แชดวิค โบสแมน ถูกผู้อำนวยการสร้าง "เควิน ไฟกี" ทาบทามให้มารับบท ที'ชัลลา หรือ แบล็ค แพนเธอร์ ในภาพยนตร์เรื่อง Captain America: Civil War เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะตอบตกลง โบสแมน เจ้าตัวยอมรับว่าไม่ได้ใช้เวลาในวัยเด็กไปกับการอ่านการ์ตูน กับการมารับบท "แบล็ค แพนเธอร์" เขาก็เลยมุ่งมั่นกับการค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้และค้นหาความจริงเกี่ยวกับเขา ไปฟังเขาตอบกัน
"ผมคิดหาเหตุผลสองสามข้อที่ทำให้ผมรู้สึกว่า มันจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับโลกใบนี้ ไม่ใช่แค่สำหรับโลกมาร์เวลเท่านั้น ง่ายๆ แค่นั้นเลยครับ หลังจากนั้น มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ ผม คุณ หรือ ใครก็มองหาอยู่เสมอในฐานะนักแสดงครับ"
"แบล็ค แพนเธอร์ เขาเป็นความย้อนแย้งครับ เมื่อคุณได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จากฝีมือนักเขียนหลายคน คุณจะได้เห็นความเป็นได้ สอดแทรกอยู่กับสิ่งที่ถูกนำเสนอออกมา มันมีความขัดแย้งภายในใจเพราะเขาตระหนักถึงและมีความผูกพันกับเรื่องของขนบธรรมเนียมและสายเลือดมากเหลือเกิน แต่เขาก็เป็นนักคิดหัวใหม่ ที่มีความคิดก้าวหน้า เขาเป็นนักกลยุทธ คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ดังนั้นตัวละครตัวนี้ก็เลยมีความลึกลับบางอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นบุคคลสาธารณะ เขาเป็นคนที่ทุกคนรู้จักแต่ไม่มีใครรู้จักเขาจริงๆ เลย"
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างที'ชัลลาและพวกอเวนเจอร์ส เป็นไปตามเงื่อนไขของเขาเอง "สำหรับที'ชัลลา พวกอเวนเจอร์ส เป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายเท่านั้น ผมคิดว่าพอถึงตอนท้ายเรื่อง พวกเขาถึงได้รับความเคารพจากเขา แต่ก่อนหน้านั้น การร่วมทีมเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยจะคิดเลย เขามีเป้าหมายของตัวเอง และเขาก็ไม่เชิงว่าเลือกข้างไหนซะทีเดียวครับ บทบาทของ ที'ชัลลา ในภาพยนตร์ กัปตัน อเมริกา ซิวิล วอร์ ด้วยความที่เกิดหายนะและโศกนาฏกรรมมากมายระหว่างที่พวกซูเปอร์ฮีโรสู้กับวายร้าย เลยมีการร้องขอให้พวกซูเปอร์ฮีโรขึ้นทะเบียน ชาววาคันดาผู้บริสุทธิ์ได้ถูกฆ่าตาย หนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อของที'ชัลลาก็ตาย เขาเลยเข้าร่วมกับฝ่ายที่สนับสนุนการขึ้นทะเบียนตามสนธิสัญญาโซโคเวียครับ ประเด็นสำคัญ ที'ชัลลาในหนังเรื่องนี้คือเขามีเป้าหมายของตัวเองและมีโลกของตัวเองที่เขาจะต้องคุ้มครอง เขามีสายเลือดที่ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง ดังนั้นเขาก็เลยไม่สามารถรับคำสั่งจากไอรอนแมนได้ และเขาก็ไม่สามารถรับคำสั่งจากกัปตันได้ด้วยเหมือนกันครับ
เรื่องราวครั้งนี้เป็นโบนัสของผู้ชมครับ มันไม่ใช่การสู้กันระหว่างซูเปอร์ฮีโรเท่านั้น แต่คุณจะรู้สึกมีส่วนร่วมเหมือนกับเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ เพราะความขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ครับ มันเป็นความบาดหมางในหมู่เพื่อนฝูง การต่อสู้ระหว่างกลุ่มคนที่เป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นพันธมิตรกันมักจะทำให้รู้สึกหนักใจมากกว่าน่ะครับ แนวทางในการเนรมิตชีวิตให้กับ แบล็ค แพนเธอร์ เหรอครับ ผมอยากจะยึดติดกับตัวละครในหนังสือการ์ตูนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนี่เป็นตัวละครที่หลายคนรอคอย ตัวละครตัวนี้และโลกของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้คุณดูแบบอย่างจากกษัตริย์ นักรบและอาณาจักรในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะจากวัฒนธรรมแอฟริกัน นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกจากบทนี้สำหรับผม นอกจากนี้คุณยังอยากจะสร้างตัวละครตัวนี้จากพื้นฐานของความจริงที่จับต้องได้ ผมได้คุยกับคนแอฟริกัน ฟังคนจากทวีปนั้นคุยกัน แล้วมันก็มีเรื่องของการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับบทนี้ด้วยครับ
ส่วนเรื่องชุดคอสตูม แบล็ค แพนเธอร์ ของผม มันโอเคมากๆนะครับ มันมีที่มาจากนักรบหลากหลายประเภทและหลายยุค คุณจะได้เห็นแง่มุมความเป็นแอฟริกันในเครื่องประดับบางชิ้น เมื่อคุณมองครั้งหนึ่ง คุณจะเห็นชุดเกราะสมัยยุคกลาง แต่พอมองอีกครั้ง คุณก็จะได้เห็นองค์ประกอบแบบนินจาด้วย ผมชื่นชอบเรื่องที่ว่าเมื่อคุณสวมชุดนี้แล้ว มันจะพาคุณไปสู่อีกโลกหนึ่งในทันทีครับ ผมมั่นใจว่าผู้ชมจะสามารถเข้าใจทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้ และตระหนักได้ว่า ไม่มีวีรบุรุษที่แท้จริงหรอกครับ ความงดงามของเรื่องนี้ก็คือมันไม่ใช่เรื่องราวที่เพอร์เฟ็กต์" นักแสดงหนุ่มกล่าว "มันไม่ใช่เรื่องราวตามปกติที่พระเอกได้ครอบครองสาวงาม แล้วก็ขี่ม้าหายไปท่ามกลางอาทิตย์อัศดง จบเรื่องจบราวกัน ทุกเนื้อเรื่องมีความไม่เพอร์เฟ็กต์และก็ไม่มีอะไรที่จบบริบูรณ์ซะทีเดียว มันเป็นการเคลื่อนไหวไปข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผู้ชมตื่นตัวอยู่ตลอดครับ"