เผลอแป๊บเดียวก็ครบ 3 ปีแล้ว ที่นักร้องสาว "แป้งโกะ - จินตนัดดา ลัมะกานนท์" อยู่ในวงการเพลง มีผลงานเพราะ ๆ ให้เราฟังกันมากมาย แต่ใครจะคิดว่าสาวขี้อาย ไม่มั่นใจตัวเอง จะเปิดโอกาสตัวเองด้วยการลองเดินในเส้นทางสายการแสดงซะแล้ว ปัจจุบันแป้งขึ้นแท่นนางเอกน้องใหม่เต็มตัว กำลังจะมีละครเรื่องที่สองคือ "ตะวันตัดบูรพา" ของค่ายเอ็กเซ็กท์ที่จะออนแอร์วันที่ 17 ส.ค. นี้ ทางช่องวัน งานนี้ "ดาวต่างมุม" เลยนัดสาวแป้งมาพูดคุยถึงก้าวสำคัญในการรับงานแสดง รวมถึงความรักกับหวานใจ "ว่านไฉ - อคิร วงศ์เซ็ง" หรือ "ว่าน เอเอฟ 5" ที่เรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ลงตัว เป็นอย่างไรบ้างติดตามกันได้เลยค่า

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @wonderingpango (IG)

จุดเริ่มต้นในการเข้าวงการของแป้งล่ะ? 
เริ่มต้นมาจากเล่นมิวสิกวิดีโอเพลง "เบาเบา" ของวงซิงกูล่า แล้วก็คัฟเวอร์เพลงลงยูทูบ เพราะเราชอบร้องเพลง เล่นกีตาร์ ซึ่งคนจะรู้จักแป้งจากตรงนั้นเยอะ คนยังคัฟเวอร์ลงยูทูบไม่มากเลยเป็นโชคดีของเรา เพราะเพลงเบาเบาก็ดังทำให้คนรู้จักแป้ง ซึ่งแป้งไม่คิดว่าเราจะเข้ามาในวงการบันเทิงเลย คิดจะทำงานด้านกราฟิกที่เรียนจบมา กระทั่งทาง บีลีฟ เรคคอร์ด ติดต่อมาให้ทำเพลง จนตอนนี้ก้าวมาถึงจุดที่มีเพลงของตัวเอง ละคร หนังก็ดีใจมาก

ชื่อเล่น "แป้งโกะ" เป็นชื่อเล่นจริง ๆ หรือตั้งเอง? 
จริง ๆ ชื่อ "แป้งหอม" แต่ชื่อ "แป้งโกะ" มาจากสมัยแป้งเรียน ม.ปลายอยู่นิวซีแลนด์ ตั้งฉายาตัวเองเป็นยูสเซอร์เนมเขียนบล็อก เด็ก ๆ เพื่อนเคยเรียกไอ้โก๊ะ เลยใช้โกะเพราะดูน่ารักดีเวลารวมเป็น "แป้งโกะ" จนมาเข้าค่ายบีลีฟ เรคคอร์ด ก็คุยเรื่องชื่อกันว่าจะใช้ชื่อจริงหรือชื่อนี้ดี ที่ค่ายก็บอกไหน ๆ คนรู้จักเราจากชื่อนี้เลยใช้มาตลอดค่ะ (ยิ้ม)

สิ่งที่เป็นความฝันที่อยากทำจริง ๆ ของเราคืออะไร? 
แป้งชอบการร้องเพลงมากนะคะ แต่เราขี้อายเลยไม่ได้มั่นใจตัวเองขนาดจะมุ่งมั่นจะเดินตามฝันตรงนั้น แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบคือการวาดรูป ศิลปะ กราฟิกก็เป็นอีกความฝันของเรา พอเรียนมหาวิทยาลัยแป้งก็เรียนต่อด้านนี้ แต่เพลงยังชอบร้องอยู่ไปร้องคาราโอเกะแทน(หัวเราะ) จนไม่ได้คาดคิดว่าเราจะได้มาเป็นศิลปินจนปัจจุบันมีซิงเกิ้ลเพลงแรกชื่อ "โปสการ์ด" และ เพลง "เผื่อว่าเธอคิด" ค่ะ

 

 

พอถึงจุดเปลี่ยนได้เป็นศิลปินความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง? 
ตอนนั้นเพลงแป้งยังอยู่ในอัลบั้มรวมฮิตอยู่เลย แค่นั้นก็ตื่นเต้นมาก เพราะเราแต่งเพลงเอง เป็นอะไรที่ เฮ้ย! ฉันมาถึงตรงนี้ได้ยังไง ไม่ได้คาดหวังจะพาเรามาไกล พอมีผลงานก็ต้องเดินสายเจอสื่อ หรือไม่ร้องเพลงตามงานก็ยังไม่มั่นใจตัวเอง เพราะไม่เคยไปเรียนร้องเพลงมา เสียงดนตรีตามทฤษฎีแป้งจะไม่รู้เรื่องเลย แฟนคลับก็บอกสู้ ๆ แรก ๆ ก็เป็นแบบนี้ ทำให้เรามีแรงฮึดที่จะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

แต่ทุกครั้งในการทำงานเพลงแป้งจะมีส่วนร่วมเสมอ? 
ใช่ค่ะ ถึงไม่ใช่ทุกขั้นตอน แต่แป้งจะออกไอเดียว่าต้องการแนวไหน เพลงของเราเป็นอะคูสติกป๊อปเนื้อหามองโลกบวก แต่ซิงเกิ้ลล่าสุดที่ปล่อยคือเพลง "คำสาป" เป็นเพลงช้าเศร้า ๆ พูดถึงเวลามีความรักเหมือนโดนคำสาปให้รักกันแล้วมีความสุข แต่พอคนรักเราจะจากไปก็ช่วยสาปฉันต่อไปให้เรายังรักกันอยู่ได้มั้ยประมาณนั้น ไม่ค่อยมีคนเอาคำแบบนี้มาเปรียบเทียบ แล้วว่านไฉนี่แหละเป็นคนแต่งเนื้อให้ (ยิ้ม) ซึ่งเพลงช้าเราสามารถใส่ความหมายลงไปในคำหรือดนตรีได้มากกว่าด้วยค่ะ

เห็นว่าว่านไฉมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย? 
ใช่ค่ะ ครั้งนี้เป็นการร่วมงานกันเต็มตัวครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีซิงเกิ้ลที่ชื่อว่า "ปล่อย" ว่านทำเนื้อร้องทำนอง แต่โปรดิวเซอร์คือคนอื่น แต่เพลงนี้ให้ว่านทำทั้งเนื้อร้อง ทำนอง แล้วเป็นโปรดิว เซอร์เลย เขาขอค่ายเขาทำงานให้แป้งโดยตรง แล้วเวลาทำงานว่านจะรู้แป้งชอบฟังเพลงประมาณไหน เขาก็ไปแต่งเพลง "คำสาป" นี่แหละให้เรา ครั้งแรกที่เห็นเนื้อปุ๊บรู้สึกใช่มาก ชอบมากเลยค่ะ การทำงานโอเคมาก แต่ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียที่ได้เรียนรู้ความแตกต่างในบทบาทที่เราสองคนรับผิดชอบค่ะ

 

 

นอกจากบทบาทนักร้องก็มาทำงานสายการแสดง? 
ใช่ค่ะ หลังทำเพลงไปสักพักก็ได้รับการติดต่อจาก พี่แดน - วรเวช ให้มาเล่นหนัง "ฤดูที่ฉันเหงา" ตอนนั้นชั่งใจจะทำได้มั้ย สุดท้ายเราสนุกที่ได้แสดง จนมีละครติดต่อมาเราก็โอเค ซึ่งแรก ๆ คนคงงงเพราะไลฟ์สไตล์หรือความขี้อายของแป้งดูไม่น่าจะชอบการแสดง จนเราไปคุยกับทีมงานละคร "เคหาสน์ดาว" ค่ายเอ็กแซ็กท์ที่มี พี่ปุ๊ก - พันธรรม ที่ทำหนังมาก่อนการทำงานก็คล้าย ๆ เล่นหนัง ซึ่งคนก็ชมว่าสนุกและชอบ กระแสตอบรับดีเราก็ดีใจมากค่ะ

ละครเรื่องต่อไปคือ "ตะวันตัดบูรพา" คิดนานมั้ย ก่อนจะรับเพราะรีเมคด้วย? 
ไม่คิดนานเลยค่ะ พี่ป้อน-ณิพนธ์ เรียกไปคุยมีละครอีกเรื่องอยากให้เล่น บทดีมากเป็นโอกาสที่ดีของเรา แป้งรับบทเป็น "ธิชา" เป็นสาวจิตรกร มองโลกในแง่ดี แต่สิ่งที่ตัวละครเจอน่ะไกลตัวมาก เช่น การมีแฟนเป็นโจร (หัวเราะ) แป้งไม่เคยดูเวอร์ชั่นเก่า ไม่รู้แป้งพลาดไปได้ยังไงเพราะเราเป็นแฟนคลับพี่ติ๊ก - เจษฎาภรณ์ กับ พี่แท่ง - ศักดิ์สิทธิ์ เลยไปแอบดูนิด ๆ แต่แป้งไม่ดูเยอะเดี๋ยวไปติดภาพการแสดงเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งผู้กำกับคือ พี่โขม - ก้องเกียรติ การทำงานยังมีกลิ่นหนังอยู่ ภาพสวยมาก ถ่ายเรื่องนี้นานมากแต่คุ้มค่าที่จะรอชมเร็ว ๆ นี้ค่ะ

พระเอกคือ ป้อง - ณวัฒน์ และ สน - ยุกต์ เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก? 
ใช่ค่ะ พี่ป้องเคยเจอตอนถ่ายมิวสิกวิดีโอ พี่ป้องเล่นคู่กับน้องโม-มนชนก ส่วนแป้งจะคู่สน กับสนเราเคยเจอกันตามงาน วันนี้มาเล่นละครด้วยกัน ไม่เครียดหรือกดดัน พี่ ๆ น้อง ๆ เขาผ่านอะไรมาเยอะ ก็ช่วยเราเรื่องการแสดงได้มาก เราผ่านเรื่องแรกมาแล้ว เรื่องนี้อย่าเอามากดดัน ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดแค่นั้นพอ ทั้งพี่ป้องและสนก็ส่งอารมณ์ได้ดีแนะนำเราเยอะมากค่ะ

ถือว่าผู้ใหญ่ให้โอกาสเราในงานละครเยอะ? 
ใช่ค่ะ แป้งโชคดีมากที่ได้ทำงานหลากหลาย จะพยายามเป็นนักแสดงที่ดี ถึงเรายังใหม่ ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมาก เราเห็นข้อบกพร่องเวลากลับไปดูละครที่เราเล่น บางซีนน้อย แต่จะเล่นยังไงให้มีอะไร เราชอบโดนติงว่าเล่นเบาไป เพราะนิสัยของเราที่เป็นคนเฉย ๆ แต่การแสดงต้องเล่นใหญ่ ก็ได้ฝึกตัวเองนะ บางทีกลับบ้านไปก็ติดคาแรกเตอร์ใส่แม่นะ ไปทำท่าเล่นหูเล่นตากับแม่ด้วย (หัวเราะ)

 

 

สิ่งที่แป้งเรียนรู้จากการทำงานด้านการแสดงล่ะ? 
การแสดงช่วยแป้งเยอะ แต่ก่อนเราเงียบไม่ค่อยพูด แต่เดี๋ยวนี้คุยเก่ง เพราะเราเจอคนเยอะขึ้นแอ๊คทีฟขึ้น ไม่รู้ทำไมเมื่อก่อนเราต้องนิ่งเงียบขนาดนั้น คนในวงการมีเยอะเขาไม่เลือกเราเล่นละครก็ได้ แต่ผู้ใหญ่เลือกเราก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ แป้งคิดว่าเรารับละครในจังหวะที่เหมาะสม ถ้าเด็กกว่านี้อาจคิดว่าทำไม่ได้ วันนี้รู้แล้วอย่าตั้งแง่ชีวิตมากไป ต้องเปิดโอกาสตัวเองให้เจอสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตค่ะ

ตัวตน นิสัยของแป้งเป็นยังไง? 
คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงมาค่อนข้างหวง แต่ปล่อยเราคิดตัดสินใจเอง ถ้ามีปัญหาจริง ๆ จะให้คำปรึกษาที่ดี แต่จะไม่บอกต้องทำยังไง ให้คิดเองก่อน เราเลยเป็นคนที่มีมุมในแบบตัวเอง และไว้ใจเรา เป็นคนที่แสดงออกเหมือนที่เห็นในไอจี คนไม่รู้จักจะมองแป้งอินดี้จัง แต่เราธรรมดา ๆ เลย คนจะชอบดูรูปที่เราถ่ายในไอจี ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ไม่ใช่มีแต่รูปภาพหน้าตัวเอง ได้ถ่ายทอดอีกด้านที่เราเห็นผ่านกล้อง แป้งเลยชอบลงภาพที่เราไปเที่ยวแล้วเจอมา ซึ่งการใช้โซเชียลแบบนี้ก็เป็นทางที่โอเคนะคะ

บางคนบอกแป้งเหมือนเข้าถึงยาก เพราะมีความเป็นอาร์ติสต์สูง? 
ใช่แป้งได้ยินมาเหมือนกัน อย่างที่บอกเพราะเราขี้อาย (ยิ้ม) เราเป็นคนเฉย ๆ ไม่หวือหวา ระวังตัว และพูดน้อย คนก็มองแบบนั้น แต่เดี๋ยวนี้เราโตขึ้น เจอคนเยอะขึ้น ก็ไม่ค่อยเงียบแล้วสนุกสนานลั้ลลาติงต๊องด้วย แต่ก่อนมองวงการบันเทิงต้องอยู่ยาก แต่สุดท้ายก็รู้ว่าเราเลือกจะเป็นยังไง เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องเหนื่อยหรือพยายามเพื่อเป็นคนอื่นค่ะ

แพลนต่อ ๆ ไปในอนาคตของแป้งล่ะ? 
ทำงานทั้งเพลงและการแสดงควบคู่กันไปให้ดีทั้งสองอย่าง แม้จะเน้นเรื่องเพลงเป็นหลักเพราะเป็นสิ่งที่รักมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่งานละครคือสิ่งใหม่ที่เข้ามาก็ไม่ทิ้ง อยากลองเล่นทุกบทบาท ซึ่งแป้งอยากเล่นเป็นนางร้าย ต้องสนุกแน่นอนเลย ถ้าชีวิตจริงไม่มีโอกาสมาร้ายเหมือนในละครก็น่าลองนะคะ (ยิ้ม)

 

 

งานก็ลงตัว ความรักก็แฮปปี้? 
ความรักกับว่านถือว่าแฮปปี้ดีค่ะ ปีนี้แป้งอายุ 29 ปี ว่านอายุน้อยกว่าแป้ง 3 ปี แต่ไม่มีปัญหาเลย เราทั้งคู่ยังใช้ชีวิตสบาย ๆ สนุก ๆ ดูหนังฟังเพลง หรือถ้าว่างก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศแล้วแต่โอกาส ล่าสุดเพิ่งไปลุยยุโรปแบ๊กแพ็กกันมา มีคุย ๆ กับพี่ก้อง - ทรงกลด บางยี่ขัน ว่าแป้งอาจจะเขียนหนังสือ เราเลยถือโอกาสไปเที่ยวและถ่ายรูปกันมาในทริปนั้นกับว่านค่ะ

ปีนี้แป้งคบว่านมา 7 ปีแล้ว กลัวอาถรรพณ์เหมือนคนอื่น ๆ มั้ย? 
ไม่กลัวอาถรรพณ์อะไร รู้สึกว่าเราคบกันทำวันนี้ให้ดีที่สุด ยิ่งไปโฟกัสอาถรรพณ์ยิ่งทำให้เราไปจับผิดเขาหรือเปล่า สุดท้ายจากไม่มีปัญหา ก็กลายเป็นมีปัญหาได้ เราไม่ใช่คนขี้น้อยใจ กุ๊กกิ๊ก ว่านก็ไม่ใช่คนแบบนั้นเลยเข้าใจกัน เราคบกันมานานเหมือนโตมาพร้อม ๆ กัน ทุก ๆ วันก็เป็นวันพิเศษของเราสองคนหมด ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้ เพราะไลฟ์สไตล์เราสองคนเหมือนกันเลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไรค่ะ (ยิ้ม)

จริง ๆ แป้งกับว่านเจอกันยังไง? 
เราเจอกันตั้งแต่ว่านยังไม่เข้ามหา วิทยาลัย ไม่รู้เขาเอาเบอร์แป้งมาจากไหนก็โทรฯมาคุย ตอนนั้นเขาเพิ่งเป็นศิลปินเอเอฟ แอบคิดนะดังแล้วมาหลอกจีบเราหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็ผ่านมาจนปัจจุบัน ว่านยังสม่ำเสมอ ไม่ได้คบกันแบบคู่รัก แต่พื้นฐานเป็นเพื่อน มีพื้นที่ให้กันและกันหายใจ แต่ก็ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบนะ เพราะเราก็เคยเลิกกันเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งได้ถอยหลังไปทบทวนกันจนรู้ข้อดีข้อเสียปรับกันจนเข้าใจกันดีขึ้นค่ะ

 

 

มองอนาคตเรื่องแต่งงานหรือยัง? 
เอาจริง ๆ ไม่คิดในหัวเลยค่ะ แป้งยังนึกภาพตัวเองแต่งงานไม่ออก หลายคนเริ่มถามเรื่องแต่งงาน เพื่อนบางคนมีลูกไปแล้ว แต่เรารู้สึกยังไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตใครได้แบบนั้น แป้งยังมีความสุขกับการทำงาน เที่ยวกับเพื่อนหรือว่าน ยังไม่พร้อมเจอใครตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งว่านก็เป็นคนแบบนั้น อย่าไปคาดหวัง มองไกลเกินไป ถ้าพร้อมก็คงมีข่าวดีเองค่ะ

การเป็นคนในวงการทั้งคู่ต้องระวังอะไรมั้ย? 
ปกติเลยค่ะ ถ้าไม่มีใครถามก็ไม่พูดอะไรว่าใครเป็นแฟนเรา หรือถ้าถูกถามเรื่องความรักแป้งไม่ปิดบัง เพราะคบกันต้องให้เกียรติกัน แต่เราจะไม่ชอบพูดเรื่องความสัมพันธ์เรามากมายจนดูเหมือนพรีเซ้นต์ เรื่อย ๆ เงียบ ๆ แบบนี้ก็โอเคแล้วค่ะ

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานเรามาโดยตลอดบ้าง? 
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามแป้ง หลายคนโตมาพร้อม ๆ กับเรา จนตอนนี้เรียนจบหมดแล้ว ดีใจที่หลายคนยังอยู่ เริ่มมีป้ายไฟกับเขาบ้างแล้ว (หัวเราะ) แป้งชอบแฟนคลับตัวเองนะ เราเหมือนเพื่อนกันมากกว่า สนิทแบบที่สามารถไปกินข้าวได้เลย หลัง ๆ มีแฟนคลับจากละครมาฟังเพลงเราด้วย ก็มีความสุขค่ะ เราโชคดีจริง ๆ ที่มีคนมารักเราได้ขนาดนี้ ขอบคุณและเป็นกำลังใจกันไปนาน ๆ ด้วยนะคะ