เป็นอีกหนึ่งนักแสดงยอดกตัญญู ที่ช่วงนี้มีผลงานอย่างต่อเนื่อง สำหรับ หญิง - รฐา โพธิ์งาม ลูกสาว แม่น้อย ซึ่งนอกจากละครแล้ว เจ้าตัวยังพ่วงธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่างด้วย ล่าสุดสาวหญิงได้มานั่งเปิดใจถึงเรื่องราวในชีวิตทั้งแง่ครอบครัว การทำงานและหัวใจ ใน "ดาวต่างมุม" แบบจัดเต็ม ใครอยากเข้าใจผู้หญิงที่ชื่อ "รฐา" ให้มากกว่าที่ตาเห็น มาอ่านบทสัมภาษณ์นี้กัน

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @yingrhathaofficial (IG)

 

ฟีดแบ็ก "สวิตา" และ "ล้อมเพชร" ใน "กำไลมาศ" เป็นยังไง? 
ฟีดแบ็กที่ได้รับค่อนข้างดีนะคะ ดูในทวิตเตอร์ก็จะมีคนทวีตว่าทำไมล้อมเลวแบบนี้ (ยิ้ม) เรื่องนี้มันยากตรงที่เล่นเป็นคนจีนซ้ำ ๆ ตอนเล่นเป็น "หยกมณี" ใน "สิงห์" เราเล่นเป็นคนจีนที่เป็นคนดี ส่วนเรื่องนี้เล่นเป็น "ล้อมเพชร" ซึ่งเป็นคนจีนเหมือนกันแต่มีคาแรกเตอร์ร้าย ดังนั้นเรื่องนี้คนไม่เรียกว่าเราเป็นหยกมณี มาเล่นเป็นล้อมเพรชก็แฮปปี้แล้ว เพราะไทม์มิ่งในการทำงานคือช่วงเดียวกันเลย ซึ่งจริง ๆ บทในกำไลมาศก็ยาก คาแรกเตอร์ตัวร้ายแย่งพระเอกเรารับมาหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ต้องเล่นเป็น 2 ชาติ ต้องตีความเป็นคนละคน คนละยุคคนละสมัย เราจึงเห็นความต่างของคาแรกเตอร์อย่างชัดเจน ดังนั้นเรื่องของการทำความเข้าใจตัวละครจึงสำคัญค่ะ

ถัดจากเรื่องนี้ยังมีผลงานอะไรให้แฟน ๆ ได้ติดตามอีก? 
มี "ตะวันยอแสง" ของพี่นก สินจัย อยู่ในช่วงฟิตติ้ง เรื่องนี้ก็ร้ายที่สุด แบบระดับที่โตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเราเล่นตั้งแต่สาว ๆ ไปจนถึงรุ่นป้าเลย มีการสับเปลี่ยนลูก ฆ่าปิดปาก และมีอีกเรื่องที่ตอนนี้ถ่ายทำอยู่ คือ "เถียนมีมี่ รักเธอชั่วนิรันดร์" เป็นบทจีนอีกแล้ว เล่นเป็นนางเอกคู่กับพี่ตู่ ภพธร ทางช่อง ทรูโฟร์ยู เป็นละครร่วมทุนระหว่างจีนกับไทย ซึ่งเรื่องนี้จะพลิกเลย ดราม่าที่สุดในชีวิต แสดงออกทางความรู้สึกไม่ได้ ต้องเก็บเอาไว้ข้างใน และเรื่องนี้ต้องมีร้องเพลงจีนกันด้วยค่ะ

มารับบทนางเอกมีวิธีแสดงยังไงให้คนไม่ติดภาพนางร้าย? 
สิ่งสำคัญที่สุดคือความรู้สึกนะ เพราะตัวละครแต่ละตัวมีแบ๊กกราวด์ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน อยู่ที่วิธีคิดในการเป็นตัวละครตัวนั้นมากกว่า อย่างเราเป็นตัวละครนี้ เราต้องเข้าใจแบ๊กกราวด์ก่อนว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี ชีวิตต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง พอเราเข้าใจแบ๊กกราวด์เราก็จะเป็นตัวละครนั้นได้ หญิงใช้แยกตัวละครด้วยแบ๊กกราวด์โดยสิ้นเชิง คิดเยอะ ๆ หาคำตอบเยอะ ๆ เพราะตามบทคงไม่ได้เขียนมาหรอกว่าตอน 2 ขวบเราเจออะไรมา ในบทจะเป็นผู้หญิงอายุ 30 ดังนั้นเวลาแสดงเราต้องมานั่งคิดว่าตัวละครนี้ตอนอายุ 16 ต้องโตมาจากโรงเรียนแบบไหน พอเล่นแบบนี้เราเลยไม่กลัวว่ามาเล่นเป็นนางเอกแล้วคนจะติดภาพนางร้าย เพราะการเล่นละครหรือภาพยนตร์เราก็พลิกบทไปตลอด ไม่ได้ห่วงว่าเล่นดีหรือร้าย เพราะทุกบทมันสอนเราหมด จะมากหรือน้อยอยู่ที่เราพิสูจน์ตัวเองได้แค่ไหน แต่ก็โชคดีที่ ณ ไทม์มิ่งนี้บทที่ส่งมาค่อนข้างหลากหลาย ให้เราได้ฝึกและพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ค่ะ

 

 

หญิงมีวิธีเลือกรับแต่ละบทยังไง? 
เวลาอ่านบทเราจะรู้สึกว่าอยากเล่น หลายครั้งที่เราอ่านแล้วจะรู้สึกมันเคยเล่นแล้ว มันจะไปซ้ำกับบทเดิม ๆ จริง ๆ ช่วงปีนี้มีบทที่เป็นนักร้องเข้ามาเยอะมาก แต่หญิงเลือกเล่น "เถียนมีมี่ฯ" เรื่องเดียว เพราะแม้จะเป็นจีนเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนตัวอื่นที่เราเล่นมา ซึ่งคาแรกเตอร์ "ถิงถิง" ความรักเป็นเรื่องรอง ชีวิตการต่อสู้เป็นอีกเรื่องนึง และความท้าทายของเพลงจีนที่เราต้องร้อง อย่าง "สุดแค้นแสนรัก" เป็นตัวละครที่มีลูกหลายคนอาจไม่อยากเล่นกัน แต่หญิงเล่นตั้งแต่เด็กถักเปียกระทั่งเป็นป้าเลย เพราะเรามองว่าความท้าทายมันอยู่ตรงนั้น มันเกิดจากที่เราศึกษาแบ๊กกราวด์ตัวละคร พอคนเชื่อในตัวละครก็ไม่คิดว่าเป็นเรา จะคิดว่าเป็นนักแสดงที่รับได้ทุกบทบาทมากกว่าค่ะ

ในเรื่องการแสดง ยังมีจุดที่คิดว่าตัวเองบกพร่องหรือต้องพัฒนาอีกมั้ย? 
มันพัฒนาตลอดเวลา ทุกตัวละครที่เข้ามาเหมือนเราต้องเรียนรู้ชีวิตคนใหม่ตลอด ไม่มีคำว่าเก่งในสายอาชีพนี้ หญิงว่ามันเป็นการทำได้ดี ทำให้คนเชื่อมากกว่า และคนเหล่านี้จะเป็นดาวค้างฟ้า อย่างพี่นก สินจัย ที่มีคนรอดูผลงาน หญิงอยากเป็นแบบนั้นค่ะ ไม่อยากเป็นคนที่คิดว่าตัวเองเก่งแล้วจากการวัดมาตรฐานที่ค่าตัว หญิงว่าความเก่งเรามันต้องใช้เวลา ยิ่งเรามีโอกาสได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ มันเป็นคลาสที่ยากมาก เสียเงินเรียนไม่ได้ เพราะดาราที่เก่งไม่ได้มาเปิดสอนคลาสแอ๊คติ้ง ตรงนี้คือประสบการณ์ และยิ่งเราสะสมประสบการณ์มากขึ้น ก็เป็นการพัฒนาของเราไปทุกวันค่ะ

อยู่วงการมาเกือบ 16 ปีแล้ว คิดว่าเราเองเปลี่ยนไปเยอะมั้ย? 
หญิงเริ่มทำงานตอนอายุ 16 ตอนนี้เรา 32 ปี ถึงตอนนี้ก็เปลี่ยนเยอะนะ เพราะเส้นทางการใช้ชีวิตของหญิงก็ทางลูกรังมาก ขึ้น ๆ ลง ๆ ทั้งสูงสุดต่ำสุด หญิงชอบชีวิตตัวเองตอนนี้ที่สุดแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้เรามีช่วงเวลาที่คิดว่ามันแข่งขันเหลือเกิน ฉันต้องพิสูจน์ตัวเอง ทำให้ได้ กว่าที่เราจะมาถึงจุดที่มันนิ่ง ๆ ได้ ทุกคนต้องมีความทะเยอทะยานก่อน ซึ่งเราหันมาดูตัวเองในตอนนี้ก็ต้องขอบคุณวันเหล่านั้น แม้บางครั้งที่ย้อนไปดูก็มีความรู้สึกว่าทำไมตอนนั้นเราสู้สุดใจขนาดนั้น พอตอนนี้รู้สึกชิลจังเลย ฉันมีความสุขกับวันนี้ ไม่เห็นต้องลุกขึ้นมาสู้กับใคร เพราะสู้กับตัวเองสำคัญที่สุด ซึ่งกว่าจะมาถึงคำว่าสู้กับตัวเองได้ มันต้องผ่านคำว่าสู้กับอะไรมาก่อน จากวันนั้นที่เราเริ่ม 16 ปีมาถึงวันนี้มันก็เป็นเวลา 16 ปีเต็ม ก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่เหมือนกัน เหมือนชีวิตผ่านไปหนึ่งไตรมาส และเราเข้าสู่วัยกลางคน ไม่รู้ว่าจะเจออะไร แต่ก่อนอาจมีแค่เรียนกับงานและเพื่อน แต่ ณ ปัจจุบันเราต้องมาโฟกัสที่ครอบครัว ชีวิตมันจริงขึ้นจากแต่ก่อนที่อยากแค่ประสบความสำเร็จในชีวิต อยากเป็นดารา มีชื่อเสียง วันนี้มันมาถึงจุดที่อยากให้คนได้เห็นผลงานและสนุกไปกับมัน เราทำให้คนรู้จักในฐานะนักแสดงไประดับนึงแล้ว แต่ในชีวิตจริง การเติมเต็มในสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ คือการมีครอบครัวรึเปล่า ก็เป็นสิ่งใหม่ที่เราต้องเริ่มคิดถึงบ้าง

 

 

ถามถึงธุรกิจอาหารเสริม ดี24 เริ่มต้นทำเพราะอะไร? 
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนี้หญิงเริ่มทำตอนอายุ 30 ปี เริ่มทำเพราะอยากมีอะไรที่เป็นหลักในชีวิต ซึ่งการตอบรับค่อนข้างดี จริง ๆ หญิงทำมา 2 ปีแล้ว และปีที่แล้วมียอดขายดีที่สุดในสาขาของการดูแลควบคุมรูปร่าง จากร้านวัตสันทั่วประเทศ ปีนี้เราเลยจะผลิตเพิ่มอีก 3 ตัว ตัวแรกเปิดตัวไปในไตรมาสไปแล้ว คือ ดี รีไวนด์ ที่เหมาะกับคนที่ทั้งออกกำลังกาย ทั้งกินคลีนก็ยังน้ำหนักไม่ลง เพราะร่างกายเผาผลาญไม่ดี และอีก 2 ตัวที่จะเปิดเพิ่มในปีนี้ ก็อยากให้ติดตามกันค่ะ

มองเป้าหมายธุรกิจตัวนี้ไว้แค่ไหน? 
ตอนแรกที่มองไว้เป็นแค่เครื่องสำอาง ดูแลรูปร่างหุ่นสวย แต่พอมาทำ 2 ปี เราเห็นกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น แม่หญิงก็ทาน เพราะอาหารเสริมตัวนี้ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดน้อยลง เลยรู้สึกว่ามันแตกในกลุ่มสุขภาพได้มากขึ้น และในอีก 2 ปีข้างหน้า อาจเป็นเรื่องวิตามินที่จะดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก แต่ยังทำควบคู่กับงานแสดงนะคะ ไม่ได้ลุยธุรกิจเต็มตัว การทำธุรกิจเราก็ไม่ได้หวังกำไร เพราะกำไรจะมาเองถ้าเราจริงใจกับลูกค้า ไม่ตีหัวเข้าบ้านเพื่อเอาเงิน ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่พูดกับทีมตลอด เรามองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจระยะยาว ที่น่าจะเป็นหลักให้ครอบครัวและตัวเรา อยากให้เป็นรากฐานของชีวิต ในวันนึงเราก็ไม่อยากต่อสู้กับการทำงานแล้ว อยากมีเงินในบัญชีก้อนใหญ่ ๆ ไม่ต้องคิดอะไร อยากพาแม่ไปเที่ยวรอบโลก อาจมีสามีหรือลูก พาไปเที่ยวกัน ความสุขหญิงมีเท่านี้ค่ะ

สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตคืออะไร? 
ความภูมิใจในชีวิตหญิงคือการดูแลครอบครัวได้ค่ะ มีความสุขกับทุกวันนี้ อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ แค่นี้เอง ไม่ได้คาดหวังเยอะ ความภูมิใจคนเราก็ไม่เหมือนกัน ทุกวันนี้มีงานทำ มีธุรกิจที่ดี มีเพื่อนและครอบครัวที่ดี ก็แฮปปี้แล้ว หวังสุดท้ายก็คือคู่ชีวิตที่ดี ซึ่งคงต้องรออีกสักพักเลยค่ะ (หัวเราะ)

 

 

เราอยู่กับ "แม่น้อย โพธิ์งาม" ตลอด ได้เรียนรู้อะไรจากแม่น้อยบ้าง? 
แม่เป็นทั้งแบบอย่างของหญิง เป็นทั้งเพื่อน หลัง ๆ เริ่มเป็นแฟนด้วย เริ่มมีหวง (ยิ้ม) คือไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จหรือความผิดพลาดในชีวิตแม่ มันสอนให้เราเป็นคนที่แข็งแรงมากขึ้น สอนให้เราเป็นเราในวันนี้ ถึงวันนี้เขามีความสุขแล้ว เรามองย้อนไปในชีวิตเขา ในวันที่เขามี เขาก็ทุ่มเทให้เราเต็มที่ สู้งานเหลือเกิน ในวันที่เขาตกต่ำ มีปัญหาที่สุด เขาก็กล้าที่จะเป็นแม่ค้า ชีวิตเรามีขึ้นลงตลอด แล้วถ้ามีวันที่เราเป็นแบบแม่ เราไม่รู้ว่าจะเก่งได้เท่าแม่รึเปล่า ในเวลาเดียวกันเราก็สอนเขาด้วย แม่เห็นเราพัฒนา ก็ทำให้เขาคิดว่าการคิดแบบเขาก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ทุกวันนี้เราเลยแชร์กันคนละครึ่งค่ะ

ยังจำวินาทีที่เราปลดหนี้ให้แม่ได้มั้ย? 
จำได้ตลอดค่ะ มันเป็นอะไรที่สะใจดี (ยิ้ม) เงินเป็นเช็คก้อนละ 5 แสน ก้อนละล้าน ชีวิตนึงเราได้เซ็นเช็คก้อนละล้านด้วย ก็จะมองแบบนี้มากกว่า จากวันที่ไม่มีเลย วันนี้เราทำงานได้ ปลดหนี้ให้แม่ได้ เราเซ็นเช็คออกไปจากบัญชีเป็นล้านก็จริงแต่เราไม่ได้รู้สึกตัวเบานะ เรากลับรู้สึกยิ่งมั่นคงขึ้น ก็เป็นอีกประสบการณ์นึงในชีวิตที่คิดว่าคงไม่ได้เจอกันทุกคนค่ะ (ยิ้ม)

มีคติในการทำงานยังไง? 
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ ทุกอย่างอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปยึดติดว่าเรื่องที่แล้วฉันแสดงดีมาก หรือเรื่องนี้แป้ก เพราะทุกอย่างมันจบไปแล้ว และถ้าวันนี้เราทำไม่ดีก็ต้องพัฒนาตัวเอง

 

 

เวลาท้อ กำลังใจสำคัญคืออะไร? 
หญิงคิดว่าตัวเองโชคดี เกิดมามีบุญ ที่เป็นคนลืมเร็วและไม่ยึดติด คือรู้นะว่าทุกข์แต่เหตุแห่งการดับทุกข์มันอยู่ที่ใจ ถ้าเราโฟกัสแค่ความทุกข์ มันก็ยังทุกข์อยู่อย่างนั้น อย่างวันที่หญิงมีหนี้สิน ถ้าเราโฟกัสที่หนี้ว่า โอ๊ย! ตายแล้ว ทำไงดี เอาเงินที่ไหนมาคืนเขา มันก็จะเครียด แต่ถ้าเราโฟกัสใหม่ว่ามันคือความท้าทายในชีวิต เราต้องหาเงินให้ได้เท่านี้ เพื่อที่จะไปถึงยอดนี้และฉันก็จะก้าวขึ้นไปอีกสเต็ปในชีวิต แล้ววันนึงเราก็จะประสบความสำเร็จในชีวิต ความรักก็เช่นกันนะ ถ้าเรามัวแต่โฟกัสว่าทำไมเขาไม่ตอบไลน์ฉัน เราจะคิดอย่างนั้นทำไม ในเมื่อเรายังมีโอกาสไปทักไปตอบไลน์คนอื่น มีคนอื่นเข้ามาในชีวิตอีก ถ้าเราโฟกัสผิดจุด จิตเราก็ไม่มีความสุข อะไรมันก็ไม่ดี ดังนั้นเวลาที่เราโฟกัสผิดที่เราก็หาที่เปลี่ยนการโฟกัสเลย และอีกอย่างเราก็เป็นคนที่มองโลกแง่บวกมาก เรื่องที่ทำให้ปวดหัว คนนินทาเราก็ไม่เคยเก็บมาคิดเลย คิดว่าน่าสงสารเขา เราปล่อยผ่านไป เลยไม่ค่อยมีปัญหากับใครค่ะ

เรื่องความรักถามกี่ครั้งก็ยังโสด ตอนนี้มีใครเข้าตารึยัง? 
ตอนนี้ก็ยังโสด ก็มีคนเข้ามาคุยเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าคนนี้มีในสิ่งที่เราอยากมี แต่บางอย่างก็ไม่มี ถ้าผ่าตัดสองคนนี้มารวมกันได้ก็จะดี คือคนที่จะมาอยู่กับเราในชีวิตมันก็ต้องเลือก ถ้าเราต้องไปนั่งยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นตลอด เราทุกข์นะ เราต้องเจอคนที่ยอมรับซึ่งกันและกัน หรือบางคนที่มาทำเพื่อเรา จนเรารู้สึกรำคาญก็มี แล้วเราไม่อยากโสดถึงขั้นต้องคบคนที่ทำให้เรารำคาญตลอดเวลาก็ไม่ไหวนะ ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพอดี ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มี เปิดใจนะ ใครเข้ามาเราก็คุย แต่คุยได้สักพักรู้สึกเป็นเพื่อน ภาพที่คนเข้าหาเราจะเป็นแบบ หญิง รฐา เซ็กซี่ แต่พอมาเจอจริง ๆ ก็ไม่ใช่ เป็นแนวลุย ๆ เลยอยากเป็นเพื่อนเรามากกว่าค่ะ

ผู้ชายที่จะพิชิตใจเราได้ต้องเป็นยังไง? 
ตอบไม่ได้จริง ๆ สเปกเราชอบผู้ชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่และมีความเป็นเด็กในตัว อยู่ด้วยแล้วยิ้ม มีความสนุก แต่ในเวลาที่เรามีปัญหา เขาก็พร้อมดูแลเรา ณ ตอนนี้หญิงเน้นงาน ถ้ามีคนเข้ามาแล้วเข้าใจในส่วนนี้ได้ และอยู่กับเราได้ปีสองปีก็อาจโอเค ส่วนเรื่องอายุจริง ๆ แต่ก่อนไม่ชอบเด็กเลย แอนตี้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีคนที่อายุน้อยกว่ามาคุย เรารู้สึกคุยกับเด็กก็สนุกดีนะ พอมาคุยกับผู้ใหญ่เริ่มน่าเบื่อ (หัวเราะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่เจอใครที่เข้าตาค่ะ

เราดูเหมือนเป็นผู้หญิงเก่ง ผู้ชายที่เข้ามาต้องเป็นคนเก่งรึเปล่า? 
หญิงไม่เก่งนะ หญิงเก่งเฉพาะเรื่องงานในแบบของหญิง ในมุมอื่นยังมีหลายอย่างที่ไม่เก่ง ยังมีอีกหลายโลกที่เรายังไม่รู้จัก ไม่ใช่ว่าจะเก่งไปทุกอย่าง ดังนั้นอย่าคิดว่าคุณเห็นผู้หญิงคนนึงแล้วคิดว่าเขาจะเก่ง เขามีเรื่องไม่เก่งเยอะ หญิงเองก็ยังมีหลายเรื่องที่อ่อนแอ ดังนั้นมาจีบเหอะ พูดแค่นี้เลย (หัวเราะ) อย่าช้า ๆ เพราะเราไม่เบา มีคนมาจีบตลอดเหมือนกัน

 

 

"แม่น้อย" มีแนะนำผู้ชายให้มั้ย? 
ทั้งเพื่อน ทั้งแม่มีแนะนำ แต่จับคู่ให้ไปนั่งกินข้าวด้วยกันก็ไม่ไหว ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทุกคนอยากเห็นหน้าคนที่จะมาเป็นแฟนเรา ตัวหญิงเองก็อยากเห็นเหมือนกัน (ยิ้ม) จริง ๆ ไม่มีใครก็เหงานะ แต่ ณ วันนี้เรายังไม่พร้อมแชร์ความรู้สึกห่วงว่าเธอจะไปไหน เพราะบางทีเราเองข้าวยังไม่ได้กินเลย แต่วันนึงถ้าเราเจอคนที่เราพร้อมที่จะแคร์เขาได้ขนาดนั้นจริง ๆ คนที่เขาแคร์เรามากพอที่เราอยากสนองตอบในเรื่องความรู้สึก ก็คงมีแฟนนะคะ

เชื่อพรหมลิขิตรึเปล่า? 
เชื่อมากค่ะ ไม่เชื่อเลยกับการเดินมาขอไลน์ อันนี้เราปัดตกทุกราย หญิงไม่ชอบที่ได้มาง่าย ส่วนเรื่องคนต่างชาติ จริง ๆ แม่ก็อยากได้หลานที่มีความเป็นฝรั่งนะ เราก็คาดหวังว่าถ้าลูกเราเป็นฝรั่งก็ปลอดภัยจากการศัลยกรรม (ยิ้ม) ไม่รู้ แล้วแต่เลย แต่ด้วยธุรกิจตอนนี้หญิงว่าอยู่เมืองไทยด้วยกันก็น่าจะดีกว่าค่ะ

เราคิดว่ารถด่วนขบวนสุดท้ายของเรากำหนดไว้ที่อายุเท่าไหร่ดี? 
อายุสัก 35 ปีค่ะ ตอนนี้ก็ 32 แล้ว อีก 3 ปี เราก็คิดไว้แล้วว่าถ้าไม่มี ก็จะไม่แต่งงานแล้ว แต่มีแฟนนะ ที่ไม่แต่งเพราะการแต่งงานคือการมีครอบครัว มีลูก เราก็กลัวว่ามีลูกแล้วไม่แข็งแรง ถ้ามันไปไม่ถึงจุดนั้นจริง ๆ หญิงขอแค่คนที่เข้าใจและเดินทางรอบโลกด้วยกัน แต่ก่อนซีเรียสเรื่องแต่งงาน แต่ตอนนี้ไม่เลย ช่วงหลังเห็นเพื่อนมีลูกเยอะ เห็นชีวิตการเป็นมนุษย์แม่แล้วรู้สึกเลยว่ามันหนักและเอาเวลาเราไปหมด ด้วยตอนนี้เราสนุกกับชีวิตแบบนี้ด้วยมั้ง แต่วันนึงถ้าเราเหงามากจริง ๆ เราอาจอยากกลับไปคิดมีชีวิตที่มีครอบครัวมีลูกเหมือนเดิม ถ้ามีครอบครัวเราก็อยากเป็นแม่คน แต่ถ้าไม่มีใครทำให้เรารู้สึกเขาจะเป็นพ่อคนให้เราได้ ก็ไม่เอาดีกว่า คนจะมาเป็นแฟนเยอะค่ะ แต่คนที่จะมาเป็นพ่อของลูกนั้นยาก ทั้งความรับผิดชอบหลายอย่าง เรายังคาดหวังว่าจะเจออยู่ แต่ไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องให้ได้ อาจเหลือ 50 แล้ว

สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรแฟน ๆ ที่คอยให้กำลังใจเรามาตลอด? 
ขอบคุณมากค่ะ เพราะแฟน ๆ หญิงก็มาจากคุณแม่ด้วย อยู่กับหญิงมาตั้งแต่เด็กเลย จนมาถึงวันนี้แฟน ๆ หญิงคงภูมิใจกับหญิงด้วย เพราะผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งช่วงที่มีและไม่มี ช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่เราเริ่มทำธุรกิจอีกตัว ก็อยากให้กำลังใจหญิงด้วย