โลดแล่นอยู่ในวงการมานาน ตอนนี้ โดนัท - มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ขอเพลางานเบื้องหน้า ผันตัวมานั่งแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัวทั้งกำกับหนัง "เลิฟซัค รักอักเสบ" (Love Sucks) และละคร "เดือนประดับดาว" ซึ่งทั้งสองโปรเจคท์นี้โดนัททุ่มเทมาก แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ย่อมมีปัญหาและอุปสรรคเป็นธรรมดา เธอจะก้าวข้ามผ่านมันไปได้หรือไม่ "ดาวต่างมุม" จะพาไปรู้จักอีกมุมของเธอคนนี้กัน
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @manatsanun_p (IG)
ที่หันมาทำงานเบื้องหลังเพราะอะไร?
มันเป็นสิ่งที่ชอบและโดเรียนมา โดไม่เคยคิดภาพตัวเองเป็นไดเร็กเตอร์ แต่โดสนุกที่ได้ทำ เข้าใจว่าตัวเองคงเป็นนักแสดงไปโดยตลอด แต่พอวันหนึ่งที่ได้มาเริ่มทำมันนึกถึงไปตลอด มันชอบ แล้วยิ่งวันนี้มันชัดมาก ดูมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเหลือเกิน แม้มันจะเหนื่อยยากเหลือเกิน เหนื่อยกว่าเป็นนักแสดงค่ะ แต่สนุก ทุกวันนี้แฮปปี้มาก โดยังมานั่งพูดอยู่เลยว่า โห รายได้หนังต่อวัน โดทำงานวันเดียวก็ได้แล้ว แต่ว่าทุกวันนี้พอขายตั๋วได้ใบเดียวเราก็แฮปปี้แล้วอ่ะ มันพิเศษมากจริง ๆ เป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ มันคือสิ่งที่เป็นตัวเราจริง ๆ
เหมือนค้นหาตัวเองเจอแล้ว?
อะไรอย่างนั้นเลย แต่เราก็เพิ่งเริ่มต้นเนอะ ความเก่งความเข้าใจ เราอาจจะยังไม่ได้มีสูงเท่ากับคนอื่น แต่เราทำได้ขนาดนี้ สำหรับโด โดว่าโอเคมาก ๆ เลยนะ แฮปปี้กว่าตอนเป็นนักแสดง คือโดได้เลือกจริง ๆ อาจจะเพราะส่วนหนึ่งโดเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ถ้าใครจะบอกว่าโดเป็นอาร์ติสต์ โดว่าเมื่อก่อนโดยากกว่านี้อีก โลกส่วนตัวของโดใหญ่กว่านี้มาก แต่ทุกวันนี้โดว่าโดดีขึ้น โดเจอแล้วว่านี่เป็นเรา โดมองว่าโดยังใหม่มากนะสำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าโดจะผ่านงานมาเยอะแล้วก็ตาม มันเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ต้องใช้จิตวิทยา โดก็จะเปรียบเทียบกับตัวเองนะ โดก็ต้องเข้าใจว่าทุกคนมีความเป็นตัวตนของตัวเองสูงมาก เราก็ต้องให้พื้นที่กับเขา ขณะเดียวกันเราก็ต้องการพื้นที่ที่แยกจากเขาเหมือนกัน โดก็จะไม่ใช่ประเภทที่ว่าไปใช้เวลาอยู่ด้วยตลอดเวลา สนิทในการทำงาน เรื่องส่วนตัวเราก็แยกไม่เข้าไปยุ่ง เวลามันมีปัญหาโดก็ต้องใจเย็นและรู้ว่าเวลาไหนเราต้องแข็ง
อุปสรรคและปัญหาในการทำงานตอนนี้คืออะไร?
ถ้าเป็นเรื่องของละครนะ คือ มันยาว การเตรียมงานทั้งหมดให้ได้ 24 ตอน มันยากมาก อย่างที่เป็นข่าวว่าทีมงานออกหมด มันก็ไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้น เขาก็ออกบางส่วน เอาจริง ๆ โดว่าเขาออกก็ดี ในเมื่อเรามองปลายทางไม่เหมือนกัน มันยากนะที่จะทำงานด้วยกันได้ พอเรามาเป็นตรงนี้ โดไม่เอาคำว่า "ผู้จัด" มาเป็นคำสำคัญของโด โดยังมองว่า โดต้องทำงานให้มันดี และสุดท้ายสิ่งที่โดต้องรับผิดชอบมันใหญ่มาก ในความใจเย็น ใจดีที่โดมี บางครั้งโดก็ต้องมีความดุ โดก็ต้องมีความเอาแต่ใจตัวเองบ้างว่า โดจะเอาอันนี้ เพื่อให้ไปถึงทาง ขณะเดียวกันเราทำงานกับคนเยอะ เราต้องมีจรรยาบรรณสูงมาก เราต้องเคารพคนที่ทำงานกับเรา และเขาก็ต้องเคารพเราด้วย โดก็ไม่ใช่คนที่แบบจะเอาคนอื่นมาด่า คือถ้าทำงานด้วยกันไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ
เวลาที่ทำงานแล้วไม่ได้ดั่งใจทำยังไง?
มีหลายแบบ ตอนทำหนังนี่ร้องไห้เลย ทำไมไม่เชื่อกันสักที ทำไมไม่ฟัง แต่เราก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ ว่าเราต้องจัดการยังไง ถึงโดโตมากับละครก็จริง มันใหญ่ มันยาก มันเหนื่อย แต่โดเปิดใจนะ ต้องแคร์คนดู เพราะโดทำงานให้ช่อง แต่ตอนทำหนังนี่อิสระมหาศาล เพราะโดไม่มีสตูดิโอด้วย มันต่างกันเยอะมาก แต่ทำได้ก็จะลองทำดู แต่ก็มันเหนื่อยคน โดไม่ใช่คนจุกจิก ทำงานไม่ได้คือทำงานกันไม่ได้ โดไม่เอามาพูดต่อว่าทำไม่ได้เพราะอะไร ที่โดพูดถึงเรื่องจรรยาบรรณ โดไม่เอามาบอกว่าเธอนิสัยไม่ดี มันคือคนทำงานกันคนละแบบ แล้วมันจบที่งาน
ด้วยความที่เป็นมือใหม่แล้วก็อายุยังน้อย มีความยากในการบริหารคนไหม?
โดต้องใจเย็นมาก แล้วโดเป็นแบบคิดเร็วพูดเร็ว แต่โดจะบอกทีมว่า โดไม่มีอะไรนะ แล้ววัน ๆ หนึ่งโดคุยกับคนเยอะมาก แล้วบางทีคิดอะไรไม่ทัน คิดแล้วต้องพูดเลย โดว่าโดให้ความเป็นเพื่อนสูง โดชอบทำงานแล้วแชร์ ให้ทีมงานทุกคนโอเคในการทำงาน ไม่ได้สั่งทุกเรื่อง เพราะเรารู้สึกว่าจ้างมาแล้ว เราเคารพนะ ที่เราเลือกมาแล้ว เราเชื่อว่าเขาทำงานให้เราได้ โดเชื่อใจทีมนะ กับคนที่เราเชื่อใจได้ โดให้ไปเลย
พอมาทำเบื้องหลัง แล้วเบื้องหน้าล่ะ?
ปีนี้ปฏิเสธไปหลายเรื่องเหมือนกัน แปลกมากยิ่งแก่คนยิ่งชอบ ปีนี้อาจจะไม่ได้รับเลย อาจจะสิ้นปีเลย คงว่ากันอีกทีเลยตอนปีหน้า โดไม่เคยกลัวเลยนะเรื่องตกกระป๋อง เพราะบทที่โดเล่น ไม่มีใครกล้าเล่น โดว่าคู่แข่งน้อย และเชื่อว่าเรายังทำได้อีกหลายปี แต่ก็ต้องลองดูก่อนว่างานเบื้องหลังจะเป็นยังไง
ที่ทำเบื้องหลังเพราะวางรากฐานไว้สำหรับวันหนึ่งที่เฟดตัวจากเบื้องหน้าหรือเปล่า?
ไม่เลย ทำเพราะชอบ ไม่เคยกังวลเลย จริง ๆ แล้วตอนนี้คนอยากให้ทำเบื้องหน้าเยอะมาก แต่โดบอกว่าเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวค่อยทำ แค่รู้สึกว่าเราไม่สนุกแล้ว คือเราเบื่อชีวิตในสปอตไลต์เท่านั้นเอง มันอยู่นานแล้ว และเห็นการเปลี่ยนแปลงของวงการหลายรอบนะ ทุกวันนี้โดไม่ได้เกลียดมันนะ และโดคิดว่าโดไม่มีทางเป็นคนแบบนี้ได้ ถ้าโดไม่โตในวงการ โดโอเคมากที่โดเป็นคนแบบนี้อยู่ในวงการ ไม่ได้แอนตี้ แต่แค่วันหนึ่งอยากเป็นเรา แต่โดแฮปปี้นะที่คนรัก เอ็นดู ชอบ ทุกวันนี้หนังเพิ่งเข้า โดก็ไปเซอร์ไพร้ส์คนดูบ้าง ไปขายตั๋วเองบ้าง ซึ่งบางคนเขาไม่ได้อยากมาดูหนังเราหรอก แต่เขาอยากเจอเรา มันแฮปปี้นะ เรารู้สึกว่าคนรัก อย่างวันฉายรอบพรีเมียร์ คนมาเยอะมาก เราคงไม่ได้เป็นแบบนี้ถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง
ทำหนังมันเสี่ยงนะ แต่ทำไมกล้า?
เสี่ยงมากค่ะ แต่โดเป็นคนประสาท พอนึกจะทำก็ทำเลย จริง ๆ พูดมาตลอด แต่ไม่ได้ทำสักที จนวันหนึ่งมันต้องทำแล้วอ่ะ ไม่ทำตอนนี้จะไปทำตอนไหน แค่นั้นเอง คิดจะทำก็ทำ โดไม่เคยคิดถึงเรื่องรายได้เลย จนเมื่อหนังเข้าจริง ๆ แล้วเห็นตัวเลขแล้วขำกับตัวเองว่า เฮ้ย มันยากจริง ๆ การเป็นคนเบื้องหลังโดว่าโดมีความสุขนะ โดได้เจอคนไม่เหมือนกัน ได้เจอคนที่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอ มันดีนะ มันทำให้โดโตขึ้นมาก ๆ เมื่อเทียบกับอายุจริง ๆ
มองโปรเจคท์ใหม่อะไรไว้บ้าง?
ตอนนี้ละครไม่แน่ใจว่าจะทำไหวอยู่หรือเปล่า ก็จะลองทำดู แต่เรารู้ตัวว่าสิ่งที่เราเป็นมันเป็นยังไง เรื่องแรกที่จะทำนี่ก็จะทำให้ดีที่สุด ตอนแรกว่าจะรับละครซ้อนไปด้วย แต่ดูทรงแล้วไม่น่ารอด ส่วนหนังตอนนี้ก็เริ่มเขียนเรื่องที่จะทำต่อ ดูเรื่องทุน ตอนนี้ก็ต้องเคลียร์ถ้าหนังออกจากโรงก็ต้องไปวางแผนต่อว่าจะยังไง จะต้องขายมันต่อไหม แล้วก็ดูข้อผิดพลาด
มัวแต่ยุ่งกับงาน ชีวิตส่วนตัวเป็นไงบ้าง?
ไม่มีเลย แต่แฮปปี้ รู้สึกว่าช่วงนี้ใคร ๆ ก็รัก เอ็นดู พ่อแม่เข้าใจมาก ไม่เคยเห็นพ่อแม่เข้าใจมากเท่านี้มาก่อน เรารู้สึกว่า เออ พอแล้วล่ะ โดไม่ได้นึกถึงความรักแบบผู้หญิงผู้ชาย เพราะว่าโดมีครบหมดแล้ว โดมีครอบครัวที่สนับสนุนมากในเรื่องการใช้ชีวิตในสิ่งที่โดเป็น เรื่องความรักมันไม่ได้คิด เจอคนดีก็คุย เออ น่ารักจัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกว่านี้ ถ้ามันใช่ก็คงเกิดขึ้นเอง แล้วมันทำงานตลอดเวลาเลย แต่ก็ไม่ได้ปิด ถ้ามันมีมันมาเองแหละ ก็มีคนเข้ามานะ แต่มันยังไม่เจอ
คน ๆ นั้นที่ต้องการต้องเป็นแบบไหน?
ไม่มีสเปกตายตัว เป็นอะไรก็ได้ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ชีวิตคู่ความรักอย่างเดียวมันไม่พอ ความอดทนมันต้องสูงมาก ตอนนี้ไม่เหงาเลย แฮปปี้เลย คนเรามันโตขึ้นทุกวันไง มันก็คงเรียนรู้จากสิ่งที่เราเคยเจอมาก โดว่ายิ่งโตเรายิ่งชิล ถ้ามีมันก็คงดี แต่ไม่มีก็ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราขาด ไม่ได้แบบเหงา ถ้ามีคนเข้ามาก็คุย แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันว่ามันเวิร์กไหม ไม่กลัวขึ้นคาน เพราะเลยมานานแล้ว โดว่ามันเป็นธรรมชาติผู้หญิงผู้ชาย ถ้ามันมีมันก็มี
เป้าหมายตอนนี้ของชีวิตคืออะไร?
ทำงาน โดก็มีสิ่งที่โดอยากได้ในชีวิต ครอบครัวก็คงอยากมีแต่เดี๋ยวมันก็มาเอง โดอยากมีออฟฟิศ อยากสร้างความมั่นคงให้ตัวเองได้ พ่อแม่จะได้ไม่กังวล โดก็จะไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ ก็แพลนว่าจะทำงานให้หนักเลย แล้วก็จะหยุดสัก 2-3 เดือน แล้วกลับมาทำงานใหม่ กลับมาทำหนัง แต่เรื่องแสดงนี่ยังไม่ได้คิด ไม่รู้จะเล่นได้หรือเปล่า เหมือนสมาธิเราไม่ได้โฟกัสตรงนั้นแล้ว
อยากฝากอะไรถึงคนที่ติดตามโดมาตลอดบ้าง?
อยากจะขอบคุณทุกคนมาก ๆ รู้สึกว่าตอนนี้เป็นที่รัก แต่คนที่ไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เราฝากทั้งหมดที่เป็นงานของเรา และก็คนที่อยากดูโดเล่นอะไรนั้น ก็รอแป๊บนึง ขอเวลาโดหน่อยเดี๋ยวคงกลับมา เพราะตอนนี้มันโฟกัสไม่ได้จริง ๆ ขอบคุณจริง ๆ เพราะว่าโดอยู่มาถึงวันนี้ได้ก็เพราะพี่ ๆ นักข่าว เพราะทุก ๆ คน ไม่งั้นโดคงไม่ได้อยู่อย่างนี้ก็ได้ ขอบคุณมากค่ะ