ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้แฟน ๆ เซอร์ไพรซ์ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อ Lionsgate ออกมาประกาศว่า Ascendant ซึ่งเป็นภาคที่ 4 และภาคสุดท้ายของซีรี่ย์ Divergent จะออกฉายทางโทรทัศน์แทนจอยักษ์ ซึ่งนี่จะเป็นการปูทางไปสู่ซีรี่ย์ภาคแยกที่ทาง Lionsgate กำลังจะสร้างด้วย
เดิมที Ascendant มีแผนจะเข้าฉายวันที่ 9 มิถุนายน 2017 แต่เมื่อแผนเปลี่ยนวันออกฉายก็เลยต้องเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งตอนนี้ Lionsgate ก็ยังไม่ได้ออกมาประกาศว่าจะย้ายไปเป็นเมื่อไหร่ โดยในภาคสุดท้ายนี้จะเป็นการปูทางไปสู่ซีรี่ย์ฉายเดี่ยวทางโทรทัศน์ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตเหมือนกัน ตามข่าวบอกว่ามันจะเป็นการขยายความระหว่างหนัง Divergent 2 ภาคแรก ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2014 และปี 2015 โดย 2 ภาคแรกนั้นประสบความสำเร็จไปอย่างล้นหลาม แต่ภาค 3 Allegiant ที่ออกฉายไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมากลับไม่ถึงเป้าที่วางไว้
ตามกำหนดการเดิม Ascendant จะเข้าฉายชนกับภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ถึง 2 เรื่องคือ World War Z 2 และ The Mummy ภาพยนตร์เปิดจักรวาลอสูรกายของ Universal ซึ่งถือได้ว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเลยทีเดียว โปรเจ็ค Divergent 4 จะเริ่มถ่ายทำช่วงฤดูร้อนนี้ พร้อมกับทีมนักแสดงชุดเดิมที่แอตแลนตา แม้ภาคแรกจะกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 288.8 ล้านดอลล่าร์ ในขณะที่ภาค 2 กวาดไปอีก 297.2 ล้านดอลล่าร์ แต่เมื่อภาค 3 กวาดรายได้ไปเพียง 179.2 ล้านดอลล่าร์ซึ่งไม่ถึงเป้าที่วางไว้จึงทำให้ทาง Lionsgate ต้องกลับมาคิดปรับแผนกลยุทธ์ใหม่
เพื่อเป็นการปูทางไปสู่ซีรี่ย์ฉายเดี่ยว Ascendant มีแผนจะสิ้นสุดบทบาทของตัวละครบางตัวออกไป พร้อมกับนำเสนอตัวละครใหม่ ๆ เข้ามาผสมผสานกัน ซึ่งแน่นอนว่านักแสดงใหม่ที่มาร่วมทีมก็จะก้าวต่อไปในเวอร์ชั่นซีรี่ย์ด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า ไชลีน วูดลีย์ (Shailene Woodley), ธีโอ เจมส์ (Theo James) และ แอนเซล เอลกอร์ธ (Ansel Elgort) จะกลับมาร่วมปิดตำนาน Divergent ในภาคนี้ด้วยหรือไม่ แต่คาดว่า ลี โทลันด์ ครีเกอร์ (Lee Toland Krieger) น่าจะยังคงยืนยันกำกับ Ascendant ต่อแม้โปรเจ็คนี้จะเปลี่ยนไปออกฉายทางโทรทัศน์แทนก็ตาม แต่ทั้งนี้ Lionsgate ก็ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องนี้ แฟน ๆ Divergent คงต้องรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไปก่อน
ที่มา Movieweb.com