ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > สัมภาษณ์ดารา

'ต้นหอม' ชีวิตคิดนอกกรอบ

31 ส.ค. 2558 13:54 น. | เปิดอ่าน 1522 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ถึงแม้ความรักไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ผู้หญิงอารมณ์ดี ต้นหอม - ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ดีเจสาวจาก 94 อีเอฟเอ็ม ผู้เรียกขานตัวเองว่า "ชะนีอินดี้" ก็ยังยิ้มได้ และเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปตามแนวทางวิถีเดิม เพราะตอนนี้เป้าหมายหลักในชีวิตนั้น เธอบอกว่าขอทุ่มเทให้กับงานล้วน ๆ วันนี้เธอมาเปิดใจกับ "ดาวต่างมุม" เพื่อให้เราทำความรู้จักเธอมากขึ้นในมุมมองที่ต่างออกไป

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @djtonhorm (IG)


แม้จะผ่านเรื่องราวอกหักต่าง ๆ มาแต่ไม่เศร้าเลย? 
ก็ทำงาน งานเราเป็นงานร่าเริง แล้วหอมเองก็ชอบเห็นตัวเองสวย ๆ ในหน้าจอทีวีหรือเดินไปไหนแล้วสวย ๆ เป็นคนที่หัวเราะได้กับทุกเรื่องของชีวิตได้หมด แล้วเราก็เคยอกหักมาแล้ว เคยเฮิร์ตมาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้หนัก ๆ ก็ทำให้เรารู้วิธีว่ามันมีแบบนี้นะ ที่จะใช้ชีวิตให้มันหาย จะทำยังไง ก็เคยมีประสบการณ์แล้ว ไม่ใช่ครั้งแรก ถ้าเครียดจะเป็นเรื่องงาน แล้วก็เรื่องความรัก แต่ตอนนี้ความรักไม่มีก็จะเป็นเรื่องงาน แต่บังเอิญงานช่วงนี้ก็ดันดีอีกอ่ะ อยากจะบอกว่าอันลัคกี้อินเลิฟ แต่ลัคกี้อินเกมอย่างนี้ก็ได้ คืองานมันดันดีมาก หอมเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตนะ แต่สิ่งที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้มันมาจากตัวเอง มันไม่ใช่ดวง


ความรักที่จบไปนี่เข็ดกับมันไหม? 
เราจะตั้งทฤษฎีไว้เยอะมากว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ได้บทเรียนจากคนเก่า ในชีวิตที่ผ่านมามีใครบ้างเก็บไว้เป็นบทเรียน สุดท้ายแล้วเนี่ยไอ้สิ่งที่เราตั้งเป็นทฤษฎีเป็นบทเรียนต่าง ๆ มันไม่สามารถเอาไปใช้กับอีกคนหนึ่งได้ เขาก็จะเป็นบททดสอบอีกบทหนึ่ง มันเหมือนกับตำราเล่มใหม่ที่เราต้องเรียนรู้ใหม่ ๆ ต่อให้มีทฤษฎีเยอะขนาดไหน บางครั้งก็เอาตัวไม่รอดเรื่องความรักก็มี มันต้องเรียนรู้เป็นคน ๆ ไป เหมือนหนังสืออ่านทีละเล่ม อ่านจนจบเราถึงจะรู้บทสรุปว่า เล่มนี้เป็นแบบนี้นะ ตอนนี้ถ้ามีรักใหม่ก็คงดูที่นิสัย แล้วอนาคตมันน่าจะไปด้วยกันได้นะ พูดภาษาเดียวกัน แต่พอถึงเวลาจริง ๆ มันก็ออกแบบไม่ได้อยู่ดี ก็เลยไม่อยากคาดหวังว่ามันจะเป็นยังไง คือถ้าถูกใจหอมก็ยังเรียนรู้ได้ต่อไป ถ้าไม่ใช่ก็เลิกอีก ถ้าใช่ก็คบต่อไป ไม่มานั่งคิดแล้วว่า ฉันจะต้องแต่งงานมีลูกเท่านั้นเท่านี้ มันกดดันตัวเอง ถ้ามีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่มี ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิต


ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องแต่งงานใช่ไหม? 
ให้ความสำคัญเหมือนกัน แต่พยายามไม่เอามันมากดดัน เพราะอายุมันยิ่งมากขึ้น เราก็คิดว่าทางเลือกมันน้อยเราจะมากดดันตัวเองทำไม ก็พยายามไม่ให้มันเป็นเป้าหมายแรกในชีวิต แต่ก่อนอาจจะเป็นเป้าหมายแรก แต่ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว เราจะมองความมั่นคงในชีวิต ขยับมาเป็นเรื่องแรก เรื่องแต่งงานอาจจะเป็นเรื่องรอง ถ้ามีก็ได้ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ก็ยังอยากแต่งงานนะ ก็มีแพลนทุกอย่างพร้อมแล้ว แค่รอผู้ชายมาสวมเสื้อเจ้าบ่าวแค่นั้นเอง (หัวเราะ)

 

 

ทุกวันนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม? 
ก็อาจจะเปลี่ยน มีเหตุผลมากขึ้น ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ชั่ววูบ เพราะเราก็ไม่อยากรักใครแล้วเลิกอีก ถ้ารักก็อยากรักยาว ๆ ไปเลย อยากคบกับใครแบบนาน ๆ 5 ปี 10 ปี อยากมีโมเมนต์นั้นบ้าง


คนจะเห็นหอมสนุกสนานเฮฮา เวลามีความรักจริงจังกับมันมากน้อยแค่ไหน? 
จริงจังมาก ซีเรียสมาก เหมือนเป็นผู้หญิงที่แพ้ทางอยู่เรื่องเดียว จะอ่อนแออยู่เรื่องเดียว จนบางทีสูญเสียความเป็นตัวเอง เราก็เป็นตัวเองมาก ๆ แต่พอเจอเรื่องความรักก็เออ ทำยังไงถึงจะเอาใจเขา ทำยังไงถึงจะให้เขาชอบ คือทำให้เขามากกว่าที่บางทีแคร์ความรู้สึกตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีแหละ การรักกันมันก็ต้องอยู่ในเวย์นั้นนะ แต่ตอนนี้หอมคงเลือกเยอะขึ้นแน่ ๆ ถ้า ณ เวลานี้ อย่างที่บอกว่าไม่อยากเลิกกับใครแล้ว อยากคบนาน ๆ แต่หอมก็ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองว่า ไอ้ที่เลือกน่ะมันดีหรือเปล่าอีกนะ เดี๋ยวพอถึงเวลาก็อาจจะเสียการทรงตัวเหมือนเดิม


มีคนเอาความรักของต้นหอมไปเปรียบเทียบกับดาราหลาย ๆ คน? 
หอมว่าชีวิตคู่มันไม่เหมือนกันมันเทียบกันไม่ได้ ชีวิตคนมันก็มีเรื่องราวแตกต่างกัน การแก้ปัญหาหอมว่ามันต้องใช้สติ สติมันใช้ได้กับทุกคน ก็นึกถึงเหตุผลเยอะ ๆ ตอนนี้มีคนมาปรึกษาว่าเจอปัญหาแบบนี้ทำยังไงดี แต่หอมรู้สึกว่าทุก ๆ เรื่องราวมันมีเหตุและผลของมันว่าทำไมเราถึงอยู่กับคนอื่นไม่ได้ ทำไมต้องเลิกกัน มันมีเหตุผล แล้วถ้าวันนี้เราคบกันไม่ได้จริง ๆ คบกันแล้วต้องพัง เราจะกลับไปคบอีกไหม ก็คือใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก

 

 

เป้าหมายของชีวิตตอนนี้คืออะไร? 
เป้าหมายตอนนี้คงเป็นเรื่องงานเรื่องความมั่นคงของชีวิต เดี๋ยวผู้ชายก็คงมาเองแหละ ตอนนี้ก็อยู่กับเพื่อนให้เพื่อนมาหา แต่เราก็อยู่คนเดียวได้แล้วนะ เราจะรู้วิธีการ อย่างเมื่อก่อนทีวีจะโดนตัด เราก็อยู่เงียบ ๆ ซึ่งถ้าเราอยู่ เงียบ ๆ เราจะยิ่งฟุ้งซ่าน เราก็ไปจ่ายค่าทีวีซะ คือนึกว่าแต่ก่อนเราใช้ชีวิตยังไง เมื่อก่อนกลับบ้านมาเราก็นั่งดูทีวี เราก็แค่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่เราเคยใช้ แต่ถ้ามีเพื่อนมาเราก็สนุก คือ ณ ตอนนี้กลายเป็นว่ามีเพื่อนมาจนไม่มีเวลาอยู่คนเดียวไปแล้ว เพื่อนก็พร้อมจะมาอยู่ด้วย แล้วอีกอย่างการอยู่กับเพื่อนตุ๊ดมันก็มีแต่ความสนุก หลัง ๆ จะเห็นว่ามีคลิปสนุก ๆ ในไอจีเยอะมาก คือเมื่อเพื่อนมารวมตัวกัน เราก็สนุก อัดคลิปซะหน่อย เวลาอยู่กับเพื่อนเราก็เต็มที่ได้แล้วไง ไม่ต้องเกรงใจใครแล้ว เมื่อก่อนจะทำอะไรก็จะแบบว่า เขาจะมองเราไม่ดีหรือเปล่า ไม่น่ารักหรือเปล่า พอตอนนี้เราก็ใส่ได้เต็มที่ กลับมาเป็นตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน


แสดงว่าเมื่อก่อนยอมที่จะเปลี่ยน แปลงตัวเองเพื่อคนรัก? 
ใช่ หอมรู้สึกว่า การได้หอมเป็นแฟนแล้วถ้าเกิดหอมบ้ามาก ๆ จะอายไหม หรือว่าหอมทะลึ่งตึงตังมาก ๆ จะดูเป็นผู้หญิงไม่ดีไหม คือเราจะคิดแทนเขาเยอะมาก เรามีความสุขกับการทำให้เขา แต่ ณ วันนี้เรามีความสุขกับตัวเองแล้วนี่ อยากทำอะไรก็ทำ


กว่าชีวิตจะมายืนตรงจุดนี้ได้ ผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง? 
ผ่านอะไรมาเยอะมาก หอมต้องมาจากการเป็นเด็กแคสติ้งโฆษณา งานโฆษณาก็เป็นที่รู้กันว่า แคสเป็นร้อยเอาคนเดียว หอมต้องแคสเป็น สิบ ๆ งานกว่าจะได้งานหนึ่งตัว ตอนแรกก็ท้อนะ แคสเป็นสิบงานแล้ว ไม่เอาแล้ว เลิกแล้ววงการไม่เอาแล้ว แต่ทีนี้พอเราเริ่มแคสงานได้ 1 ตัวปุ๊บ เราก็เริ่มรู้แล้วว่า ทำไมคนถึงได้งานโฆษณา สิ่งที่เขาได้คือเก็บประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ งานหนึ่งไม่ได้ งานสองไม่ได้เพราะอะไร แล้วหอมเป็นคนที่ชอบวิเคราะห์ตัวเองว่า ทำไมเราไม่ได้ และเราก็ดูคนที่ได้ว่าเขาเล่นยังไง หลัง ๆ เราก็เริ่มได้งานโฆษณามาเรื่อย ๆ มันเหมือนมันสั่งสมประสบการณ์ จากนั้นก็มาถึงการเป็นพริตตี้ ซึ่งพริตตี้นี่ได้อะไรเยอะมาก เพราะพริตตี้เป็นอาชีพที่ท่องจำถึงที่สุด ถ้าอยู่มอเตอร์โชว์นี่ หอมใช้เวลาเป็นเดือนในการท่องรถสามตัว เราจะไม่ตกสักตัวอักษร หอมจะจำสคริปต์แบบเป็นหน้าหอมก็จำได้ เพราะหอมอยู่กับงานพริตตี้มาหลายปี จนกระทั่งมาเป็นพิธีกร ซึ่งก็เริ่มคล่องแล้ว เราฝึกมาเยอะแล้ว จนมาทำดีเจทุกอย่างมันเป็นสเต็ปขึ้นมาเรื่อย ๆ หอมไม่เคยรู้สึกว่ามันคือเรื่องดวง มันมาด้วยตัวเอง มันมาจากสิ่งที่เราทำ ทุกอย่างหอมวางแผนหมดว่าเราจะทำอะไร ปีที่แล้วหอมวางแผนว่าจะเล่นละคร หอมก็เล่น ปีนี้ไม่เล่นตั้งใจจะทำพิธีกรก็ทำ หอมจะวางเส้นทางของหอมไว้ชัดเจน และหอมก็เดินตาม

 

 

เรียกว่ามาดังตอนอายุมาก? 
คนเริ่มมารู้จักมากขึ้นตอนเป็นดีเจและมันก็ไต่พีคขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี เหมือนแต่ละปีหอมดีขึ้นทุกปี แต่อาจจะเป็นช่วงจังหวะชีวิตคนมั้ง ถ้าเราไม่หยุดนิ่ง เรายังไต่ไปจนถึงจุดที่เราทำงานไม่ได้ นั่นแหละหอมจะนิ่ง แต่วันนี้หอมยังพัฒนาตัวเองอยู่ ยังหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับชีวิต ละครก็ยังเล่นบ้าง ปีหนึ่งก็อาจจะมีหย่อนไว้สักเรื่องสองเรื่อง คืออาจจะให้คิวได้ไม่หลายเรื่อง อาจจะเรื่องที่ผู้จัดเขาสามารถรับคิวเราได้ ก็จะมีที่สนิทกันอย่างพี่ไก่ วรายุฑ เขาก็จะรับเรื่องคิวเราได้ว่าเรามีแค่นี้นะ หอมเป็นคนที่ออกแบบการรับงานของตัวเอง คือหอมไม่รับงานทั้งหมด แต่เลือกที่ว่าหอมจะรับหรือทำงานอะไร


สิ่งที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้คืออะไร? 
หอมว่าหอมมีความประหลาดที่มองต้นทุนของเราก่อน ว่าหอมเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก ว่าทำไมเราไม่เหมือนเพื่อน แตกต่างตั้งแต่เด็ก พอมาอยู่ในวงการแล้วมันเป็นที่ต้องการของตลาด คืออีนี่มันประหลาดดี เป็นไปโดยธรรมชาติไม่ได้ปรุงแต่ง แล้วหอมก็พีอาร์ตัวเอง หอมอยากให้คาแรกเตอร์หอมเป็นแบบไหน อย่างหอมเล่นละครตลกเยอะมาก หอมจะหยุดแล้ว ไม่อย่างนั้นภาพลักษณ์หอมเป็นตลก ซึ่งจริง ๆ มันก็ตลกนะ เพราะเราเป็นคนตลก แต่หอมอยากให้คนเห็นความสามารถอื่นบ้าง หอมอาจจะเลือกรับงานที่ยกระดับมากขึ้น คืออันนี้งานแปลก หอมรับ ถึงแม้เงินจะไม่ได้มาก แต่ถ้าภาพงานมันได้หอมรับ งานเอ็มวีค่าตัวน้อยมาก แต่อันนี้มันคืองานใหม่ ภาพลักษณ์ได้ หอมจะรับ สำหรับหอมเรียกว่าเป็นงานพีอาร์ ให้คนรับรู้ในสิ่งที่เราต้องการยัดเยียดให้ว่า รับจุดนี้ของเราไป เราอยากให้คุณรับรู้มุมนี้ ทีนี้สิ่งที่หอมทำปุ๊บ มันส่งผลทำให้หอมดูเป็นผู้หญิงหลากหลายและทำอะไรได้เยอะ หอมทางการก็ได้ ไม่ทางการก็ได้ หอมทำได้หมด คือมันเลยจุดเรื่องเงินไปแล้วนะ ทำงานในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแล้วอ่ะ


ครอบครัวสนับสนุนในสิ่งที่ทำมากน้อยแค่ไหน? 
สนับสนุน จะมีคนถามแม่ว่า แม่รู้สึกอย่างไรที่ลูกแรด (หัวเราะ) แม่บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก มันแรดแต่มันฉลาดดี เอาตัวรอดได้ ที่บ้านไม่ค่อยว่า อยากทำอะไรก็ทำ เขาก็เห็นว่าอยู่กับเพื่อนตุ๊ดมาตั้งแต่เด็ก เรื่องการแสดงเขาก็คุ้นชินมาก ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นดารา เขาก็คุ้นชินอยู่ในบ้านแล้ว

 

 

แล้วคำว่า "ชะนีอินดี้" มาจากไหน? 
ชะนีอินดี้ เป็นการแทนตัวเองให้แบบรู้เลยว่า นอกกรอบนะ ไม่ได้สนว่าโลกจะหมุนไปทางไหน ไม่ได้หมุนตามโลก แฟชั่น ทุกอย่าง แบรนด์ เนมที่เขาหิ้วกัน หอมไม่ได้ตาม หอมก็จะมีความเป็นตัวของตัวเอง คือชอบงานที่มันไม่โหล ถ้าแบรนด์เนมหอมรู้สึกว่า ผ้าลายเดียวกัน มันตัดหลายแบบ หอมก็ไม่ชอบ หอมจะชอบงานแฮนด์เมด มีชิ้นเดียว ก็เลยรู้สึกว่า ไอ้ความนอกกรอบนี่แหละที่เขาเรียกว่าอินดี้


การใช้ชีวิตทุกอย่างก็นอกกรอบ? 
ไม่ได้จงใจนอกกรอบ แค่ไม่ตามกระแส แค่รู้สึกว่ากระแสไม่มีผลกับเรานะ เวลาที่เขาฮิต ๆ อะไรกันจะไม่ได้ตามเขาเท่าไหร่ แต่จะฮิตในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็รู้สึกว่าความนอกกรอบมันก็ดี ไม่โหลดี มันเจอคนที่ไม่ซ้ำกัน แต่จะมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งว่า นอกกรอบได้แต่ต้องไม่มีคนเดือดร้อน หอมเป็นคนมีอุดมการณ์ในการใช้ชีวิต อยากให้ทุกคนติดตามในความเป็นตัวเองของหอม ถ้าชอบก็ติดตาม อย่างหอมเป็นคนพูดคำหยาบ ถ้ารับไม่ได้จะติดตามดาราคนอื่นก็ไม่ซีเรียสเลย หอมไม่อยากจะเปลี่ยนตัวเอง อยากใช้ชีวิตที่ไม่ได้ใช้หัวโขนเอาคำว่าดารามาสวมหัว คือหอมอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา หอมชอบใช้ชีวิตวัยรุ่น เพราะหอมทำงานแต่เด็ก หอมจะไม่มีชีวิตวัยรุ่น ฉะนั้นวันนี้หอมมีทุกอย่างพร้อมแล้ว หอมไม่เดือดร้อนอะไร หอมจะกลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่น ฉะนั้นถ้าอยากมาหัวใจเด็กกับเราก็มาติดตามเรา

 

: ต้นหอม ศกุลตลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เผยโฉมหน้าทีมนักแสดงไทยตัวท็อปสายฮา เตรียมเสิร์ฟเสียงหัวเราะในรายการ LOL: Last One Laughing Thailand
  • เข้มข้นจัดเต็ม "พยานปากเอก" ยกเครื่องใหม่ลุ้นระทึกมากกว่าเดิม ดาราดังตบเท้าแจม
  • “ดีเจ.ลูกกอล์ฟ” นำทีมผุดโครงการ พุธทอล์ค พุธโทร มาช่วยกันนะ เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน เหล่าดีเจ “เอ-ไทม์ มีเดีย” รวมพลังแนะวิธีสู้วิกฤตไวรัส Covid-19
  • “ดีเจ.พีเค - ดีเจ.ต้นหอม” ชวนอัปเดตความสนุกระดับ VIP!
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :