คงต้องยอมรับว่าฝีไม้ลายมือกับบทบาทของ "พาไล" ในละคร "เลื่อมสลับลาย" ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 แซ่บถึงพริกถึงขิงถูกใจคอละคร จนหลายคนออกปากชม นางเอกสาว แซมมี่ - ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ "ดาวต่างมุม" วันนี้เลยต้องนัดเธอมานั่งพูดคุยถึงผลงานชิ้นนี้ของเธอก่อนที่จะลาจอไป พร้อมทั้งอัพเดทเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของนางเอกสาวคนนี้ ที่เจ้าตัวออกปากว่ามีทั้งส่วนที่ใกล้เคียงและแตกต่างจากในละคร
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @sammthita (IG)
พูดถึงฟีดแบ็กละคร "เลื่อมสลับลาย" หน่อย?
จริง ๆ แล้วทุกครั้งเวลาเราเล่นละครไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่เรื่องนี้ออกอากาศไปแล้วฟีดแบ็กดีเกินคาด เราไม่คิดว่าคนจะดูเยอะขนาดนี้ แล้วกระแสจากในเว็บไซต์พันทิป หรือฟีดแบ็กจากคนรอบข้าง ก็ออกมาในทางที่บวก จริง ๆ ไม่ได้ดีแค่ตัวละคร "พาไล" แต่ดีทั้งหมดเลย ทั้งพี่นิว - วงศกร พี่รถเมล์ - คะนึงนิจ ทั้งผู้กำกับ ทั้งทางค่าย และพี่ที่เขียนบทด้วย เราก็ดีใจและหายเหนื่อย น้ำตาทุกเม็ดที่ไหลไปก็รู้สึกว่าคุ้มค่า เพราะตั้งแต่เล่นละครมาหนูว่าเรื่องนี้ยากสุดนะ เราไม่เคยเล่นละครดราม่าขนาดนี้มาก่อน อย่างเรื่องอื่นก็จะมีดราม่านิด ๆ หน่อย ๆ แต่เรื่องนี้ดราม่าทั้งเรื่องเลย ไปถ่ายทีนึงนี่ก็ร้องไห้ทั้งวัน
เห็นว่าร้องไห้จนเป็นลมในกองเลย?
เกิดมาเราไม่เคยเป็นลม หรือมีอาการหายใจถี่ ๆ มือเกร็ง ตัวเกร็งมาก่อนนะคะ แต่จู่ ๆ วันนั้นถ่ายละครอยู่ก็เป็นตะคริว อยู่ในฉากก็ไม่รู้ว่าเราคิดอะไร มึนตึงไปเลย ลุกเดินไปหาพี่ชู - บุญชู ผู้กำกับ เดินไปร้องไห้กับเขา บอกว่าพี่หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้ หยุดร้องไม่ได้ จนต้องสั่งพักกองสองชั่วโมง ก็โชคดีที่วันนั้นมีพี่ ๆ นักแสดงผู้ใหญ่ อย่าง พี่ต่อง - สาวิตรี แม่ต๋อย - นฤมล เขาก็บอกว่าเป็นเพราะว่าเราอินมากเกินไป พอคัทแล้วไม่รู้ว่าจะเอาอารมณ์ออกยังไง อย่างหลายวันก่อนก็เป็นอีกพอถ่ายซีนร้องไห้ก็เห็นภาพซ้อน ตาพร่า เขาเรียกโรคนี้ว่า “ไฮเปอร์เวนติเลชั่น” เป็นโรคที่เกิดเพราะจิตใจล้วน ๆ เกิดจากความเครียด ทำให้เราคอนโทรลตัวเองไม่ได้ กล้ามเนื้อจะเกร็ง เช่น ร้องไห้อยู่ก็ไม่สามารถทำให้มันหยุดได้ แต่หนูยังไม่ได้ติดอาการนี้กลับมาที่บ้าน กลับมาบ้านอาจจะมีปวดหัว นอยด์ ๆ นอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับเหมือนกัน แต่เราพยายามไม่กินบ่อย แต่ช่วงหลัง ๆ ชอบนอนหลับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
ทำไมถึงอินขนาดนี้ บท "พาไล" ไกลตัวหรือใกล้ตัวเราแค่ไหน?
มีทั้งใกล้ตัวและไกลตัวเลยค่ะ เรื่องใช้ชีวิตอาจจะค่อนข้างไกลตัว เพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตแบบพาไล แต่ด้วยความที่พาไลจะมีนิสัยกวนๆ หรือขี้แกล้ง ก็จะใกล้ตัวเราเข้ามาหน่อย แล้วพาไลจะมีปัญหาเรื่องครอบครัว จะเซนซิทีฟเรื่องพ่อ ซึ่งเราก็เซนซิทีฟเรื่องพ่อเหมือนกัน อย่างซีนวันนั้นที่เป็นลม ในเรื่องคุณพ่อเพิ่งเสีย แล้วมีปัญหากับที่บ้าน เป็นหนี้ร้อยล้าน แต่จริง ๆ เวลาเล่นละครเราไม่เคยคิดเรื่องอื่นที่จะมาทำให้ตัวเองร้องไห้เลยนะ จะคิดแต่ว่าเป็นตัวละครตัวนั้นอย่างเดียวเลย แต่ผู้จัดการก็บอกว่าอาจจะเป็นจิตใต้สำนึกของเธออะไรประมาณนี้
นอกจากเรื่องนี้ก็มี "ไฟรักเกมร้อน" ที่กำลังถ่ายทำอยู่ด้วย?
ใช่ค่ะ อีกเรื่องหนึ่ง เล่นกับ ธันวา สุริยจักร คนใกล้ตัวมาก (หัวเราะ) เรื่องนี้น่าจะยากกว่าเลื่อมสลับลายนะคะ เท่าที่อ่านบททั้งของพระเอกและนางเอกจะดราม่าหมดเลย ล่าสุดไปถ่ายมามี 10 ซีน แล้ว 9 ซีนคือร้องไห้ทั้งหมด ส่วนฉากรักกับพระเอกก็ยากอีก เพราะเลิฟซีนก็เยอะ ได้อ่านบทที่เขาเขียนมาก็ โอ้โห...ขนาดนี้เลยเหรอ มีอาบน้ำในอ่างด้วยกัน พระเอกรูดซิปให้ ซึ่งเราไม่เคยเจอ ในนิยายที่เราอ่านมา พระเอกก็ไม่ใช่ย่อย ไม่ได้เลิฟซีนแบบปกติทั่วไป เพราะชื่อเรื่อง ไฟรักเกมร้อน ก็คงต้องร้อนแรง (หัวเราะ) ส่วนที่ต้องเล่นเลิฟซีนกับธันวา เอาจริง ๆ เราไม่เขินที่ต้องเล่นกับเพื่อนนะ แต่คงเป็นอารมณ์แบบ เฮ้ย..เหรอ เพราะกับธันวาเราจะเป็นเพื่อนแนวแมน ๆ แต่เขาอาจจะถนัดเรื่องนี้ก็ได้นะ เพราะเขาก็มีความเลื้อยอยู่ในตัว ส่วนเราจะแพ้ฉากกุ๊กกิ๊กมาก ไม่ค่อยถนัด
วางแผนในวงการบันเทิงไว้ยังไงบ้าง ช่วงนี้หลายคนย้ายช่อง เรามีแอบคิดบ้างหรือเปล่า?
เราไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่ให้มีงานทำตลอด ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องแน่น ไม่ต้องดังเท่าคนอื่น แค่มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ก็แฮปปี้แล้ว ส่วนเรื่องสัญญากับทางช่อง 7 น่าจะหมดปี 2560 เลย อีกตั้ง 2 ปี ก็นานเหมือนกันนะ หนูว่าช่องเขาก็เอ็นดูเราตลอด หนูอยู่วงการมา 7-8 ปี เราไม่ได้ก้าวมาแล้วเป็นนางเอกเลย เราก็เหมือนค่อย ๆ เดินเข้ามา แล้วทางช่องก็ค่อย ๆ ผลักดันเรา จนเรามาถึงทุกวันนี้ได้ เราเลยไม่ได้คิดจะไปไหน ช่วงนี้อาจจะเป็นกระแส แต่เราไม่ได้คิดจะตามกระแสไปซะทุกอย่าง อยู่ที่ความสบายใจแต่ละคนมากกว่า ซึ่งตรงนี้เราก็สบายใจแล้ว
นอกจากละครตอนนี้ทำอะไรอีก?
แค่ถ่ายละครก็เอาพลังไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็ทุ่มเวลากับละครหมดเลย เพราะฉะนั้นเวลาว่างก็พยายามไม่ทำอะไรเยอะ ออกกำลังกาย อยู่คอนโด ไม่ค่อยออกไปไหนเลยช่วงนี้ เพราะเราต้องทำการบ้านด้วย อ่านบทเรื่องไฟรักเกมร้อน เรื่องนี้พี่หนึ่ง - ชัชวาล เป็นผู้กำกับ พอเจอกันเขาก็บอกว่าอ่านบทไปกี่ตอนแล้ว เราก็กลัวโดนบ่นเพราะยังไม่ได้อ่าน เห็นธันวาโดนบ่อย เลยไม่อยากจะโดน (ยิ้ม)
เป็นคนจริงจังกับงานมากเหมือนกันนะ?
เพิ่งมาจริงจังกับเรื่องเลื่อมสลับลาย เพราะว่าเป็นละครชีวิต และเป็นละครรีเมคด้วย บวกกับเป็นละครหลังข่าวเรื่องแรกของทางค่ายมงคลการละคร เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้ออกมาดี ไม่อยากให้คนพูดว่าไม่น่าเอาคนนี้มาเล่นเลย จริง ๆ เราอาจจะโตขึ้นด้วย เพราะทุกวันนี้เราใช้ชีวิตเอง ออกมาอยู่ข้างนอก ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ด้วย ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองเยอะขึ้น
ออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้เหงาไหม?
จริง ๆ ก็มีน้อง มีพี่ผู้จัดการ มีเพื่อน ที่อยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ เราไม่ได้ก้าวกระโดดมาใช้ชีวิตคนเดียวเหงา ๆ คือพอได้ออกมาอยู่คนเดียวก็ได้ทำอะไรเองบ้าง เพราะเมื่อก่อนไปกองถ่าย แม่ก็จะเตรียมของให้ แต่ทุกวันนี้เราต้องทำเองหมด รวมทั้งเรื่องอาหารการกิน ทุกวันนี้เราตื่นเช้ามาจัดโน่นนั่นนี่ ก็แฮปปี้ดีนะคะ ส่วนแม่เองก็สบายใจจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดกับลูก (หัวเราะ) คือเราอยู่กับแม่ตลอดเวลา ด้วยความที่อยู่กันเหมือนเพื่อน บางทีเล่นกันไปกันมาก็ทะเลาะกันจริง แกก็จะมีน้อยใจ แต่พอมีระยะห่างนิดหนึ่ง แรก ๆ เขาก็คิดถึงบอกไม่อยากให้อยู่คนเดียว แต่พอหลัง ๆ ถาม แม่ก็บอกว่า ฉันสบายใจดีนะ ฉันโอเค อยู่กับหมา ทำงานบ้าน แต่คือจริง ๆ เราก็เจอกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว เพราะคุณแม่ยังมีหน้าที่มารับเราจากคอนโดไปกองถ่าย จากกองถ่ายมาส่งที่คอนโด ส่วนเวลาเราทำงาน เขาจะมีมุมส่วนตัวของเขา นั่งถักผ้าโน่นนั่นนี่ไป
เรื่องหนุ่ม ๆ เป็นยังไงบ้าง?
(ถอนหายใจ) ที่ถอนหายใจคือไม่มี เหมือนเดิมค่ะ ทุกวันนี้ไม่ได้เจอใครเลย
มีคนมาจีบบ้างไหม?
เอาจริง ๆ ก็มีคนแนะนำมาว่าคนนี้ชอบนะ แต่เรารู้สึกว่ายังดีกว่า เป็นพี่เป็นน้องกันไปก่อน อย่าเพิ่งมายุ่งกับเราตอนนี้เลย อย่างคนนี้เป็นคนนอกวงการ แต่แซมคิดว่าไม่ใช่สไตล์เรา ก็ไม่ได้ตกลงคุยโน่นนั่นนี่ ก็จบไป ปิดจ๊อบไปค่ะ คือเวลาเราคุยกับใครสักคน เราจะมีเซนส์ว่ามันจะไปต่อได้ หรือไปคนละทาง แต่พี่ ๆ ในวงการที่เราสนิทจะไม่มีใครบอกให้เรารีบมีแฟนเลย แม้แต่พี่กอล์ฟ-อนุวัฒน์ เองก็บอกว่าให้เราตั้งใจทำงาน เก็บเงินไปก่อน
แล้วกับพี่กอล์ฟตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เวลาผ่านไปแค่ไหนก็ยังมีชื่ออยู่ในข่าวด้วยตลอด?
เขาถ่ายละครอยู่แต่ในป่า ส่วนเราตอนนี้ถ่ายละครในเมือง เวลาเลยไม่ตรงกันเลย จะได้เจอกันแค่แต่งหน้าทำผม แล้วก็ไปงานด้วยกัน ซึ่งมีน้อยมาก แค่ 1-2 งานเท่านั้นเอง ตอนนี้ต่างคนต่างทำงานเลย แม้แต่กับพี่ ๆ คนอื่น อย่างพี่เอมมี่-มรกต หรือพี่ไอซ์ - อภิษฎา ก็แทบจะไม่ค่อยเจอกัน แต่เราก็คงต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดแหละ เพราะว่ามีผู้จัดการคนเดียวกัน เวลามีอะไรเราก็ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ต่อให้เราไม่ได้คุยไม่ได้เจอกัน เพราะเราทั้ง 4 คน ทั้ง พี่ผู้จัดการ พี่เอมมี่ พี่ไอซ์ พี่กอล์ฟ เราซับพอร์ทซึ่งกันและกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อให้ไม่มีเวลาขนาดไหน แต่เวลาได้คุยกันก็คลิกได้ทันที ไม่ใช่แค่พี่กอล์ฟนะ แต่หมายถึงพี่เอมมี่ แล้วก็พี่ไอซ์ด้วย (ยิ้ม)
เป็นเพราะมีข่าวกับกอล์ฟทำให้หนุ่ม ๆ ไม่กล้าเข้ามาหรือเปล่า?
จริง ๆ เราพูดตลอดว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน เลยไม่รู้ว่ามีผลไหม เพราะก่อนที่จะมีข่าวกับพี่กอล์ฟ เราก็ไม่ได้มีใครเข้ามาอยู่แล้ว อาจจะเป็นที่ตัวเราเองที่หน้าตาไม่รับแขก เป็นคนปากคว่ำ แล้วเป็นคนไม่ได้เข้าหาคนเก่ง การจะเข้าไปคุยกับคนนั้นคนโน้นก่อนก็ไม่ใช่ทางเรา เราเลยไม่ใช่คนที่จะมีเพื่อนเยอะหรือมีคนเข้ามาเยอะ
แซมมี่มีคติการใช้ชีวิตไหม?
หนูเป็นคนไม่มีคติ หรือคำที่เขียนไว้เป็นประโยคว่าเราต้องเขียนว่าเป็นแบบนี้ ๆ เราแค่ทำงานเก็บเงินให้พ่อแม่ แค่นี้จบ เรารับผิดชอบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านทั้งหมด หนูหาเงินมาก็ให้แม่หมดเลยเป็นสิ่งที่เราภูมิใจที่สุดแล้ว เพราะทุกวันนี้ใช้เงินอาทิตย์ละสองพันบาท แต่ก็พอนะคะ ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้ไปซื้ออะไร เพราะอยู่ที่กองอาหารการกินก็พร้อม แต่หนูจะตัดเงินไว้ซื้อพวกธัญพืชที่ทาน ส่วนอยากได้อะไรก็จะต้องเก็บเงินจากสองพันบาทนั้นไปซื้ออีกที
สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?
อย่างแรกต้องขอบคุณเลยสำหรับคนที่ติดตามละครเรื่องนี้ เพราะเป็นละครรีเมค หลายคนอาจจะติดภาพเวอร์ชั่นเก่าที่ทำมาดีอยู่แล้ว ก็ขอบคุณที่เปิดใจ แล้วหลังจากนี้เราก็คงจะยังพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ ก็อยากจะขอให้ติดตามทุกบทบาท รวมไปถึงทุกผลงานที่เราจะทำต่อ ๆ ไปด้วยค่ะ