เข้าฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ "แคท อ่ะ แว้บ!" ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 9 ของนางเอกสาว ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่เจ้าตัวออกปากว่าคาแรกเตอร์ น่ารัก แสนซน ของเมโย ตรงกับชีวิตจริงเธอไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้หลายคนจะมองว่าเธอกำลังโตเป็นสาวสะพรั่งก็ตาม "ดาวต่างมุม" สัปดาห์นี้เลยต้องขอนัดสาวใบเฟิร์น มาพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต รวมไปถึงเรื่องหัวใจที่ยังไม่มีใครเข้ามาดูแลเสียที

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส

ก่อนอื่นพูดถึงผลงาน "แคท อ่ะ แว้บ!" หน่อย ?
"เฟิร์นรับบทเป็น "เมโย" ค่ะ เป็นนักศึกษาฝึกงาน บุคลิกจะโก๊ะ ๆ หน่อย เป็นสาวมโนช่างฝัน แอบชอบพี่ฝึกงาน แล้วในเรื่องก็จะมีจังหวะน่ารัก ๆ ที่เราเป็นน้องใหม่ เวลาโดนแกล้งแล้วจะแกล้งกลับไม่ได้ เราก็จะมีวิธีเอาคืนในแบบของเรา ตอนอ่านบทรอบแรกนี่ คิดว่าอยากเล่นเลยนะ เฟิร์นว่าบทน่ารักมาก พอย้อนกลับไปดูรู้สึกว่า เฮ้ย...ใกล้ตัวเรามากเหมือนเกือบจะมองตัวเองด้วยซ้ำ เพราะเป็นช่วงอายุเท่า ๆ กัน กำลังจะเรียนจบเหมือนกัน แล้วในชีวิตจริงเฟิร์นก็เป็นคนกวน ๆ ซน ๆ ด้วย กับพี่ เป้ - อารักษ์ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการร่วมงานกันครั้งแรก ปกติเราจะเจอกันตามงานอีเวนต์มากกว่า เราคิดว่าพี่เขาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์อาจจะนิ่ง ๆ ติสท์ ๆ แต่จริง ๆ เขาก็กวนนะคะ (หัวเราะ)"

ร่วมงานกับแมว ที่เขาบอกว่า "สัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง" นี่ยากไหม?
"เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยกล้องสองตัว เฟิร์นคิดว่าเราต้องถ่ายทำเร็วแน่นอน แล้วพี่ ๆ ที่ร่วมงานด้วย พี่เท่ง พี่โหน่ง ก็เก่ง ๆ ทั้งนั้น แต่สุดท้ายคือกล้องทั้งสองตัวไม่ได้จับภาพเฟิร์นกับพี่เป้เลย รอแมวอย่างเดียว เห็นแค่เอวเราสองคน คือบางทีเขาไม่ยอมทำตาม เจ้าของยังโดนข่วนโชว์ในกองเลย แล้วเฟิร์นต้องเข้าฉากกับแมวเยอะมาก เหมือนเข้าฉากกับพระเอกเลยค่ะ เพราะในเรื่องเราต้องดูแลแมวให้เขา เอาแมวมาแคสติ้งเป็นสิบ ๆ สายพันธุ์เพื่อเป็นพระเอกหนังโฆษณาเรื่องหนึ่งจริง ๆเฟิร์นเป็นคนชอบแมวนะคะ เดี๋ยวนี้กลายเป็นกลัว เพราะพอเขาผิดที่ผิดทางก็จะขู่ตลอด บางตัวเป็นแมวสฟิงซ์หนังกลับหน้าโหด ๆ เฟิร์นนี่อยากจะยกมือไหว้ตลอดเวลาเลย แล้วพี่เป้ในเรื่องเขาก็สั่งเราได้ไง ก็จะคอยแกล้ง บอกเมโย ไหนให้แมวเต้นซิ ให้แมวฟันดาบซิ แต่คือตัวเรานี่มือสั่นไปหมด ส่วนพี่เป้-นฤบดี ผู้กำกับก็สนุกใหญ่ ปล่อยให้นอกบทยาวเลยค่ะ"

ใบเฟิร์นคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน?
"จริง ๆ เฟิร์นเป็นคนที่ไม่ค่อยคาดหวังกับเรื่องรายได้ เพราะมันเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยมาก อย่างสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก เราก็ไม่ได้คาดหวัง แต่พอมันออกมาดีเราก็ดีใจ ส่วนใหญ่เฟิร์นจะทำในกองให้มันดีมากกว่า คนจะดูเยอะ ดูน้อย เราจะได้ไม่มาเสียใจทีหลังว่าเราไม่ตั้งใจทำฉากนั้น ฉากนี้ ให้ดี ตอนนี้หนังก็เข้าฉายเรียบร้อยแล้ว เฟิร์นคิดว่าคนดูน่าจะชอบนะคะ ยังไงเฟิร์นก็ฝาก "แคท อ่ะ แว้บ!" ด้วย เฟิร์นว่ามันเป็นหนังน่ารัก ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ตลกซ้ำกับเรื่องอื่น ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวล้อเลียนวงการโฆษณา คนก็คงจะอยากเห็นว่า ผู้กำกับโฆษณา เขาทำอะไรบ้าง ผู้ช่วยผู้กำกับ ตากล้อง ที่ตะโกนเสียงดัง ๆ แต่มาถ่ายทอดโดยพี่เท่ง พี่โหน่ง คนก็จะเข้าถึงงาน"

แล้วนอกจากหนังเรื่องนี้แล้วมีผลงานอะไรอีก?
"มีหนังอีกเรื่องค่ะ "2538 อัลเทอร์มาจีบ" แล้วตอนนี้ก็ถ่ายนิตยสารต่าง ๆ มีผลิตภัณฑ์ครีม "อินสไปร์ ยู" ฟีดแบ็กผลิตภัณฑ์ครีมของเฟิร์นนี่ดีมากเลยนะคะ เราลงแต่ในอินสตาแกรมตัวเอง ไม่ได้ซื้อสื่อลงที่ไหนเลย ก็ขายดี ขายได้เรื่อย ๆ เลย ที่เฟิร์นทำออกมาก็จะมี 3 ตัว มีครีมเจลลี่ มาร์ค แล้วก็โฟมล้างหน้า เร็ว ๆ นี้ก็จะมีถ่ายโฆษณาใหม่ เซ็กซี่มากเลยนะ จะนอนในอ่างสีฟ้าเป็นเจลลี่ แล้วก็เปลือยให้น้ำขึ้นมาครึ่งหน้า อยากให้ทุกคนรอดูค่ะ"

แล้วงานละครเป็นอย่างไรบ้าง หายไปนานเหมือนกัน?
"งานละครมีแน่นอนค่ะ คุยไว้แล้วว่าหลังจากเฟิร์นทำทีสิสจบจะรับละคร แต่เดี๋ยวค่อยบอกว่าเรื่องอะไรเนอะ สัญญากับทางช่อง 7 ก็เหลืออีกเป็นปีเลยค่ะ ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้เรียกคุยอะไร ถามว่าจะต่อไหมจริง ๆ เรื่องต่อสัญญาเฟิร์นไม่รู้ว่าเราอยู่กับช่องดีกว่าไหม หรือเป็นนักแสดงอิสระดีกว่า เรื่องการตัดสินใจเฟิร์นให้เป็นหน้าที่ของพี่เกล้า ผู้จัดการเฟิร์นเลย แต่เฟิร์นว่าทุกวันนี้เราก็โอเคนะคะ ได้เรียน ได้เล่นละคร ได้เล่นหนัง ได้ถ่ายโน่นนี่นั่น ทำครบทุกอย่าง"

แล้วงานโกอินเตอร์ล่ะ แฟนคลับยังเหนียวแน่น?
"ตอนนี้เฟิร์นยังมีสัญญากับแบรนด์เสื้อผ้ากับทางฟิลิปปินส์อยู่นะคะ แต่เฟิร์นไม่แน่ใจว่าจะได้ต่อสัญญาไหม ส่วนงานอื่น ๆ ก็ต้องรอดูค่ะ มีติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ภาษาอังกฤษของเฟิร์นแย่ พอสื่อสารไม่ได้ ก็ลำบากในหลาย ๆ เรื่อง นอกจากนี้ยังติดปัญหาเรื่องเวลาด้วย แต่หลังจากเรียนจบแล้วอะไร ๆ น่าจะลงตัวขึ้น ส่วนแฟนคลับก็ยังเหนียวแน่น ตอนนี้ในเว็บ เว่ยป๋อ (http://www.weibo.com/baifernbah) ยอดติดตามทะลุ 5 ล้านแล้วค่ะ เฟิร์นรู้สึกโชคดีที่มีแฟนคลับที่สนิทคอยช่วยกันตอบ เพราะเราไม่รู้ภาษาจีน ส่วนแฟนคลับที่ฟิลิปปินส์ ก็น่ารักค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าพอไปถึงสนามบิน แฟนคลับวิ่งตามตั้งแต่สนามบินมาเลย ตอนนั้นตกใจมากค่ะ คิดว่าเขามารับเราจริง ๆ เหรอ เหมือนในหนังที่เราดูเลย เหมือนฝันมาก เหมือนเวลานักร้องเกาหลีที่มาไทย เราไม่ชินกับแฟนคลับที่มากขนาดนี้"

ถามถึงเรื่องเรียนบ้าง เห็นว่าใกล้จบแล้ว?
"นี่ก็เพิ่งสอบทีสิสจบไปค่ะ เฟิร์นต้องอยู่บนเวทีสองชั่วโมง แล้วไม่มีคัทเหมือนตอนเราถ่ายหนัง หรือละคร ก็ต้องซ้อมเยอะ ท่องบทเยอะ ถือเป็นละครเวทีเต็ม ๆของเฟิร์นครั้งแรก อย่างปีที่แล้วเราแค่ขอไปแจม ๆ ขึ้นไปพูดแค่ 2 ประโยคก็ลงมาแล้ว จริง ๆ เฟิร์นชอบศาสตร์ละครเวทีนะคะ แต่ติดที่ร้องเพลงไม่ได้นี่แหละ อีกอย่างเวลาเฟิร์นเล่นละครเวทีแล้ว เราจะติดเล่นใหญ่ พอมาเล่นหนังเราก็จะเล่นใหญ่ ก็จะโดนแซวว่าเฟิร์นเล่นใหญ่มากเลย ทำไมต้องดีใจขนาดนั้น"

หลังเรียนจบแพลนชีวิตไว้อย่างไรบ้าง?
"อยากเรียนต่อค่ะ อยากไปเรียนเมืองนอก แต่ภาษาอังกฤษตัวเองแย่มาก คือเราอยากลองไปใช้ชีวิตแบบอื่นดูด้วย อยากเห็นอะไรมากกว่าที่เราเคยเห็น จะได้คิดอย่างอื่นได้บ้าง เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ก็โอเคนะคะ เขาก็อยากให้ไป แต่เราคิดว่าถ้าเราไปเลย ตอนนี้กลับมาแล้วจะไม่มีงานทำ เลยทำงานเก็บตังค์ก่อนค่ะ ส่วนคณะที่จะเรียนเฟิร์นคิดไว้สองแบบว่า จะเรียนเกี่ยวกับการแสดงให้ยิ่งยวดไปเลยดีไหม แต่ก็มีคนแนะนำว่าถ้ารู้เรื่องนี้แล้ว เรียนบริหารธุรกิจดีกว่าไหม จะได้เอามาใช้ทำอย่างอื่นได้ เฟิร์นเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน พอถึงวันนั้นความคิดเราอาจจะเปลี่ยนอีกรอบก็ได้"

ล่าสุดเห็นไปเรียนเต้นกับ ใหม่ - ดาวิกา มาด้วย?
"จริง ๆ ทุกวันนี้เฟิร์นออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสได้เพราะใหม่นะคะ เขาฟิตมาก พอเห็นเรากินเยอะ ก็จะมาถามว่ามาออกกำลังกายหน่อยไหม ก็ลากกันไป เรียนเต้นก็ลากไป เขาจะบอกว่าไม่ได้แล้วนะ เพื่อนต้องผอม ก็จะเอารูปซิกแพ็กมาอวดใหญ่เลยถ้าพูดถึงเพื่อนสนิทในวงการ เฟิร์นก็มี ใหม่ - ดาวิกา นี่แหละค่ะ ไม่ค่อยมีใครคบแล้ว เฟิร์นรู้จักใหม่เพราะเรามีผู้จัดการคนเดียวกัน เฟิร์นได้ยินเรื่องของเขามาเยอะ ส่วนเขาก็ได้ยินเรื่องของเฟิร์น พอมารู้จักกันก็สนิทกันง่ายขึ้น แต่เอาจริง ๆไลฟ์สไตล์เราคนละแบบกันเลยนะคะ แต่ก็คุยกันได้ในหลาย ๆ เรื่อง อย่างใหม่จะชอบฟังเพลงตื๊ด ๆ บียองเซ่ รีฮันน่า เจนิเฟอร์ โลเปซ มาถึงก็เปิดเพลงมาดังเลย เปิดเผื่อเพื่อนด้วย แต่เฟิร์นจะชอบฟังเพลงเก่า เท่ห์ - อุเทน, แจ้ - ดนุพล คือคุณแม่ชอบฟัง เฟิร์นก็เลยติด ไม่ชอบฟังเพลงอื่น ๆ ปวดหัว ในโทรศัพท์มีเพลงพวกนี่เต็มเลยอยากจะอวด (หัวเราะ) แต่เวลาเปิดก็จะโดนแซวตลอดค่ะ"

ถามถึงเรื่องหัวใจบ้าง เฟิร์นไม่ค่อยมีข่าวเรื่องความรักเลย?
"หัวใจว่างค่ะ ขอให้เข้ามา (หัวเราะ) คือจริง ๆ ก็มีคนเข้ามาคุยบ้างค่ะ แต่เดี๋ยวเขาก็ออกไป เพราะส่วนใหญ่เข้ามาแล้วจะหายไป คุยกันไปสักพักก็ไม่ได้คุยแล้ว ไม่มีความแน่นอน คือเฟิร์นเวลาเฟิร์นเป็นคนทำงานแล้วจะไม่สนใจอะไรเลย ติดงาน ติดเพื่อน แล้วพอเขาหายไปก็จะคิดว่าเขาไม่จริงใจกับเรา พอเขาจีบก็ไม่รู้ว่าเขาจีบ บางทีกวนเขาไปเยอะมาก แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาจีบ ก็คิดในใจว่าไม่น่ากวนเลย กวนแบบนี้อดแล้วล่ะ"

แล้วหนุ่มที่คุยตอนนี้ เป็นคนในหรือนอกวงการ?
"มีหมดนะคะ ในวงการก็มี คือเฟิร์นไม่ได้คุยหลายคนนะ เพียงแต่เราไม่ได้คุยจริงจังไงว่า เออเราคุยกันนะ เฟิร์นรู้สึกว่าเขาไม่น่าชอบเฟิร์นหรอก เพราะเราเป็นคนเถื่อน ๆ บางทีก็พูดจาไม่น่ารัก ไม่ค่อยเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นเขา เลยไม่ค่อยรู้ว่าใครมาจีบ รู้ตัวอีกทีอ้าว...ไปแล้วหรอ แต่เอาจริง ๆ คือเราก็ไม่ได้รีบ"

คุณแม่หวงไหม?
"แม่ไม่หวงเลย แต่จะห่วงมากกว่าค่ะ จริง ๆ แม่เฟิร์นก็อยากให้มีแฟนนะ บอกว่าถ้ามีแฟนให้พามาเจอ พามาบ้านด้วย เขาชอบมีลูกเยอะ ๆ เป็นคนขี้เหงา แต่เราก็ไม่เคยมีเป็นตัวเป็นตน ถ้าเทียบกับผู้จัดการเฟิร์นจะหวงกว่าแม่ เขาเคยพูดว่าอยู่กันไป 3 คนแบบนี้แหละ คือมี เฟิร์น, ใหม่ - ดาวิกา แล้วก็พี่ผู้จัดการ"

สเปกจริง ๆ ใบเฟิร์นเป็นอย่างไร?
"เฟิร์นเป็นคนไม่มีสเปกเลยนะ เราแค่ชอบคนมีเสน่ห์ คุยกันแล้วรู้สึกว่าใช่ แต่ยังไม่มีเลย คนที่เฟิร์นเคยคุยด้วยที่ผ่านมา ก็หน้าตาไม่ดีนะ ไม่มีอะไรเลย แต่บางทีมีคนมาจีบ พี่ ๆ ก็จะห้ามว่าคนนี้เป็นตุ๊ด คนนั้นเป็นเกย์ เลยไม่ได้คบกับใครสักที จริง ๆ เขาไม่ได้มาจีบด้วย แต่เราไปชอบเขา (หัวเราะ) เฟิร์นว่าตุ๊ดดูเป็นผู้ชายสุภาพ เรียบร้อยดีค่ะ เพราะเราเป็นคนไม่สุภาพ เลยชอบผู้ชายสุภาพ"