจริง ๆ แต่ตอนนี้แยมเรียนภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจอยู่คะ ก็อาจจะไปทำธุรกิจ ไม่แน่นะคะ ในอนาคตแยมอาจจะทำงานสองอย่างควบกันไป ถ่ายละครไปก็ทำธุรกิจของตัวเองไปด้วย เพราะคณะที่เรียนที่ธรรมศาสตร์ ก็ทำให้เราทำอะไรได้หลายอย่างค่ะ

สำหรับ แยม เข้าวงการมาก็ได้บทนางเอกเลย ตรงนี้ถือว่าโชคดี? 
ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสแยมตรงนี้ ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจเรา เราก็ต้องทำงานของเราให้เต็มที่ไม่ว่าจะได้บทบาทไหน แต่เมื่อโอกาสมาก็ต้องเดินหน้าค่ะ เราเป็นนักแสดงก็ต้องเล่นให้ได้ทุกบทบาทค่ะ

ขอถามเรื่องส่วนตัวบ้าง ตัวจริงแยม เป็นผู้หญิงรักสวยรักงามไหมคะ? 
ไม่เลยค่ะ แยมเพิ่งจะมาดูแลตัวเองช่วงหลัง ๆ นี่เองคะ ก่อนหน้านี้ไม่ดูแลตัวเองเลย ครีมกันแดดก็ไม่ทา ครีมทาตัวก็ไม่ทา ไม่ชอบทาพวกนี้เพราะคิดว่าเรายังเด็กอยู่ไม่ต้องรีบ ร่องรอยจากแดดดำ ๆ มาเดี๋ยวก็หายเพราะเรายังเด็กอยู่ แต่ว่าจริง ๆ แล้วเขาบอกว่าพวกนี้มันจะสะสมไปเรื่อย ๆ แล้วเรื่องสุขภาพความอ้วนถ้าเราไม่ดูแลก็จะอ้วน คือแยมเป็นคนที่ชอบกินขนม จะซื้อขนมกินเยอะมาก แล้วพอเรายิ่งโตขึ้นก็รู้ว่าเราอ้วนขึ้นจากเมื่อก่อน ตอนนี้ก็เริ่มที่จะดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ ทั้งสุขภาพและความงาม ซึ่งไม่ค่อยจะมีเท่าไร (หัวเราะ)

 

 

แยมเป็นสาวห้าว หรือสาวหวานคะ? 
คือแยมจะเป็นคนที่มี 2 บุคลิกนะ คือถ้าเราอยู่กับคนที่เรารู้สึกว่าเราเล่นด้วยได้ เราก็จะสนุกสนานเต็มที่เลย อย่างอยู่กับเพื่อนเราจะแฮปปี้ เป็นตัวเองเต็มที่ แต่เวลาอยู่กับผู้ใหญ่ เราก็ต้องรู้กาลเทศะค่ะ ก็จะเรียบร้อยเงียบ ๆ หน่อย คนก็เลยจะคิดว่าแยมเป็นผู้ใหญ่หวาน แล้วเวลาที่ออกงานถ้าเราอยู่ในงานที่เราไม่รู้จักใครเลย แยมก็จะนิ่งหน่อยค่ะเวลาแยมนิ่ง ๆ หน้าจะดุ ๆ จนบางคนก็จะคิดว่าแยมหยิ่ง ดุ ๆ จริง ๆ แล้วไม่เลย คือแยมเป็นคนที่ค่อนข้างเข้ากับคนง่ายนะ

แยมเป็นคนยิ้มเก่งไหมคะ? 
ก็ยิ้มค่ะ แต่ไม่ใช่แบบตลอดเวลา อย่างเวลาเจอคนแปลกหน้าที่เขามองเราเขายิ้มมา แยมก็ยิ้มตอบค่ะ แต่จะไม่ใช่แบบว่า ถ่ายรูปกับเราไหม คือแยมก็เป็นตัวเองนี่แหละ

ตอนนี้มีคนรู้จักเราเยอะขึ้น เราเริ่มอึดอัดไหม? 
รู้สึกแปลก ๆ นิดหนึ่งนะคะ เพราะแยมไม่คิดว่าตัวเองเป็นดาราหรือว่าอะไร ออกไปข้างนอกแล้วรู้สึกว่าเราไม่ใช่ดารา รู้สึกว่าตัวเองเป็นปกติ แล้วเวลาที่เจอคนมอง ก็จะรู้สึกว่าเขามองทำไม เกร็ง ๆ นิดหนึ่ง ก็แบบตั้งสติ อืม..เขาคงจำเราได้ เราก็ยิ้มให้ค่ะ แต่ถามว่าอึดอัดไหม ก็ไม่อึดอัดนะคะ แต่ถ้ารู้สึกเกร็งยังไง แยมจะไม่กล้าสบตา ก็จะอยู่กับตัวเอง แต่ถ้าเราเจอคนที่แบบว่าเขาอยากจะเข้ามาหาเรา แยมก็จะยิ้มให้ แต่ถ้าเขามองเฉย ๆ เราก็จะเกร็ง ๆ ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน (หัวเราะ)

 

 

กับวงการนี้ วางตัวเองไว้ยังไงบ้าง? 
เอาจริง ๆ นะคะไม่เคยวางตัวเองไว้ยังไงเลย เพราะจริง ๆ แยมไม่เคยหวังว่าตัวเองจะต้องเป็นซุป’ตาร์หรือว่าอะไร แต่แยมอยากแค่จะเป็นนักแสดงที่เก่งเท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องอื่น ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นพรีเซ็นเตอร์หรืออะไร แยมอาจจะเป็นนางเอกที่ขี้เหร่ที่สุดในประเทศ อย่างที่เขาว่าก็ได้คะ

ขอถามเรื่องประเด็นข่าวลือก่อนหน้านี้อีกสักเรื่องนะคะ ที่เขาว่าแยมเป็นเด็กเส้นในช่อง 3 จริงหรือเปล่า? 
ไม่จริงค่ะ แยมไม่ได้เป็นเด็กเส้น อย่างที่เขาพูดกันมาเพราะว่าจริง ๆ ที่แยมเข้าวงการนี้ได้เพราะว่า แยมรู้จักลุง วิทวัส สุนทรวิเนตร์ แล้วก็เข้ามาแบบปกติ เข้ามาเหมือนทุกคนเลย แค่คนแนะนำเข้ามาคนละคนเท่านั้นเอง เด็กใหม่ ๆ ที่เข้ามายังไงก็เป็นแบบนั้นเลยคะ และถ้าดูดี ๆ หนูไม่ได้ถูกดันอะไรทั้งนั้นเลย แยมยืนยันค่ะ และที่ผ่านมาไม่ได้เคลียร์ประเด็นตรงนี้ เพราะว่าไม่มีใครถาม ก็ไม่ได้แบบว่าอยากจะประกาศว่าหนูไม่ใช่เด็กเส้นนะคะ แยมเข้าแบบทุกคนไม่ได้พิเศษอะไรเลย

ขอถามเรื่องความรักบ้าง มีแฟนแล้วยัง? 
ช่วงนี้อยู่แต่กับเพื่อนค่ะ ไม่มีช่วงเหงาเลย และแยมไม่เคยมีแฟนเลยจริง ๆ แต่ถามว่ามีแบบแอบปลื้มมั้ย ก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่ได้จริงจังอะไร (หัวเราะ) แล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ เพราะว่าทำงานและเรียนหนักมาก แต่ถ้าจะถามว่าชอบแบบไหน ก็อยากจะบอกว่าชอบผู้ใหญ่คะ ความคิดเขาโตแล้ว ดูแลเราได้