สร้างปรากฏการณ์ให้คนดูเกลียดทะลุจอเหลือเกินกับความร้าย จากบทบาท "ปวีณา" ในละคร "ขมิ้นกับปูน" ทางช่อง 7 ที่เพิ่งลาจอไป โดยนักแสดงสาว "มะนาว - ศรศิลป์ มณีวรรณ์" ที่ฉีกภาพสาวน้อยในวันวานทำเอาคนแฟนละครขอยกนิ้วให้การแสดงที่เติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างมากของสาวมะนาว วันนี้ "ดาวต่างมุม" ไม่รอช้านัดแนะมะนาวมาพูดคุยถึงชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 7 ปี จากจุดเริ่มต้นในการเป็นนักแสดงวัยรุ่น จนปัจจุบันได้รับบทบาทที่หลากหลายจนเป็นที่ยอมรับของแฟนละคร รวมถึงเรื่องความรักกับผู้รักษาประตูทีมชาติไทยอย่าง "ตอง - กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์" ที่สนิทสนมกันมา 7 ปีแล้วเหมือนกัน แฮปปี้แค่ไหนติดตามบทสัมภาษณ์กันได้เลยค่า
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @Manow28 (IG)
กระแสละคร "ขมิ้นกับปูน" ที่เพิ่งลาจอไปดีมากรู้สึกยังไงบ้าง?
ขอบคุณแฟน ๆ ละคร "ขมิ้นกับปูน" ที่ติดตามละครเรื่องนี้นะคะ นักแสดงในเรื่องทุกคนตั้งใจเต็มที่ เพราะตอนแรกหนูกดดันมาก เนื่องจากเป็นละครรีเมค ทุกคนจึงจับตากับบทบาทของ "ปวีณา" ที่หนูได้รับ เพราะภาพหนูที่ผ่านมายังเป็นนักแสดงเด็ก ๆ รับบทที่ไม่ยากขนาดนี้ แต่พี่ ธง - ธงชัย ประสงค์สันติ ผู้กำกับบอกให้เราเล่นออกมาจากการทำความเข้าใจตัวละคร เลยเปลี่ยนความกดดันมาเป็นแรงบันดาลใจให้เราแสดงออกมาเป็น "ปวีณา" ในยุคนี้ที่ยังสามารถทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับละครได้ค่ะ
ถือเป็นบทบาทที่พิสูจน์ฝีมือของมะนาวว่าเราเติบโตแล้วด้วย?
ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาหนูเล่นบทเด็กกว่านี้ แต่เดี๋ยวนี้คนดูไม่ได้สนใจแค่พระเอก นางเอกเท่านั้น ตัวละครอื่น ๆ เองก็มีความสำคัญ ยิ่งถ้าเราทำการบ้านมาเต็มที่ จนสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาให้คนดูจดจำถือเป็นเรื่องดี ที่สำคัญเป็นเรื่องแรกที่หนูต้องใช้อารมณ์ สีหน้า เยอะมาก เพราะบทนี้ร้ายสุด ๆ พอมาเจอพี่ธงเราก็ได้รับคำแนะนำ พอเราเข้าที่เขาจะปล่อยให้เราใส่ฝีมือเต็ม ฉะนั้นงานออกมาดี ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่เพราะเราได้ร่วมงานกับทีมที่ดีด้วยค่ะ
ไปข้างนอกแฟน ๆ เจอแล้วทักเราถึง "ปวีณา" ยังไงบ้าง?
มีคนมาถ่ายรูปด้วย แล้วบอกว่าชั้นเจอปวีณาแล้ว เล่นได้ถึงใจจนรู้สึกเกลียดเลย (หัวเราะ) โดยเฉพาะฉากที่ปวีณายืนด่ากับปัทมา ที่เล่นโดยพี่ กรีน - อัษฎาพร ที่คนแชร์กันเยอะ ๆ บางคนไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ตั้งแต่แรก พอมาเจอฉากนี้ก็สงสัยว่าพี่น้องกันทำไมต้องด่ากันแรงขนาดนี้ เลยย้อนกลับไปดูตอนแรกจนติดดูจนจบก็มีค่ะ ซึ่งบทนี้เป็นบทที่ร้ายที่สุดตั้งแต่เล่นละครมา นาวดีใจที่สามารถพิสูจน์ฝีมือว่าการเป็นนักแสดง ที่โตพอที่จะเล่นได้ทุกบทบาทเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาจะถูกถามตลอด น้อยใจหรือเปล่าที่บทเราไม่หวือหวา นาวเชื่อว่าผู้ใหญ่มองออก ว่าเราต้องเริ่มจากบทเล็ก ๆ ก่อน จนตอนนี้เราก็อายุจะ 25 ปี แล้วผู้ใหญ่มองว่าเราสามารถทำได้ก็ดีใจมาก ๆ ค่ะที่ได้รับโอกาสนี้
ปีนี้อยู่วงการปีที่เท่าไหร่แล้ว เติบโต เรียนรู้อะไรบ้าง?
7 ปี แล้วค่ะ นานมากเหมือนกัน เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาเดินบนเส้นทางนี้เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเข้าวงการตั้งแต่มัธยม ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่ควรเรียนหนังสืออย่างเดียว แต่เราอยากลองเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ซึ่งเหนื่อยกว่าคนทั่วไป แต่ก็พิสูจน์ให้ครอบครัวและคนอื่น ๆ เห็นว่าถึงจะทำงานในวงการบันเทิงไปด้วย การเรียนเราก็เต็มที่ หนูเองมีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้จักแบ่งเวลา แม้ช่วงวัยรุ่นจะหายไปบ้าง แต่เราก็ยอมเพราะงานในวงการก็เป็นอีกหนึ่งความสุขของเราเมื่อได้ทำค่ะ
จริง ๆ ฝันอยากเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กหรือเปล่า?
ไม่มีในหัวเลยค่ะ (หัวเราะ) อยากเป็นนางสาวไทยแล้วอยากเป็นคุณครูเหมือนคุณแม่แค่นั้นเลย แต่พอมาช่วงมัธยม เราเล่นกีฬา คุณอาเลยกลัวเราเป็นทอมบอยก็เลยให้หนูมาประกวดมิสทีน คว้ารางวัลที่ 1 มิสทีนปี 2008 และเข้ามาในวงการบันเทิงด้วยการเซ็นสัญญากับช่อง 7 เล่นเรื่องแรกคือซิทคอม "สุดรักกับดักหัวใจ" เรื่องแรกก็รู้สึกชอบเลย ทั้งที่ไม่เคยเรียนการแสดง ต้องเข้าเวิร์กช็อปค่อยเป็นค่อยไปค่ะ
แต่ก็เคยมีข่าวผู้ใหญ่ไม่ดัน ให้เรารับบทใหม่ ๆ ซะที?
คนอาจจะเห็นบทบาทของเราไม่ได้พลิกจนคนจดจำมากกว่า เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าเรายังดูเด็ก เข้าใจว่าทุกคนมีโอกาสเหมือนกัน แต่จังหวะชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ เราแค่ทำทุกงานที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่ดีกว่า อย่างที่ทุกคนพูดถึงบทของ "ปวีณา" ที่หนูได้รับ หนูก็ตั้งใจพิสูจน์ฝีมือให้ผู้ชมได้เห็น ว่าหนูก็อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีให้ได้เราก็ทำเต็มที่ ตอนนี้เมื่อได้รับบทอะไร หนูทำความเข้าใจบทเยอะมาก เข้าใจสิ่งที่พี่ ๆ นักแสดงแนะนำว่าให้เราทำการบ้าน ทำความเข้าใจด้วยตัวเองว่าตัวละครที่เราได้รับต้องการอะไร พอเราโตขึ้นความใส่ใจกับบทมีมากขึ้น เพราะหนูรู้ว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ถ้าเราไม่เต็มที่ก็มีผลต่องานของเราได้ ที่สำคัญสมัยนี้เล่นอะไรออกไปคนวิจารณ์ได้เร็วเพราะโซเชียลมีเดีย
เราต้องปรับตัวในการทำงานอย่างไรบ้างกับยุคนี้?
เราก็อยากเป็นนักแสดงที่ดี ซึ่งต้องทำการบ้าน ไม่ใช่ได้เล่นแล้วก็เล่น ๆ ให้ผ่านไป ทั้งที่มันมีรายละเอียดเยอะกว่านั้น คุณต้องตั้งใจทำงาน จะทำให้คนดูเชื่อได้อยู่ที่ตัวเรา ถึงนาวจะรับบทร้ายจนคนเกลียด แต่ถ้าร้ายแล้วเป็นที่จดจำนั่นถือว่าเราทำสำเร็จ เดี๋ยวนี้แฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์เราได้หลากหลายทางหลังจากชมละคร ทำอะไรต้องเต็มที่และระวังขึ้น เพราะถ้าเล่นละครดีก็ดีสำหรับเรา ถ้าเล่นไม่ดีกระแสตอบรับที่ไม่ดีก็ย้อนมาหาเราได้เร็วเหมือนกันค่ะ
ต้องระวังไปถึงการใช้ชีวิตในวงการบันเทิงด้วยหรือเปล่า?
ใช่ค่ะ การวางตัวที่ดีสำคัญสำหรับวงการนี้ เพราะเราได้รับโอกาสที่เป็นตัวอย่างให้ใครอีกหลายคนได้เช่นกัน แต่เป็นตัวของตัวเอง มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน ตรงต่อเวลา คือเบื้องต้นที่ทุกคนพึงมี หากเรารักษาสิ่งเหล่านี้เอาไว้ได้ก็เป็นผลดีต่ออนาคตในการเป็นนักแสดงอย่างแน่นอนค่ะ
ทำงานตั้งแต่เด็ก ทัศนคติในการใช้ชีวิตต่างจากคนอื่นไหม?
อาจจะไม่เหมือนเด็กคนอื่น ข้ามวัยไปนิด (ยิ้ม) เพราะเราทำงานในวงการเราอยากเล่นได้หลายบท เราก็ต้องโต ความคิดต้องเปลี่ยนไป ต้องเป็นผู้ใหญ่ แต่มันทำให้เรารู้จักจัดระเบียบชีวิต ไม่ใช่แค่เรียน แค่ทำงานจบ ซึ่งทุกวันนี้เรายังสนุกกับการทำงานในอาชีพนักแสดงค่ะ หนูว่าหนูเพิ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำ เพราะในวงการเรายังมีอีกหลากหลายบทบาทที่อยากลอง ซึ่งนาวยังไม่เคยเล่นบทดราม่าหนัก ๆ ก็อยากจะลองดูค่ะ
ผลงานเรื่องต่อไปที่แฟน ๆ จะได้ชมล่ะ?
ตอนนี้ได้เล่น "เพลิงพระนาง" ค่ะ รับบท "เจ้านางยอดพุ่ม" หญิงสาวชาวป่าที่ช่วยเจ้าหลวงไว้ พอเข้าเมืองพี่อั้ม-พัชราภา ไม่ยอมรับเราจนเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ ในเรื่องไม่มีบทเจ้านางคนนี้ แต่เป็นบทใหม่ที่ผู้ใหญ่อยากให้มี ตอนผู้ใหญ่ติดต่อก็บอกว่าหนูได้รับเชิญ บางคนบอกอาจจะไม่สำคัญ แต่สำหรับหนูมันคือการได้รับเกียรติ เรายิ่งต้องทำให้คนดูจดจำบทบาทรับเชิญของเราให้ได้ อีกเรื่องกำลังถ่ายทำคือ "ทิวลิปทอง" ของอาหลอง เป็นบู๊กระจายคู่กับพี่เอก - รังสิโรจน์ แล้วก็จะมีงานพิธีกรรายการฟุตบอลลีกเมืองนอกกับทางสยามกีฬา ที่ช่องให้เรามีส่วนร่วมในสิ่งที่เราถนัดอย่างกีฬา เพราะเราชอบจริง ๆ โดยเฉพาะทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จากความชอบกลายมาเป็นอาชีพได้ก็ค่อย ๆ พัฒนาความสามารถตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ
หลายคนชื่นชมอยู่วงการมานาน แต่มะนาวไม่เคยเปลี่ยนเลย?
ขอบคุณมากค่ะ (ยิ้ม) เราเข้าวงการตั้งแต่เด็ก เห็นทั้งมุมดีและไม่ดี ดีใจนะคะที่คนรู้สึกว่าหนูไม่เคยเปลี่ยนไป เรารู้ว่าเรามาจากจุดไหน เดินมาไกลแค่ไหนก็ต้องหันกลับไปมองจุดเริ่มต้นที่เดินมา เราคือมะนาว - ศรศิลป์ เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสในวงการบันเทิง ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด วงการบันเทิงมีอะไรยั่วยุให้เราเยอะเหมือนกัน เราต้องประคองตัวเองด้วยสติ ครอบครัวและคนรอบข้างที่ดีจะคอยตักเตือนเราเมื่อเขาเห็นว่าเราเปลี่ยนไป แต่โชคดีมะนาวไม่เคยหลงไปกับชื่อเสียง ยังคงเป็นคนเดิมที่ชอบใช้ชีวิตธรรมดาค่ะ
ตอนนี้ได้ดูแลครอบครัวได้อย่างดีแล้ว?
ใช่ค่ะ ครอบครัวมะนาวใหญ่มาก กลับไปบ้านก็หายเหนื่อยเพราะบ้านเราอบอุ่น ภูมิใจที่ดูแลเขาได้ในหน้าที่ของการเป็นลูกหลาน อยากให้ทุกคนสบาย เพราะตอนนี้นาวมีธุรกิจคือขนมแบรนด์เลมอนเฮ้าท์ และเดี๋ยวจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ตลาดนัดมะลิ แถวเมืองทอง เดือนหน้านี้เดี๋ยวจะเชิญพี่ ๆ อีกทีนะคะ (ยิ้ม)
แต่ปีนี้ก็ได้เจอบททดสอบกับข่าวที่ไม่ดีกับเขาเหมือนกัน?
ใช่ค่ะ ถือเป็นข่าวแรกในชีวิตที่ใหญ่จนต้องชี้แจงเรื่องของข่าวลือที่เกี่ยวกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา ถือเป็นภัยทางการเมือง แต่คนรอบข้างรู้จักหนูดีว่าเป็นคนยังไง มันไม่ใช่เรื่องจริง เราคิดดี ทำดีมาตลอด แต่ก็มาเจอภัยโซเชียลมีเดีย ก็คิดให้ทางที่ดีว่ามันทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น เอาใจไปผูกจะเครียดเปล่า ๆ โชคดีบ้านเรามีธรรมะในใจ เวลาเจออะไรแบบนี้ปล่อยวางกับมันได้ง่ายเลยค่ะ
ถามถึงความรักกับ "กวิน" บ้างตอนนี้แฮปปี้ดีใช่ไหม?
ใช่ค่ะ เป็นกำลังใจที่ดีแก่กันและกัน เราคุยกันเข้าใจ รู้จักกันมา 7 ปี ตั้งแต่ประกวดมิสทีน จากเพื่อนแล้วก็พัฒนาสนิท เราคุยภาษาเดียวกัน ในการรักษาความสัมพันธ์ เน้นที่ความเข้าใจ ตอนนี้โตขึ้นก็ยิ่งเข้าใจชีวิต คุยกันตลอดว่าเราไม่มองว่าอนาคตจะเป็นยังไง ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด คอยเป็นกำลังใจให้กันในทุก ๆ เรื่อง ถามว่าเขาใช่สเปกมั้ย หนูไม่มีสเปก ขอแค่คุยรู้เรื่อง อบอุ่น ให้เกียรติเราแค่นี้ ไม่ต้องดีเลิศ บางคนชอบถามไม่กลัวสาว ๆ เข้ามาหาเขาเหรอ ส่วนใหญ่คือแฟนคลับค่ะ เรารู้หน้าที่การงานแต่ละคนเป็นยังไง ต้องเชื่อใจกัน เราประทับใจเขาที่เป็นผู้ใหญ่ เวลาเราหรือเขาเจอข่าวหนัก ๆ หรือเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพก็เข้าใจกัน ยิ่งใหญ่กว่าการมานั่งบอกกันว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง สองครอบครัวก็รับรู้ก็เลยแฮปปี้ดีมากค่ะ (ยิ้ม)
สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามมะนาวมาตลอดหน่อย?
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานของมะนาวมาตลอด ขอบคุณที่ให้ความรักเสมอ จะพยายามพัฒนาฝีมือการแสดงให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ยังไงฝากผลงานละครอีกสองเรื่องคือ "เพลิงพระนาง" และ "ทิวลิปทอง" ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ