1. ในฉากเปิดเรื่องที่ฮ่องกงที่ตัวละครเบนนี่ (รับบทโดยเฉินหลง) พลัดตกน้ำ เฉินหลงต้องอยู่ในน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ได้ฉากที่สมบูรณ์แบบ
2. จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ ถือเป็นนักแสดงคนแรกที่ไม่ใช่ชาวจีน ที่ได้จูบกับฟ่านปิงปิง ซูเปอร์สตาร์ชาวจีน เธอกล่าวว่า "ฉันเข้าฉากวันแรก ก็ถ่ายทำฉากนี้เลย"
3. แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่อง Skiptrace เกิดขึ้นเมื่อครั้งเฉินหลงเล่นหนังเรื่อง The Karate Kid (2010) เขาได้ยินว่าหลายคนตกตะลึงกับภูมิทัศน์อันงดงามของเมืองจีนจนเขาเลือกที่จะทำหนังซักเรื่องที่ถ่ายทอดภูมิทัศน์แสนงดงามและหลากหลายในบ้านเกิดของเขาให้ผู้ชมทั่วโลกสัมผัส แล้วหนังเรื่อง Skiptrace ก็ถ่ายทอดการผจญภัยจากที่ราบมองโกเลีย ไปยังแม่น้ำแยงซีและเทือกเขาหวงซาน จนถึงตึกระฟ้าที่ฮ่องกง
4. Skiptrace เป็นการโคจรครั้งที่ 2 ของเฉินหลง และฟ่านปิงปิง ต่อจาก Shinjuku Incident หนัง ดราม่าอาชญากรรมปี 2009 ที่ทั้งคู่รับบทเป็นผู้อพยพชาวจีนในญี่ปุ่น
5. งานเดินพรมแดงรอบปฐมทัศน์หนังในฮอลลีวูดที่เฉินหลงได้เดินเป็นครั้งแรกในชีวิตเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วในงานเปิดตัวหนังของเรนนี่ ฮาร์ลินเรื่อง Cliffhanger ซึ่งเฉินหลงเป็นแขกรับเชิญของดารานำ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน แล้วเฉินหลงก็ชื่นชมงานของฮาร์ลินในแง่ศาสตร์ของการทำหนังแอ็คชั่นให้น่าจดจำ
6. เพื่อความสมจริงและความยิ่งใหญ่ของตัวหนัง ทีมงานจึงถ่ายทำที่มณฑลกวางซี มณฑลกุยโจว เกาะฮ่องกง มาเก๊าและมองโกเลียตอนใน