“คูล ฟาเรนไอต์ 93" ในเครืออาร์เอส ผู้นำสื่อวิทยุอันดับ 1 เมืองไทย ชี้คนฟังไม่ลดลงแค่เปลี่ยนช่องทางเป็นออนไลน์สอดรับเทรนด์เทคโนโลยีทันสมัย ระบุเป็นสื่อเข้าถึงคนทำงานได้ดีที่สุด งัดกลยุทธ์ “ไฮบริด 16 ว้าว” บุกเต็มสูบ ใจป้ำทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาท ขยายความจุดันยอดดาวน์โหลดเพิ่มอีกเท่าตัว สอดรับกระแส 4G กำลังบูม พร้อมอัดฉีดงบการตลาดกว่า 70 ล้านบาท บุกหนักจัดกิจกรรมอีเวนต์ทั้งปีเขย่าวงการวิทยุ มั่นใจรักษาแชมป์วิทยุเพลงเพราะต่อเนื่อง 16 ปีซ้อน คาดสิ้นปีนี้โกยรายได้510 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน
คุณสุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่น คูล ฟาเรนไฮต์ 93 มองว่า อุตสาหกรรมวิทยุมีช่องว่างเติบโตต่อเนื่องได้อีกยาว เนื่องจากได้รับอานิสงค์การเข้ามาของ 4G ทำให้การรับฟังผ่านช่องทางออนไลน์ง่ายและสะดวก ที่สำคัญมีความเสถียรมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการวิทยุสามารถขยายฐานไปยังกลุ่มผู้ฟังได้ทั่วประเทศ จากเดิมรับฟังผ่านทางคลื่น FM จำกัดเพียงพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาสื่อวิทยุในปี 2559 จะเติบโตเพียงเล็กน้อยหรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 1-2% เท่านั้น แต่ในอนาคตหากสามารถพัฒนาการวัดเรตติ้งแบบมัลติสกรีนที่จับต้องเป็นรูปธรรมได้ชัดเจน เชื่อว่าเจ้าของสินค้าและเอเยนซี่จะโยกเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาใช้กับสื่อนี้เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะวิทยุเป็นสื่อที่ผู้ฟังโดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
ในส่วนของคูล ฟาเรนไฮต์ 93 ปีที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตสวนกระแสภาพรวมธุรกิจวิทยุ ดูได้จากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการรับฟัง “On Air (ออนแอร์)” และ “Online (ออนไลน์)” เป็นผลมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีการจัดกิจกรรม “On Ground (ออน กราวน์)” อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ในปี 2559 ซึ่งครบรอบปีที่ 16 จึงยังคงให้ความสำคัญกับการรุกจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานผู้ฟังเพิ่มขึ้นต่อไปหวังรักษาแชมป์เรตติ้งอันดับ 1 คลื่นวิทยุเอาไว้ โดยได้ปรับตัวเองเป็น Music Station (มิวสิคสเตชั่น) สถานีเพลงที่รับฟังได้ทุกช่องทาง พร้อมทั้งใช้กลยุทธ์ Hybrid 16 wows (ไฮบริด 16 ว้าว) เป็นอาวุธสำคัญนำพาสู่เป้าหมายขยายฐานกลุ่มผู้ฟังออนไลน์ที่ยังมีช่องว่างเติบโตให้ทะยานสู่ตัวเลข 4 ล้านรายต่อเดือน จากปัจจุบัน 2.6 ล้านรายต่อเดือน คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 50% เพื่อมาเสริมทัพกลุ่มผู้ฟังซึ่งรับฟังทางคลื่น FM ที่มีฐานเหนียวแน่นมากถึง 1.5 ล้านรายต่อเดือน ทำให้มีฐานผู้ฟังรวมทุกช่องทางทั่วประเทศกว่า 5.5 ล้านคนต่อเดือน และมีรายได้ 510 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับกลยุทธ์ไฮบริด 16 ว้าว ประกอบด้วย 6 Speed Power Booster (6 สปีด พาวเวอร์ บู๊สเตอร์) ได้แก่ 1.The Most Powerful Hybrid Soundation รวบรวมแพคเกจการขายโฆษณาทั้งสื่อออนแอร์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้เกิดการใช้สื่อที่คุ้มค่ามากที่สุด 2.COOLISM Application HD Plus เป็นสถานีแรกและสถานีเดียวที่เป็นผู้นำด้านแอพพลิเคชั่นฟังเพลงด้วยระบบคมชัดสูงสุดระดัง HD+ (เอชดีพลัส) 3.COOL Degree เป็นโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับคนฟังผ่านระบบออนไลน์ เพื่อนำคะแนนมาแลกรับรางวัลของพรีเมียมหรือเข้าร่วมแคมเปญต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ 4.อิ๊งค์ eat all around Application เป็นแอพพลิเคชั่นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การกิน 5.COOLISM Sale kit Application เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในขณะนี้ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถจองซื้อสื่อโฆษณาผ่านโมบาย Application เพิ่มความง่ายและสะดวกรวดเร็วให้สามารถแพลนมีเดียด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง และ 6.COOL Latitude สร้างสรรค์คอนเทนต์ท่องเที่ยวที่แตกต่างจากในตลาด เพิ่มมูลค่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ฟังและลูกค้าที่มาว่าจ้างให้จัดทริปสุดเอ็กซ์คูลซีฟ
นอกจากนี้ ยังเสริมด้วย 10 กิจกรรมสำคัญตลอดทั้งปี อาทิเช่น COOL Outing Special 7 - Awesome Gifu การพาชาวออฟฟิศไปเอ้าติ้งค์แบบยกออฟฟิศ 50 ชีวิต ที่เมืองกิฟู ประเทศญี่ปุ่น, อิ๊งค์ eat all around “พาไปกิน เดี๋ยวบินกลับ” โดยพี่อิ๊งค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ อาสาพาทัวร์ความอร่อยชิมเมนูจานเด็ดจากร้านอาหารทั่วประเทศ ตลอดทั้งปี, COOL Music Alive ฟรีคอนเสิร์ตแบบมีคอนเซ็ปต์ 1,000 ที่นั่ง จัดขึ้นทุกๆ 2 เดือน โดยมีศิลปิน โจ ก้อง เป็นศิลปินคู่แรกที่จะมาเปิดเวทีปีนี้, COOL Music Fest - Once Upon a Teen ฟรีคอนเสิร์ต ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลที่จัดในเดือนเมษายน ริมชายหาด พร้อมด้วยทัพศิลปินที่เคยเป็นไอดอลของวัยทีนอาทิ แร็พเตอร์ ลิฟต์-ออย บอย สเก๊าท์ เต๋า สมชาย ฯลฯ
ส่วนงบลงทุนในปีนี้วางไว้ 20 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายและพัฒนาแอพพลิเคชั่ั่นรองรับความจุของระบบเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว สอดรับกับการเติบโตของจำนวนผู้ฟังในดิจิตอลแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์พีซี และเดสก์ท็อป ซึ่งปัจจุบันความจุของระบบฯ สามารถรองรับเต็มกำลังแล้วอยู่ที่ 2.6 ล้านรายต่อเดือน ถือเป็นตัวเลขที่มากกว่าการรับฟังผ่านระบบอนาล็อคกว่าเท่าตัว ขณะที่เตรียมใช้งบการตลาดอีก 70 ล้านบาท เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์คูล ฟาเรนไฮต์ 93 กับฐานผู้ฟังกลุ่มให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมซิกเนเจอร์ของคลื่น เช่น กิจกรรม COOL Outing และกิจกรรมอิ๊งค์ eat all around โดยพี่อิ๊งค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ อาสาพาทัวร์ความอร่อยชิมเมนูจานเด็ดจากร้านอาหารที่อยู่ตลอดทั้งปี