ห่างหายจากการร้องเพลงไปนานถึง 5 ปี สำหรับนักร้องสาวหน้าเด็ก "นิกกี้ - นิโคล เทริโอ" แต่ล่าสุดสาวนิโคลกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้งภายใต้บ้านหลังใหม่แต่คนคุ้นเคยอย่าง สหภาพดนตรี กับซิงเกิ้ล สดใส ที่ชื่อว่า "อีกครั้งหนึ่ง" งานนี้ "ดาวต่างมุม" เลยนัดแนะสาวนิโคลเปิดใจถึงการหวนทำงานเพลง พร้อมอัพเดทชีวิตและความรักครั้งใหม่กับ "ต้น - เดิมพัน อยู่วิทยา" ที่เริ่มต้นก็เจอบททดสอบเป็นข่าวหน้าหนึ่งแบบนี้ สาวนิโคลประคับประคองยังไง ติดตามในบทสัมภาษณ์ได้เลยจ้า
ที่มา : ดาวต่างมุม เดลินิวส์
ห่างงานเพลงไปกี่ปีแล้ว?
"5 ปี ได้ค่ะ จริง ๆ กี้อยากทำเพลงมาตลอดนะคะ แต่เป็นช่วงที่เราย้ายบ้านใหม่ แค่ได้คุยกันเท่านั้น ไม่ได้คุยกันเป็นชิ้นเป็นอัน กับพี่จุ๊บ-วุฒินันท์ ภิรมย์ภักดีว่าอยากทำเพลงแบบไหน เลยจัดทีมมา จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ตอนนี้โปรดิวเซอร์ของกี้คือพี่ปู และเอก แบล็กเฮด ซึ่งเขายังทัวร์คอนเสิร์ตกันเยอะมาก ซึ่งกี้ก็อยู่ในช่วงถ่ายละครก็ยากที่จะให้คิวตรงกัน พอวันนึงพวกเราอยู่ตรงนี้มานาน เจอกันก็ทำงานง่าย พี่ปูก็มีความชำนาญ และเก่งในการคุมร้องมาก กี้คิดมาตลอดเวลาเป็นคนร้องเพลงเร็วไม่ได้ดีเท่าเราร้องเพลงช้า เพลงเร็วที่ร้องไม่ได้เน้นความรู้สึก แต่เน้นความน่ารัก เหมือนกะโปโล หรือบุษบา ดีใจที่ได้พี่ ๆ มาทำ"
เราคุยกันยังไง เพราะคนต้องติดภาพเดิม ใส ๆ ของนิโคล เทริโอ?
"เวลาน่าจะผ่านไปนานจนจำภาพเดิมไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) เลยไม่กดดันหรือคาดหวังมาก เราอยากให้ทุกคนฟังแล้วสนุก แค่นั้นเอง ชีวิตเครียดพอแล้วแหละ ไม่ต้องมาคิดกับเรามาก แค่ฟังแล้วสนุกสนานก็แฮปปี้ คิดอะไรออก ชีวิตจะลงตัวของมันเอง"
ซิงเกิ้ลนี้ยังมีความสดใสเป็นกันเองมั้ย?
"มีค่ะ อยากให้สดใส สวยงาม และมีพลัง ซึ่งเพลง "อีกครั้งหนึ่ง" ก็สื่อถึงความรัก ชีวิต ได้เช่นกัน ไม่มีกรอบอะไร ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้ทั้งเรื่องงาน เพื่อน ความรัก เรามีโอกาสเสมอ เราเอาประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตมาเล่าให้เอก แบล็กเฮด ฟังหมด เพราะเขาเป็นเพื่อนรักกี้มา 10 ปี แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เราบอกสั้น ๆ เอาเป็นเราวันนี้อ่ะ แค่นั้นจริง ๆ (หัวเราะ) เขาก็กลับไปเขียนเนื้อแล้วมันก็ใช่เราในวันนี้จริง ๆ หลังจากเพลงนี้ก็จะมีเพลงจังหวะกลาง ๆ ต่อด้วยเพลงช้าค่ะ"
ความรู้สึกที่ได้กลับมาเข้าห้องอัดอีกครั้งเป็นยังไง?
"ไม่น่าเชื่อว่าจะตื่นเต้นมาก กี้กับพี่ปู แบล็กเฮดคุยกันเป็นเพื่อน สนิทมาก แต่พอเข้าไปในห้องอัดมาคุมร้อง ก็เหมือนครูเลย เราก็ค่ะ ค่ะ ไปอย่างเดียว เป็นทางการมาก ทำงานก็ทำงานจริง ๆ ถ้าไม่ได้ก็เอาใหม่ พอออกมาจากโหมดทำงานก็เฮฮากันเอง เขาก็บอกว่ากี้มีความตั้งใจ ทำงานกับคนคุ้นเคยทุกอย่างเลยโอเค"
เซ็นสัญญาเข้าสังกัด สหภาพดนตรีตัดสินใจนานมั้ย?
"ไม่นานเลยค่ะ กี้รู้จักพี่จุ๊บมาหลายปีแล้ว ผู้ใหญ่ที่อยู่สหภาพดนตรี ก็เป็นคนที่เรารู้จัก สร้างกี้ขึ้นมา เราก็ตาม ๆ กันมา"
ความยากง่ายของการทำงานเพลงในปัจจุบันเป็นยังไงสำหรับเรา?
"สมัยก่อนกี้ไม่ค่อยรู้กระบวนการ เบื้องหลัง ในการโปรโมตเพลง หรือทำยังไงให้เพลงออกไป เมื่อก่อนแค่วางแผงซีดี ดูยอดขาย ออกรายการโปรโมต คอนเสิร์ต ซึ่งมันก็เหนื่อย แต่ปัจจุบันเป็นเรื่องของโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว เราสามารถรับรู้แล้วช่วยโปรโมตผ่านช่องทางของเราได้อย่างไอจี เฟสบุ๊ก ยูทูบ เราได้ร่วมลุ้นอยากให้คนชอบเพลงเรา กี้โตขึ้นและสามารถเอาประสบการณ์มาช่วยคิดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่เราเก่งนะ แต่เรารู้แบบไหนโอเค อะไรเป็นความจริงคนจะโอเค ถึงกี้ออกมาเต้นสบาย ๆ ไม่เต้นเยอะพยายามมากเกินไปก็ไม่ใช่ เราอยากจะเป็นธรรมชาติตัวเราจริง ๆ"
เรื่องงานละครล่ะตอนนี้เหมือนกำลังไปได้สวย?
"ละครตอนนี้มี 2 เรื่อง คือ บ่วงมารทางช่องทรูวิชั่นส์ และละคร เรือนริษยา ช่อง 3 ของพี่ตุ๊ก - จันจิรา ซึ่งตกลงเล่นไปแต่ทีมงานต้องเลื่อน จนกี้มาตกลงเล่นบ่วงมาร คิวเลยมาประจวบกันพอดี ไม่ใช่เราฮอตหรืออะไร แต่จังหวะมาตรง ตอนนี้ยังถ่ายไม่เสร็จสักเรื่อง แล้วยังทัวร์คอนเสิร์ตกับพี่ป้อม-อัสนี แล้วก็เตรียมเพลงเราอีก ละครก็ต้องถ่ายที 7 วัน ถ่าย 7 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนก็หนักแต่ยังสนุกค่ะ"
เกณฑ์การรับงานละครของเราเป็นยังไง?
"กี้ชอบเล่นดราม่า อย่างเรื่องบ่วงมารพีเรียดก็ชอบ ครั้งนี้เล่นอ่อนแอ สู้คนไม่ได้ แต่ปัจจุบันก็กลับมาอาฆาตแค้น แต่พอมาเรือนริษยา ก็ถูกกระทำ อ่อนแอ มีอินเนอร์ดุ จากเรื่องโน้นมาเหมือนกัน เพราะเล่นติดกันเราก็ติดคาแรกเตอร์อีกเรื่องมาบ้างก็ต้องปรับจูน แต่งานละครกี้ชอบ แต่งานเพลงเราก็คิดถึง ซึ่งกี้ดีใจที่ได้กลับมาร้องเพลง แล้วจะได้เดินสายโปรโมตและมีคอนเสิร์ตต่อไปด้วยหลังจากเราหายไปนานจริง ๆ"
แรงบันดาลใจในการทำงานของเรา?
"จากลูก ครอบครัว เพื่อน ๆ จากคนใกล้ตัวจริง ๆ เราจะไม่รู้จักอะไรมากไปกว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา หรือบางทีกี้ก็ได้แรงบันดาลใจจากการทำงานเพลงจากศิลปินที่กี้ชื่นชอบอย่าง เคที่ เพอรี่ เรื่องความซน ความสดใส ทั้งที่เบื้องหลังชีวิตรักเขาลำบากมาก แต่พออยู่บนเวทีสามารถยืนตรงแล้วยิ้มได้ เรารู้สึกเขาเจ๋ง เราเองก็ยังมีไฟ ก็ต้องไหวถ้ายังมีใจเอาเขามาเป็นแรงบันดาลใจ"
อย่างบทบาทของการเป็นแม่ล่ะเราแบ่งยังไงจากการทำงาน?
"สมัยก่อนก็เอาทิกเกอร์ไปกองด้วย ตอนนี้เขาอายุ 9 ขวบแล้ว โตและเข้าใจ คุยกันเหมือนเพื่อน ตอนนี้ทิกเกอร์เล่นละครไป 2 เรื่องแล้ว เซ็นเข้าสังกัดโพลีพลัส 3 ปี กลายเป็นมาถามกันเรื่องละครเข้าฉากกี่ซีน คือเป็นผู้ใหญ่ เราเองไม่เคยสอนอะไรเขาเลย ไม่เคยบังคับ แต่พอทำงานเขาเหมือนผู้ใหญ่ ทวนบท ตั้งใจมาก เราก็โอเคที่เขาชอบ เราในฐานะแม่เวลาเห็นลูกทำงานก็ภูมิใจ แต่เรื่องการเรียนก็ต้องไม่ทิ้งเราก็ดูแลตรงนี้ควบคู่กันไป"
เราดูแลสุขภาพยังไงทำงานเยอะแบบนี้?
"เราชอบเข้าฟิตเนสนะ แต่ถ้าว่างจริง ๆ จะขอนอนดูซีรีส์ที่บ้าน พอจบงาน ขึ้นรถกลับบ้านเราจะล้างทุกอย่าง จะไม่เอากลับไปเครียด แล้วอีกอย่างที่ทำประจำคือการนั่งสมาธิ กี้ฝึกจิตมีสมาธิแล้วชีวิตง่ายขึ้นจริง ๆ ที่เห็นชัดคือเรื่องของการท่องจำบท ถ้าเรานั่งแล้วฝึกปฏิบัติเยอะทั้งได้บุญ แผ่บุญ ดีกับตัวเรามาก ไม่ใช่เหมาะแค่ผู้ใหญ่ แต่เด็ก ๆ นั่งสมาธิเยอะ ทิกเกอร์กับกี้กลายเป็นคนมีกิจกรรมร่วมกันคือการนั่งสมาธิที่ห้องพระ ซึ่งเราสองคนนิ่งและมีสติมากขึ้นจริง ๆ อยากให้คุณแม่ท่านอื่นลองไปปรับใช้กับลูกดูนะคะ"
เคล็ดลับในการดูแลตัวเองให้สดใส เหมือนหยุดความเป็นเด็กไว้?
"เราไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก ก็ดูแลผิวพรรณ ครีมบำรุง อาหารการกิน นอนพักผ่อนเยอะ ๆ หาเวลาออกกำลังกายบ้าง มองโลกแง่บวกเข้าไว้จิตใจเราจะไม่ห่อเหี่ยว ถ้าเราเครียดเมื่อไหร่ จะเป็นคนเครียดมากฉะนั้นอะไรที่ปล่อยได้เราจะปล่อยให้ผ่านไปไม่เก็บมาคิดจนถึงจุดนั้น"
ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
"อยู่ในจุดที่ดีเลยค่ะ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน กี้โตกว่าเขานิดนึง แต่ไม่มีช่องว่างมากมาย ต่างคนต่างโตกันแล้ว สามารถแชร์เรื่องราวปัญหา ประสบการณ์ ไอเดียในชีวิต อนาคตเราจะทำธุรกิจแบบนั้นแบบนี้ดีมั้ย เป็นไอเดียแลกเปลี่ยนกัน กี้ว่าสำคัญนะ ความรักครั้งนี้เลยแฮปปี้ เราคุยกันถูกคอ เขาสามารถให้คำแนะนำที่ดีให้กี้ วิธีคิดเป็นขั้นตอนกว่าเรา ส่วนเราจะเป็นทางอาร์ต เขาสามารถทำให้ได้เห็นอีกมุมที่ไม่เคยเข้าใจ ซึ่งความไม่เหมือนกันเลยนี่แหละค่ะ ถึงทำให้เราเข้ากันได้ง่าย (หัวเราะ)"
แต่เริ่มต้นก็มีข่าวเรื่องมือที่สามต่าง ๆ เข้ามาทดสอบ?
"ใช่ค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไร แต่ครั้งนี้เราควบคุมไม่ได้จริง ๆ แต่พอเกิดขึ้นแล้วก็แก้ปัญหาตามที่เกิดขึ้น ความจริงก็คือความจริง ช้าหรือเร็วก็ต้องใจเย็น อย่าไปหวั่นไหวกับข่าว จะมีใครออกมาพูดอะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น เดี๋ยวนี้แค่โพสต์ลงไอจีก็มีข่าวได้แล้ว กี้เคยออกมาพูดแล้ว อะไรที่ไม่ได้มาจากเราก็ต้องปล่อยไปรอความจริงปรากฏ สุดท้ายพอเราอยู่นิ่งทุกอย่างก็คลี่คลาย ซึ่งเราไม่ใช่คนชอบเต้นตามสิ่งที่เกิดขึ้น"
เราอธิบายกันและกันยังไงกับข่าวที่เกิดขึ้นซึ่งกระทบทั้งเราและเขา?
"กี้อธิบายเรื่องข่าวให้เขาฟัง เพราะเขาไม่ได้อยู่ในวงการ มันดูแรงว่าเราเป็นมือที่สามแย่งเขาด้วย เขาก็อธิบายให้กี้ฟังว่าต้องจัดการความรู้สึกยังไง จะอธิบายความจริงไม่ให้เรารู้สึกแย่ ถ้ามันไม่จริงก็ไม่ต้องแคร์ เดี๋ยวคนจะรู้ หรือใครไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจกันเองก็พอแล้ว"
เราประทับใจเขาตรงไหนถึงพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนพิเศษ?
"เขาเป็นคนมองโลกแง่บวกมาก เป็นคนมีพลัง กระตือรือร้น เห็นทางออกในทุกอย่าง แก้ปัญหาได้เกือบทุกอย่าง เวลาเรามีปัญหาก็จะช่วยแก้ไขให้ เราต้องการคนแบบนี้แหละ แค่นี้เลย กำลังใจของกี้ไม่ได้ต้องการจากคนมาคอยพูดจาหวาน ๆ แต่ต้นมาช่วยเราคิดเหมือนเป็นปัญหาของเราสองคนจริง ๆ มันทำให้เราประทับใจ มันจะพัฒนาไปถึงขั้นไหนก็ต้องดูต่อไป แต่ตอนนี้ความรักคือพลังด้านบวกของเราส่วนหนึ่งจริง ๆ ไม่มีอะไรสมบูรณ์เนอะ เราเลยไม่คาดหวัง ถ้าผิดหวังจะเสียใจสูง เอาเป็นว่าให้โอกาสแล้วศึกษากันไปจะดีกว่า"
ความรักครั้งนี้คาดหวังมั้ย?
"รักครั้งนี้ไม่คาดหวัง กี้อยากให้ดูกันไปเรื่อย ๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอด คุยกัน ไม่เงียบ เพราะบางคนคุยกันสักพักก็หมดเรื่องคุย อยากแชร์ทุกอย่างบนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนสบายใจกว่าค่ะ"
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่เขารองานเพลงเรามานาน?
"สำหรับงานเพลงเป็นการเริ่มต้นของกี้กับบ้านหลังใหม่ เพลง อีกครั้งนึง เราทำมาเพื่อให้คนที่ได้ฟังได้รับความสนุก เมื่อเราสนุก ไม่เครียด เราก็จะมีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป แล้วกี้ขอฝากละคร เรือนริษยา ที่จะออนแอร์ช่อง 3 เร็ว ๆ นี้ และเรื่องบ่วงมาร ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ"
การกลับมาครั้งนี้ของ "นิโคล เทริโอ" เรายังสัมผัสได้ถึงความสดใส น่ารัก และพลังด้านบวกในตัวเธอ ยังไงแฟน ๆ ก็ตามให้กำลังใจเธอตลอดไปด้วยนะจ๊ะ...