เรียกว่าจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งไปแล้วสำหรับละคร "พลับพลึงสีชมพู" ทางช่อง 3 ที่มีนางเอกสาว "ไอซ์ - อามีนา กูล" ประกบคู่กับพระเอกสุดกวน "แอนดริว เกร็กสัน" ทำให้มีเสียงเรียกร้องอยากให้ "ดาวต่างมุม" พาไปทำความรู้จักสาวไอซ์ให้มากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ตลอดจนโอกาสที่ได้รับในการเป็นนักแสดงคลื่นลูกใหม่สังกัดช่อง 3 สิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตของเด็กสาวคนนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ติดตามบทสัมภาษณ์น่ารัก ๆ ของไอซ์กันได้เลยค่า

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @ice_amena (IG)

ละครพลับพลึงสีชมพูจบแล้ว กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง? 
โดยภาพรวมดีมากนะคะ แต่อย่างที่ทราบกันว่าจะโดนวิจารณ์เรื่องแต่งหน้าในละครยับเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) คนจะถามว่าตั้งใจแต่งหน้าเข้มแบบนั้นเหรอ ทำไมแก้มต้องแดงขนาดนั้น หนูก็เลยบอกไปว่าเพราะพลับพลึงสีชมพูไงคะ แก้มหนูก็เลยต้องสีชมพูเข้มแบบนี้ (ยิ้ม) เราก็ตอบขำ ๆ ไป แต่เอาจริง ๆ ด้วยตามที่เรื่องวางไว้ อยากให้ตัวนางเอกคือ "สโรชา" เป็นคนแข็ง ๆ ต่างจากตัว "พลับพลึง" เลยพยายามทำให้ต่าง ทั้งที่จริง ๆ ก็คนคนเดียวกันค่ะ

เป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกก็เจอคำวิจารณ์เลย? 
มีแต่คนมาถามหนู ว่าหนูนอยด์หรือเปล่า เพื่อน ๆ ก็ส่งรูปที่เขาตัดต่อลงเว็บไซต์ทำรูปเปรียบเทียบกับลิงด้วย (หัวเราะ) หนูไม่ซีเรียสนะคะ มองว่ามันตลกมากกว่า ไม่ได้เครียดไปไกลว่าชั้นโดนอะไรเนี่ย อย่างน้อยคนที่วิจารณ์ละครเรา คือคนที่ดูละครเราเล่นแน่นอน ไม่งั้นเขาจะไม่รู้ว่ามีข้อบกพร่องยังไง ยิ่งเขาวิจารณ์ก็ดีกว่ากระแสละครที่เราตั้งใจทำงานแล้วกลับเงียบ ดีใจที่ทุกคนดูละครของเรา เรื่องที่เขาวิจารณ์ไอซ์ก็ได้คุยกับพี่ ๆ ทีมงาน พี่ดาว - พอฤทัย ผู้จัดละคร เขาก็รู้ ก็ขอโทษเรา มันอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างในการทำงาน เราก็เข้าใจ แต่ไอซ์เชื่อว่าในโอกาสต่อ ๆ ไปมันน่าจะดีขึ้นนะคะ

จากละคร "สามใบไม่เถา" ก็มาเป็นนางเอกเต็มตัวใน "พลับพลึงสีชมพู" รู้สึกยังไงบ้าง? 
ดีใจที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่นะคะ เพราะหนูใหม่มาก ๆ เล่นเรื่องแรกคือ "สามใบไม่เถา" ซึ่งถ่ายพร้อมกับเรื่อง "พลับพลึงสีชมพู" เลย แต่ในสามใบไม่เถา บทยังได้แชร์กับคนอื่น แต่เรื่องนี้ เล่นคนเดียว บทเยอะ แต่หนูโชคดีได้ร่วมงานกับพี่ ๆ รุ่นใหญ่เก่ง ๆ ทุกคน เขาช่วยแนะนำเราตลอดค่ะ พี่แอนดริว, อาปุ๊-มนตรี ฯลฯ ให้คำแนะนำเยอะมากค่ะ

 

 

จุดเริ่มต้นในการเข้าวงการของไอซ์เป็นมายังไง? 
ไอซ์เริ่มจากถ่ายหนังสือ ถ่ายแบบค่ะ แล้วก็ไปเล่นหนังเรื่อง "รักสุดทีน" กับพี่มาริโอ้ เมาเร่อ ตอนนั้นไปแคสติ้ง ไม่มีประสบการณ์ทางการแสดง ไม่เคยเรียนแอ๊คติ้งใด ๆ ด้วย ก็ถ่ายแบบงง ๆ ดีที่มีพี่มาริโอ้คอยช่วย (หัวเราะ) จริง ๆ แล้วไอซ์ชอบการเป็นนักแสดงนะ ตอนเด็ก ๆ ชอบเดินแบบ เวลาดูทีวีก็แอ๊คติ้งตามกับน้อง ๆ (หัวเราะ) แต่เอาจริง ๆ ไม่คิด ไม่ฝันเลยว่าจะได้เข้าวงการ เพราะรู้สึกวงการเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก คนตั้งเยอะแยะเราไม่น่ามีโอกาส จนมาแคสติ้งทางช่อง เล่นละคร "ตะวันฉายในม่านเมฆ" รับบทเป็น "เอวา" จากนั้นมาแคสติ้งกับค่ายเมเกอร์กรุ๊ปจนเล่นเรื่อง "สามใบไม่เถา" รับบท "อันตรา" ค่ะ

อยู่วงการปีนี้เป็นปีที่เท่าไหร่แล้ว? 
ถ้าเริ่มทำงานจริง ๆ ปีนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว แต่ในช่องมีนางเอกเยอะ ไอซ์ต้องพัฒนาตลอดเวลา ทุกคนมีความสามารถทั้งนั้น เราคงต้องพัฒนาฝีมือให้รอบด้านไม่ใช่การแสดงอย่างเดียว คือต้องไม่หยุดนิ่ง เวลาได้บทมาก็ต้องทำการบ้าน หาข้อมูล ตีความคาแรกเตอร์ บางเรื่องอ่านนิยายเพื่อความเข้าใจ สมองเราจะได้ทำงานตลอดเวลา จะเป็นกลไกธรรมชาติทำให้เราชินกับระบบนี้ ที่สำคัญต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเองก่อนไปถามพี่ ๆ จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่นเขาที่ต้องมาอธิบายเพื่อให้เราเข้าใจค่ะ

ละครที่ออกอากาศไปเห็นข้อบกพร่องของตัวเองตรงไหนบ้าง? 
หนูมีปัญหาเรื่องเสียงค่ะ เป็นคนเสียงห้วนมาก เพื่อนชอบมาบอกว่าเราชอบพูดตัดคำ ถ้ารีบพูดเราจะดูเป็นคนพูดห้วนไปเลย เหมือน พูดใส่อารมณ์จากโทนเสียงที่แข็ง มีบ้างที่หลุดมาในละคร ส่วนการแอ๊คติ้ง ก็ยังไม่ลื่น ยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย แต่ก็พอใจกับผลงานเพราะไอซ์ทำสุด ๆ เต็มที่แล้วจริง ๆ นะคะ

 

 

ผลงานเรื่องต่อไปที่แฟน ๆ จะได้ชมของไอซ์ล่ะ? 
มีเรื่อง "พิรุณพร่ำรัก" ค่ายยูม่าแล้วก็ "ดั่งพรหมลิขิตรัก" ค่ายทีวีซีน เรื่องแรกไอซ์เล่น เป็นคุณหมอเด็ก บทเปลี่ยนไปอีกแล้ว (หัวเราะ) ต้องนิ่ง ๆ วางตัวสุขุม คิดอะไรข้างใน ท้าทายมากนะคะสำหรับบทแบบนี้ เพราะเราไม่สามารถแสดงอารมณ์ ความรู้สึกแบบระเบิดออกมาได้ตรง ๆ มันเป็นอีกก้าวที่เรียนรู้อะไรมากขึ้น บทการพูดก็เยอะขึ้น อธิบายแบบคุณหมอ ต้องจำเยอะแต่สนุกดี เล่นคู่กับพี่บอม-ธนินท์ เรื่องที่สอง "ดั่งพรหมลิขิตรัก" มีทั้งอดีตและปัจจุบัน บทไอซ์จะเล่นเป็นคนอ่อนแอกับสู้คน รับรองสนุกมากแน่ ๆ ค่ะ

เพราะมาเล่น "พิรุณพร่ำรัก" แทนแต้วเลยถูกแซวว่าเป็นนางเอกส้มหล่นเลย? 
ใช่ค่ะ แต่หนูดีใจนะคะที่ได้เล่นเรื่องนี้ โอเคตอนแรกไม่ใช่เรา แต่เป็นพี่แต้ว - ณฐพร จนสุดท้ายมีการเปลี่ยนแปลง แล้วผู้ใหญ่มอบหมายให้เรา เขาต้องมองว่าเราทำได้ แล้วเราก็ต้องไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ มันเป็นการพิสูจน์ฝีมือ ไอซ์มองว่าเป็นความโชคดีกว่าการที่เราจะมานั่งนอยด์ที่คนยกเรามาเปรียบเทียบ หรือมองว่าเราแค่นางเอกส้มหล่น ปีหน้าจะได้เห็นไอซ์เล่นละครติด ๆ กันเลย อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ (ยิ้ม)

ตอนนี้เรียนอยู่คณะอะไร ปีไหนแล้ว? 
ไอซ์เรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปี 2 ค่ะ ตอนนี้อายุเพิ่ง 22 ปีเองนะคะ คิดว่าจะจบช้ากว่าเพื่อน ๆ นิดนึง แต่ว่าหนูคุย กับแม่แล้ว ท่านไม่ซีเรียส โอกาสเรื่องงาน กำลังดี ไอซ์มองว่าการทำงานข้างนอกเราได้ประสบการณ์มากกว่าในห้องเรียน แต่ความรู้ในห้องเรียนก็สำคัญจึงต้องทำทั้งสองอย่างให้ดีค่ะ

 

 

ตัวตน นิสัยส่วนตัวของไอซ์เป็นยังไง? 
หนูเป็นคนโก๊ะ ๆ เปิ่น ๆ นะ ทุกคนจะเห็นเลยเรามีแผลเต็มตัว ถ้าคนไม่รู้จักหนูจะเข้าใจว่าหนูนิ่ง พอรู้จักแล้วก็จะรู้เรายังดูเด็ก ๆ หนูดูเหมือนจะหวาน แต่ตัวจริงลุย ๆ ค่ะ ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เช่น ขี่เจ็ตสกี กระโดดร่ม ชอบมาก ถามว่ากลัวมั้ย กลัวมากค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ชอบเล่น พอทำได้ยิ่งฟินค่ะ (ยิ้ม)

มีคนทักมั้ยว่าหน้าเหมือนดารารุ่นพี่เราหลายคนเลยนะ? 
ใช่ค่ะ โดนทักเยอะมาก บอกว่าเหมือนทั้งพี่นุสบา ปุณณกันต์ พี่ ๆ ช่างแต่งหน้าชอบทักว่าเหมือน บางคนก็บอกว่าเหมือนพี่แอน ทองประสม หนูว่าแล้วแต่การแต่งหน้า ถ้าแต่งอ่อน ๆ จะคล้ายพี่แอน แต่ถ้าเข้ม ๆ จะคล้ายพี่นุสบา อาจเพราะหนูเป็นลูกครึ่ง ไทย - ปากีสถาน ด้วยมั้งคะ หน้าเราเลยคม ๆ คล้ายหลายคนได้ค่ะ

ความรู้สึกหลังเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงเรียนรู้อะไรบ้าง? 
เรียนรู้การใช้ชีวิตให้มีสติ วางตัวที่ดี ดูแลตัวเองมากขึ้น รับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ได้เอาไปใช้ทุก ๆ เรื่องในชีวิตจริง ๆ มันดีนะคะ เพราะทำให้หนูโตขึ้น เราคุยกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน รู้สึกว่าความคิดเราโตกว่าเขาจากการทำงานตั้งแต่อายุน้อย ๆ เป็นกำไรชีวิตจริง ๆ ค่ะ

 

 

การเป็นนักแสดง ดารา ทำให้ชีวิตส่วนตัวหายไปมั้ย? 
หนูยังไม่รู้สึกขนาดนั้นนะคะ เพราะหนูยังใช้ชีวิตปกติ อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้ตีกรอบให้ตัวเองต้องเป็นแบบไหนเลยไม่รู้สึกอึดอัด ยังเป็นตัวของตัวเอง บางคนบอกเป็นดาราต้องห้ามโน่น ห้ามนี่ ไม่เลย เพราะส่วนตัวหนูไม่ค่อยชอบเที่ยวแบบนั้น เลยไม่มีปัญหากับการใช้ชีวิตอะไรเลยค่ะ

กังวลเรื่องข่าวด้านลบ ที่คนในวงการชอบเจอหรือเปล่า? 
ไม่กังวลนะคะ ต้องดูว่าข่าวลบนั้นที่ออกมาจริงหรือเปล่า แต่ส่วนตัวเข้าวงการมาไม่เคยเจอข่าวด้านลบแรง ๆ มีแต่เรื่องเล่นละครแล้วแต่งหน้าเข้มนี่แหละค่ะ แรงสุด ๆ แล้ว (หัวเราะ) หรือเรื่องหลงตัวเองเพราะเริ่มมีชื่อเสียง ก็มั่นใจว่าไม่เกิดขึ้นกับเราแน่ เพราะไอซ์บอกคนรอบตัวเสมอ ให้ตักเตือน บางทีเราอาจเผลอโดยไม่รู้ตัวได้ เราไม่ได้อยากเป็นน้ำเต็มแก้ว แต่หนูเป็นน้ำครึ่งแก้วให้คนสามารถเทสิ่งดี ๆ ได้ตลอดดีกว่าค่ะ

ฝีมือการแสดงของเราก็ยังต้องพิสูจน์อีกเยอะใช่มั้ย? 
ใช่ค่ะ คงต้องพัฒนากันต่อไป ประสบการณ์เราไม่มีแต่มาไกลขนาดนี้ มันเป็นความโชคดีที่ต้องช่วยตัวเอง ได้เล่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทุกคนจะมองว่าหนูโชคดี แต่เราต้องทำให้ความโชคดีที่ได้รับในชีวิตจากการเข้าวงการไม่หายไป และผู้ใหญ่ต้องเห็นว่าเราทำได้ค่ะ เป้าหมายจากการทำงานอาชีพนี้ของหนูคือทำทุกวันให้ดีที่สุด

ไอซ์มีความฝันนอกเหนือจากการทำงานในวงการหรือเปล่า? 
ไอซ์อยากเปิดร้านเบเกอรี่ค่ะ (ยิ้ม) เพราะไอซ์ชอบทานขนมก็เลยไปเรียน แล้วซื้ออุปกรณ์มาครบเต็มห้องเลย แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทำจริงจัง แค่ทำให้พี่ ๆ ทานที่กองถ่ายละคร คิดว่าอนาคตถ้ามีโอกาสอยากเปิดร้านของตัวเองนะคะ

 

 

พอมาเป็นนางเอกแล้ว มีวิธีการดูแลตัวเองยังไงบ้าง? 
ถ้านอนน้อยไอซ์จะป่วยง่ายมาก ถ้าไม่ออกกำลังกายจะแพ้อากาศ ฉะนั้นไอซ์จะจริงจังในการออกกำลังกายมาก ทานวิตามินเสริมบ้าง แต่ไม่เคยไดเอต หนูโดนสั่งเพิ่มน้ำหนักด้วยซ้ำ คือหนูกินเยอะนะคะ แล้วเน้นขนมด้วย เพื่อนสนิทจะรู้เรากินเยอะแต่ไม่อ้วนเลย(ยิ้ม)

ความรักล่ะ มีหนุ่มดูแลหัวใจหรือยัง? 
ไม่มีเลยค่ะ (ยิ้ม) ไอซ์ไม่ได้โฟกัสเรื่องแฟนเลย อยากทำงานให้ดี ทุกวันนี้ละครแน่นพอแล้ว เลยอยากทำให้ดี ๆ ไม่อยากเอาเวลาไปโฟกัสเรื่องอื่นเท่าไหร่ ก็มีคนแวะเวียนเข้ามาคุยบ้าง แต่เราไม่ชอบ หนูเป็นคนชอบคนยากนะ(หัวเราะ) ไม่ค่อยเปิดใจ คนรอบข้างจะรู้นิสัยเรา ไม่ค่อยยอมคุยกับคนง่าย ๆ ซึ่งหนูดีใจนะที่ตัวเองเป็นแบบนั้นไม่อยากเสียเวลาเลยค่ะ

สเปกของเราเป็นยังไงล่ะ? 
ชอบคนตลก โรแมนติก อบอุ่น โตกว่าหนูน่าจะดีค่ะ ที่สำคัญต้องไม่เจ้าชู้ เพราะเราทำงานก็เหนื่อยแล้ว ต้องไว้ใจได้ ถ้าเหนื่อยแล้วมาเจอคนทำให้ปวดหัวคงไม่เอา เพื่อน ๆ จะชอบมาปรึกษาเรื่องความรัก พอเราฟังเราก็กลัวนะ ไม่อยากมีแฟนเลย ถ้ายังไม่เจอที่สบายใจจริง ๆ ก็ไม่อยากตกลงคบใคร ตอนนี้โสดก็ไปวัด ที่เราได้ความสงบปรับเอามาใช้ในการทำงานได้ด้วย เรานิ่งขึ้น มีสมาธิ จนเพื่อนแซวเป็นแม่ชีหรือเปล่า (หัวเราะ)

สุดท้ายฝากถึงคนที่ติดตามผลงาน หรือคนที่วิจารณ์ทั้งติและชมหน่อย?
ขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ นะคะ ละครจบแล้วก็ขอบคุณทุกคำติชม คำติหนูก็จะเอามาปรับปรุงให้ดีขึ้น ขอโอกาสในการปรับปรุงด้วยนะคะ ส่วนคำชมก็ขอบคุณทุกกำลังใจ อย่างน้อยเรารู้สึกได้ว่ายังมีคนที่สนับสนุนให้เรามีผลงานในอนาคตต่อไป คำติก็เหมือนเป็นกระจกสะท้อนให้หนูรู้ตัวว่าเราผิดพลาดอะไร ซึ่งอนาคตข้อบกพร่องตรงนี้ต้องหายไปให้ได้ค่ะ