ในยุคที่คนดำถูกกดขี่ นิโกร คือคำเหยีดผิว เยอรมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เจสซี่ โอเวนส์ คือตำนานของโลก เรื่องราวของเขาที่เกิดขึ้นในโอลิมปิก 1936 ณ กรุงเบอร์ลินของนักวิ่งเหรียญสี่ทองโอลิมปิกเจ้าของสถิติโลก เป็นคนดำเพียงคนที่กล้าหาญยิ่งกว่านักกีฬาผิวขาวชาติไหนด้วยการวิ่งสุดฝีเท้าจนสามารถเอาชนะนักกีฬาเยอรมันต่อหน้า ฮิตเลอร์แบบไม่เกรงกลัวการถูกขู่ฆ่า ถึงวันนี้ 80 ปีหลังจากวันนั้น โอเวนส์ก็ยังคงเป็นหนึ่งในฮีโร่ของโอลิมปิก ชื่อของเขา กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญที่เอาชนะทุกอคติ
มงคลเมเจอร์เตรียมนำ "Race ต้องกล้าวิ่ง" เข้าฉายในไทย 21 เมษายนนี้ โดยฉากโอลิมปิก ซึ่งเป็นฉากสำคัญที่สุดของเรื่อง ก็ได้ถ่ายทำในเบอร์ลินจริง ๆ รวมทั้งโอลิมปิกสเตเดี้ยมของจริง สนามที่ เจสซี่ โอเวนส์ ชนะเลิศในการแข่งขัน โดยสนามนี้สร้างขึ้นมาเพื่อกีฬาโอลิมปิกปี 1936 โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีถนนโอเวนส์ ที่เป็นทางเดินสู่สนาม แต่น่าเสียดายที่หอพักนักกีฬาในเบอร์ลินที่โอเวนส์พักอาศัยในระหว่างแข่งขันไม่ได้เปิดให้ถ่ายทำ เนื่องจากได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เชิดชูผลงานของเขาไปเสียแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ใช้เวลาถ่ายทำอยู่ในเมืองหลวงของเยอรมนีถึงสี่สัปดาห์ สตีเฟน ฮอปกินส์ กล่าวว่า "นี่เป็นของแท้ที่เราไม่มีทางจะสร้างขึ้นมาเป็นฉากได้เลย" เช่นเดียวกับสเตฟาน เจมส์ นักแสดงหนุ่ม ที่บอกว่าในครั้งแรกที่เขาเดินออกจากอุโมงค์นักกีฬาของโอลิมปิกสเตเดี้ยม เขานั้นได้แต่อึ้งไปเลย "การได้ยืนอยู่จุดเดียวกับที่เจสซี่เคยยืน ทำให้ผมรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ที่ช่วงเวลานั้นมีแต่เขา ผมพูดไม่ออกเลยจริง ๆ ขนลุกไปทั้งตัว เพียงแค่คิดว่าเขาต้องแข่งขันที่นั่นท่ามกลางสายตาคนนับแสน ผมรับรู้ได้ถึงความตื่นเต้น ความกลัวที่เขาต้องเผชิญเมื่อปี 1936 จริง ๆ ครับ"
Race ต้องกล้าวิ่ง 21 เมษายน ในโรงภาพยนตร์