การกลับมาของ หนังผีไทยระดับขึ้นหิ้งที่น่ากลัวที่สุด โรแมนติกที่สุด
เต็มไปด้วยความหลอกหลอน และสยองขำที่สุด ประสบความสำเร็จ
และได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างต่อเนื่องมากที่สุดตลอดกาล
จาก "บุปผาราตรี" พ.ศ.2546 สู่ "บุปผาอาริกาโตะ" พ.ศ.2559
จากลายเซ็นต์เฉพาะตัวในความเป็น "ภาพยนตร์สยองโรแมนติกระดับมาสเตอร์พีซ"
ของผู้กำกับ "ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค"
เรื่องราวความรักสุดหลอนที่ชวน "ขนลุก" และเสียดแทง "ความกลัว"
ภายใต้ "ความเหน็บหนาว-หิมะขาวโพลน" และ "ความหวาดสะพรึง" อย่างถึงขีดสุดที่ใครๆก็คาดไม่ถึง
เมื่อผลงานระดับมาสเตอร์พีซสุดคลาสสิคจะถูกรีบูทแบบยกเครื่องเปลี่ยนใหม่หมดอย่างที่ไม่มีใครคิดว่าผู้กำกับต้อมยุทธเลิศจะกล้าตั้งแต่เปลี่ยนตัวนักแสดงที่จะมารับบทบุปผาคนใหม่ บนเรื่องราวใหม่หมด ตัวละครใหม่ ๆ สถานที่ถ่ายทำใหม่ ๆ จาก "ออสการ์อพาร์ทเมนท์" บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เหินฟ้าสู่ "นิเซโกะ ฮอกไกโด" ประเทศแจแปนท่ามกลางบรรยากาศของเมืองหิมะ ที่มาพร้อมรูปแบบและเทคนิคการถ่ายทำแบบใหม่ การแสดงแบบใหม่ และวิธีการกำกับแบบใหม่ ฯลฯ เพื่อให้ "บุปผาอาริกาโตะ" คือ "บุปผา" เรื่องใหม่สำหรับพ.ศ.นี้และเพื่อผู้ชมภาพยนตร์ยุคนี้
"สิ่งหนึ่งซึ่งคนก็ยังถามเสมอว่ามันไม่มีหนังแบบบุปผาอีกแล้วเหรอ ไม่ทำอีกแล้วเหรอ หลังจากบุปผามันก็มีหนังอย่างอื่น หนังผี หนังตลกที่เขาพยายามมิกซ์กันตลอด ซึ่ง10ปีหลังจากบุปผาเราได้ดูหนังผีตั้งกี่100เรื่อง 100เรื่อง ก็100พล็อต โอกาสที่จะทำให้หนังผีแตกต่างกันมันเป็นไปได้ยากมาก ก็ได้มาคุยกับคุณเจียง (เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตะรัตนประเสริฐ ประธานบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้อำนวยการสร้าง บุปผาอาริกาโตะ) พยายามเสนอเรื่องใหม่คือเรื่อง อาริกาโตะ ซึ่งทำใหม่ทุกอย่าง เปลี่ยนโลเกชั่นใหม่ๆไปบรรยากาศใหม่ สร้างพล็อตใหม่ ๆ แต่ตอนที่คุยกับคุณเจียง คุณเจียงก็คงเหมือนคนอื่นทั่วไปก็ยังชอบบุปผาราตรีอยู่ ก็บอกกับพี่ว่าถ้าพี่จะทำอย่างนั้น ทำไมพี่ไม่ทำบุปผาราตรีละ ถ้าบุปผาเก่าเราก็ทำให้มันใหม่ซิ ก็เลยคิดว่าทำให้มันใหม่หมดทุกอย่าง เปลี่ยนดาราใหม่ เปลี่ยนโลเกชั่นใหม่ใช้เทคนิคการแสดงแบบใหม่ ใช้การกำกับแบบใหม่ อะไรที่มันเก่าก็ไม่ต้องทำ ใช้กล้องใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์เป็นบุปผาแบบใหม่ ซึ่งจะเป็นการประเดิมโปรเจกต์แรกของหนังผีที่มีคอนเซ็ปท์เกี่ยวกับคนไทยที่ไปตายในต่างแดนแล้วเป็นผีไทย สมมติไปตายที่อเมริกา เอ๊ะเวลาไปหลอกฝรั่งๆจะมีฟีดแบ็คอย่างไร เวลาไปตายในเขมรหรือในฮ่องกงจะเป็นอย่างไร ไปตายที่ดูไบ คือพี่มองว่ามันจะไม่ใช่หนังภาคต่อละ มันจะเป็นหนังผีภาคใหม่เรื่อยๆ เพราะว่ามันใหม่ทุกประเทศและพี่คิดว่าโปรเจกต์แบบนี้มันน่าสนุก แต่ที่เริ่มที่ญี่ปุ่นก่อน เพราะเหมือนตอนนี้คนไทยจะคุ้นเคยกับญี่ปุ่น ตั้งแต่วีซ่าเปิด คนไทยชอบไปญี่ปุ่น เราก็เลยเริ่มที่ญี่ปุ่นก่อนละกัน ทำหนังผีที่ญี่ปุ่น แล้วตัวพี่เองรู้สึกว่าหนังผีญี่ปุ่นจะเป็นหนังผีที่น่ากลัวมาก ตอนเด็ก ๆ นะถ้าดูหนังผีรองจากแม่นากแล้วก็เป็นหนังผีญี่ปุ่น ผีจีนยังไม่เท่าไหร่แต่ผีญี่ปุ่นมันจะเป็นมู้ดแบบเหมือนว่าเป็นต้นตำรับในเรื่องของความสยองขวัญแบบเย็น ๆ อะไรแบบนี้ซึ่งมันจะแตกต่างจากอารมณ์ผีของไทยมาก ของไทยผีมันจะโฉ่งฉ่างมากๆ แล้วอาริกาโตะมันเป็นเหมือนในทางตลกหน่อยคือถ้าคนรู้ภาษาญี่ปุ่นมันคงเป็นคำแรกที่(หัวเราะ)เรารู้จักหรือได้ยินหรือนึกถึงกัน และที่สำคัญคือว่านี่คือโปรเจกต์หนังผี"
"ความสยองขำโรแมนติกครั้งใหม่"
กับเรื่องราวใหม่
เหตุการณ์ใหม่
ตัวละครใหม่
โลเกชั่นใหม่
ฯลฯ
และ.....บุปผาคนใหม่
เก้า สุภัสสรา ธนชาต (ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น,ฝากไว้ในกายเธอ)
พร้อมการกลับมารวมตัวกันครั้งใหม่ของ
แน็ก ชาลี ปอทเจส (อาปัติ)
และ แจ๊ค- หยก-ออฟ-อ๋อง-เก็ท กลุ่มนักแสดงแก๊งแฟนฉันในอีก 12 ปีต่อมา
"บุปผาอาริกาโตะ" 12 เมษายนรับปีใหม่ไทย