นับเป็นนางเอกคิวทองของวิกหมอชิตที่งานแน่นตลอดทั้งปี สำหรับ ปู - ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก เพราะนอกจาก "พรายพยากรณ์" ที่กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้ เธอยังมีละครจ่อคิวรออีก 2 เรื่อง และงานอีเวนต์ที่แทบจะล้นมือ "ดาวต่างมุม" วันนี้ เลยต้องขอนัดสาวปู ในช่วงเย็น ๆ หลังว่างจากงาน มานั่งพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ และอัพเดทเรื่องหัวใจกับ หนุ่ม โน้ต - วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ที่หลายๆ คนคงอยากรู้
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์
"พรายพยากรณ์" เพิ่งออกอากาศไปเป็นอย่างไรบ้าง?
"เรื่องนี้เป็นละครแนวคอมเมดี้ค่ะ มีผีด้วย ปูรับบท "พิณชนิดา" เป็นคนที่ดูดวงแม่นมาก ก็เป็นละครแนวฮา ๆ การถ่ายทำไม่เครียด ได้ร่วมงานกับพี่ออย - ธนา ก็สนุกค่ะ พี่เขาเป็นคนน่ารัก จิตใจดี แล้วก็มืออาชีพมาก จริง ๆ คอมเมดี้ไม่ใช่แนวของปูเท่าไหร่ค่ะ เพราะเวลาลูกครึ่งเล่นคอมเมดี้จะยิ่งพูดไม่ชัด แล้วปูเป็นคนที่ตลกโดยไม่ตั้งใจได้ แต่ปูว่าละครเรื่องนี้น่าจะออกมาดี เพราะถ้าไม่ตลกพี่ วุธ-อัษฎาวุธ จะไม่ให้ผ่านเลย แล้วนักแสดงทุกคนก็น่ารัก มีน้าค่อม ชวนชื่น มีพี่แท็ค-ภรัณยู ยอมรับว่าบางทีปูก็ไม่ค่อยเก็ทมุกเขาเท่าไหร่ แต่ก็หัวเราะไปก่อนค่ะ (ยิ้ม)"
เห็นว่ามีละครจ่อคิวอีกสองเรื่อง?
"มี "ดั่งสวรรค์สาป" กับ "คนละโลก" ค่ะ สองเรื่องนี้จะแตกต่างจากละครที่ปูเคยเล่นทั้งหมดใน 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่เราตัดสินใจรับพร้อม ๆ กัน เพราะเรามองว่าเป็นบทที่ดี บทนางเอกมีความซับซ้อนทางอารมณ์ ไม่ได้เล่นเป็นเด็กอายุ 17-18 ปีแล้ว เลยขอลุยสักครั้งกับบทดราม่าหนัก ๆ อย่าง "ดั่งสวรรค์สาป" ตอนแรกนางเอกร้าย แต่ต่อมาความจำเสื่อม ปูจำได้ว่าพี่กบ - สุวนันท์ เล่นไว้ดีมาก เป็นเรื่องแรกที่พี่กบลุกขึ้นมาเปรี้ยวแล้วคนทั้งประเทศตกใจ ส่วน พี่ หน่อย-บุษกร ก็ได้รับรางวัลนักแสดนำหญิงจาก "คนละโลก" เราเลยกดดัน อยากทำให้ออกมาดีที่สุด ปูได้คุยกับพี่ต้อ-มารุต ซึ่งเป็นผู้จัดแล้ว เขาบอกว่าไม่ให้ปูไปเรียนการแสดง เพราะกลัวว่าพอเรียนการแสดงแล้วจะดึงปูไปเป็นอีกทางหนึ่ง แล้วเราจะงงไปเลย ปูเลยไปเรียนการออกเสียงภาษาไทยเอง เพราะเรามีปัญหาเรื่องการออกเสียง ท ทหาร ช ช้าง และ ส เสือ ครูที่สอนก็บอกว่าเรียนออกเสียง ยากกว่าแอ๊คติ้งอีกนะ ซึ่งปูว่าก็ยากกว่า อย่างร้องไห้ ใคร ๆ ก็ร้องได้ ปูเล่นละครมา 10 กว่าปี สั่งน้ำตาคือสั่งได้ แต่คนจะขัดเราเรื่องพูดไม่ชัดตลอด นี่เป็นปัญหาเลย ครูที่สอนบอกว่าปูพูดภาษาไทยชัดแล้ว แต่เราบอกว่าไม่ได้ต้องการแค่ชัด แต่อยากให้คนเชื่อว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้น และเป็นคนไทยจริง ๆ ปูเลยทุ่มเทมาก"
ช่วงนี้ดูปูเป็นสาวรักสุขภาพด้วย?
"ใช่ค่ะ อย่างเมื่อเช้าก็ออกกำลังกาย 3 ชั่วโมง ตรงนี้เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของปู แต่ไม่ได้วางกฎกับตัวเองแต่ก็ทำทุกวัน เพราะตอนนี้ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพคนก็จะเริ่มนึกถึงปู เราเลยไม่อยากจะปล่อยตรงนี้ไป ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนหลาย ๆ คนหันมาดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ปูก็เลยทุ่มเทไปกับมัน ส่วนเรื่องอาหารการกิน ถ้าเป็นวันที่เราต้องทำงานบางทีเราก็จะเยอะมากไม่ได้ แต่ถ้าเราไปกองเราจะเตรียมข้าวไปเองทุกครั้ง เราค่อนข้างพิถีพิถัน ยิ่งเราทำอาชีพนี้ก็นอนไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว บางครั้งก็เครียดในเรื่องที่ไม่ควรจะเครียด ทางเดียวที่เราจะหาวิธีรับมือกับมันได้ก็คือทานอาหารที่ดีและออกกำลังกาย"
อย่างปูมีเรื่องเครียดด้วยหรือ?
"มีสิคะ ปูว่าทุกอาชีพมีการแข่งขันสูง ถ้าเราทำงานอาชีพอื่น เราอาจจะถูกเลื่อนขั้นให้เป็นผู้จัดการร้านได้ ตำแหน่งอื่นได้ แต่การเป็นนักแสดงมันไม่มีโปรโมชั่นนะ การที่เราจะเดินไปข้างหน้าได้ อยู่ที่โอกาสกับตัวเรา ตอนเป็นนักแสดงแรก ๆ ปูไม่เครียดนะ ปูทำไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดว่าต้องมีอะไรพิเศษมาตอบแทน แต่พอเราโตขึ้น เราอยู่ในจุดนี้แล้ว เราจะละเลยไม่ได้ มีแต่คนบอกว่า ปู -ไปรยา เก่งมาก ตื่นตี 5 ไปออกกำลังกาย ถามว่าปูมีความสุขในทุก ๆ วันที่ทำไหม เราไม่ได้มีความสุขนะ บางวันเราก็เหนื่อย แต่มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ถ้าเราไม่ทำคนอื่นก็จะทำ หรือถ้าเราไม่รับละครเรื่องนี้คนอื่นก็รับแทน ในมุมมองตรงนี้ทำให้ปูเครียดนิดหนึ่ง ว่าปูไม่สามารถหยุดได้ แต่คนรอบข้างปู เพื่อนปูส่วนใหญ่เขาเป็นนางแบบ เขาก็บอกว่าจริง ๆ เธอก็เลือกได้นะ เธอไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนี้ เธอจะมาบ่นทำไม แต่ประเด็นคือเราไม่รับไม่ได้ บางทีโอกาสก็อยู่ข้างหน้าแล้ว เราเข้าใจว่าน้ำขึ้นต้องรีบตัก ปูเลยบอกทุกคน บอกโน้ต บอกเพื่อน ๆ ว่าตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีนี้ จนถึง พ.ค. ปีหน้า อาจจะอารมณ์ไม่ค่อยดีหน่อย อาจจะเหนื่อย หรือ ท้อหน่อย แต่หลังจาก พ.ค. ปีหน้าไปแล้วจะกลับมาดีเหมือนเดิม"
เพิ่งกลับจากมัลดีฟส์กับโน้ตมา?
"ใช่ค่ะ ป๋าปูพาเที่ยว (หัวเราะ) เขาก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะคะ เราพูดไว้ตั้งนานแล้ว ผ่านวันเกิดเขามา 2-3 เดือนแล้ว แต่ไม่มีคิวไป เพราะที่ผ่านมาเราพาน้องชายกับคุณพ่อไปเที่ยวแอลเอ ตรงนั้นก็ใช้เวลา 10 วันแล้ว เลยไม่กล้ายุ่งกับคิวอื่น ๆ ต้องกลับมาลุยงานก่อน ถึงจะเบรกได้อีกที ตอนที่ไปก็พาเขาไปดูปลาโลมา แล้วพาเขาไปดูหนัง เป็นจอแบบหนังกลางแปลง ใต้ดวงดาว และดูบนหาดกันแค่สองคน เลือกหนังเรื่องโปรดของเขาด้วย แล้วก็พาเขาไปหาดที่มีดาวตกลงน้ำ แล้วคราวที่แล้วปูกับโน้ต เคยไป "ฮอตแอร์ บอลลูน" มาแล้วครั้งหนึ่ง ปูอยากขึ้นมาก แล้วเราอยากไป "แกรนด์ แคนยอน" ก็ได้ไป นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่อยากทำ งานนี้ป๋าปูเลยจ่ายไม่อั้น แต่จริง ๆ ก็มีขอสปอนเซอร์บ้างค่ะ มีบริษัทเอเจนซี่ บุ๊คกิ๊ง ที่เขาทำให้โรงแรมทั่วโลก เราเห็นดาราต่างประเทศหลาย ๆ คนใช้บริการเขา เลยลองส่งอีเมลไปดู เขาก็ช่วยสปอนเซอร์บ้างในบางอย่าง"
แล้วปลายปีมีแพลนไปเที่ยวกับครอบครัวกับโน้ตด้วย?
"ใช่ค่ะ แต่จริง ๆ ทริปปีใหม่ปูเฉย ๆ นะ แล้วแต่พี่น็อต - วิศรุต กับโน้ตเลย พวกแม่ ๆ ก็คงตามใจหนุ่ม ๆ คุณแม่โน้ตเขาก็น่ารักมาก เขาใจดี ปูจะเรียกเขาว่า "แม่อุคนดี" (ยิ้ม) แล้วลูก ๆ เขาน่ารักทุกคนเลย พี่ชมพู่-อารยา ก็น่ารักมาก ปูรู้สึกว่าปูโชคดี อย่างโน้ตเขาก็เข้ากับครอบครัวปูได้ดี น้องชายปูติดเขาเลย เวลาไปเที่ยวกันเหมือนปูไม่อยู่ด้วย น้องชายชอบชมว่าโน้ตน่ารัก ปูยังเคยบอกน้องเลยว่าถ้าเธอเป็นน้องสาวนะ มีตบกันแล้ว (หัวเราะ)"
3 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?
"ดีค่ะ เราคบกันเรื่อย ๆ ไม่ได้เกร็ง และไม่ได้โชว์หวานเวอร์ เราเป็นคู่รักปกติ ไม่ได้ออกตัวแรง เขาเคยพูดกับปูว่าคบกับปูเหมือนไม่ได้คบดารา เราเลยอยู่กันได้ เพราะปูถือว่าถ้าอยู่บ้าน เราไม่ใช่ ปู - ไปรยา เราเป็นแค่ปูเฉย ๆ แต่คนคบกันยังต้องมีเรื่องปรับตัวเข้าหากันบ้างปกติ ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างพ่อแม่ลูก หรือแม้แต่เพื่อนสนิท ความเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันสำคัญที่สุด ซึ่งปูกับโน้ตเรามีตรงนี้นะ เราให้เกียรติในอาชีพซึ่งกันและกัน และให้เวลาส่วนตัวแต่ละฝ่าย เราอาจจะไม่บอกรักกันทุกวัน แต่ปูรู้ว่าถ้าเราเหนื่อยกับงาน ยังไงก็มีโน้ตคอยให้กำลังใจ เรารู้สึกว่าเราเหมือนคู่ตายาย มากกว่าหนุ่มสาว (หัวเราะ) อย่างเมื่อก่อนปูคิดว่าความรักต้องตื่นเต้น หวือหวา ไปกินข้าว ไปออกเดท เราเคยอยากมีความรักแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วความรักแบบที่เป็นเพื่อนสนิท แต่ในเวลาเดียวกันก็เหมือน "โรมิโอ&จูเลียต" เป็นความรักที่เหมาะกับปูมากกว่า ไม่ต้องตื่นเต้น หรือลุ้นว่าอาทิตย์หน้าเขาจะรักเราไหม เอาชัวร์ ๆ ว่ารักดีกว่า (หัวเราะ)"
โน้ตห่วงปูเรื่องอะไรบ้าง?
"เขาชอบบอกปูตามคนไม่ทัน เพราะเราเป็นคนตรง ๆ ส่วนเรื่องงานโน้ตเขาบอกปูว่าให้ปูลองอีกสักตั้ง ลองเหนื่อยสัก 6 เดือน รับละครไปเลย 2 เรื่อง เรียนภาษาไทย ออกกำลังกาย ทำจนร่างกายปูไม่ไหวจริง ๆ แล้วถ้าเดือน พ.ค. ปีหน้ามาถึง ปูยังไม่มีความสุขอีก ค่อยมาคุยกันว่าจะทำยังไง แต่เขาขอให้เราทุ่มกับมันจริง ๆ ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นแล้ว เขาก็ซับพอร์ตเราตรงนี้ค่ะ"
เมื่อไหร่จะแต่ง?
"ยังหรอกค่ะ อีกสักพักหนึ่งเลย ปูรู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ปูกับโน้ตคิดเหมือนกันว่า ถ้าเวลานั้นมาถึง แล้วเขาขอคงแต่งเลย แต่เราไม่ได้แพลนเลย ปูว่าการแต่งงานอย่ารีบเลย"
มุมมองการใช้ชีวิตของปู โตขึ้นเยอะเลย?
"เยอะค่ะ เราคิดว่ามีวันหนึ่งที่มันต้องเปลี่ยน ชีวิตปูบางทีก็ไม่ได้ง่าย บางครั้งเราก็มีอารมณ์หลุด อารมณ์เสีย แต่ตอนนี้ปูอยู่ในจุดที่ปูปลอบตัวเองเป็นแล้ว เมื่อก่อนปูโกรธหรือเซ็งก็ต้องออกไปหาเพื่อน แต่ตอนนี้โกรธเราก็กลับบ้าน ดูทีวี ออกกำลังกาย แล้วมานั่งคิดว่าเราจะทำยังไงกับปัญหา จะรับมือกับมันยังไง ชีวิตปูเลยดีขึ้น แล้วทุกวันนี้ปูคิดว่าเราต้องมีความรับผิดชอบต่อคนอื่น ปูต้องมีความรับผิดชอบต่อพี่โกโก้ (ผู้จัดการ) กับทางช่อง กับพี่คนขับรถ ซึ่งถ้าวันหนึ่งปูบอกว่า ไม่อยากทำแล้ว ไม่เอาแล้ว เขาจะเป็นยังไง เราเลยคิดว่าเราต้องทำให้ได้ ทำให้เสร็จ แต่จริง ๆ ความฝันปู เราไม่ได้คิดว่าจะเป็นที่หนึ่ง ปูไม่รู้ว่าถ้าเราเป็นที่หนึ่ง หรือมีงานเยอะล้นฟ้าแล้วจะมีความสุขไหม"
แล้วเป้าหมายในชีวิตจริง ๆ ของ ปู - ไปรยา คืออะไร?
"ขอให้คนชมเรื่องการแสดงก่อน (ยิ้ม) อันนี้คือเป้าหมายของปู แล้วถ้าไปไกลถึงได้รับรางวัล ก็คงคือเป้าหมายที่สอง ชีวิตปูอยากได้รับรางวัลเกี่ยวกับการแสดงสักครั้งหนึ่งค่ะ"
ปูมองคำว่าดารากับนักแสดงต่างกันอย่างไรบ้าง?
"ปูรักอาชีพนักแสดงนะ รู้สึกว่าเราทำแล้วมีความสุข เราเติบโตจากตรงนี้ เลยให้เกียรติอาชีพนักแสดงมาก แต่การเป็นดาราบางครั้งปูอึดอัด ที่ต้องแต่งตัว ทำตัวไฮโซ บางทีมันก็เหนื่อย และเราตามไม่ทัน ปัญหาของปู คือปูมองว่านี่คืออาชีพ เรารับจ้างเขามาเล่นละคร มาออกงานอีเวนต์ แต่จริง ๆ การที่เป็นดารา เราต้องเป็น 24 ชั่วโมง ความกระตือรือร้น บางครั้งปูเลยมีไม่เยอะ ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในอาชีพนี้เราต้องมีทั้งคู่ เราจะเป็นนักแสดงหรือดาราอย่างเดียวไม่ได้"
สุดท้ายฝากถึงแฟน ๆ หน่อย?
"ก็ฝากละคร 3 เรื่องของปูด้วยนะคะ มีพรายพยากรณ์ คนละโลก ดั่งสวรรค์สาป แล้วถ้าปูเล่นดีจริง ๆ ช่วยโหวตให้ปูด้วยนะคะ ขอให้ได้รับรางวัลสักครั้งหนึ่ง"