Tangerine เป็นหนังเซอร์ไพรส์แห่งปี เพราะไม่เพียงเล่าเรื่องตัวละครบนแบ็คกราวด์ที่หาดูยากได้อย่างทั้งแซ่บปัง สนุกสนานและร้าวรานใจ แต่ยังทำให้ทุกคนที่ได้ดูมันเป็นครั้งแรกในเทศกาลหนังซันแดนซ์ต้องช็อคเมื่อ เพิ่งมารู้หลังดูจบว่า "หนังเรื่องนี้ถ่ายด้วย iPhone 5S ทั้งเรื่อง"! (หนังถ่ายเป็นไวด์สกรีน 2:35:1 และเคลื่อนกล้องราบรื่นมากจนดูไม่ออกว่าถ่ายแบบแฮนด์เฮลด์) ...ซึ่งแม้ผู้กำกับ ฌอน เบเกอร์ กับผู้ช่วยกำกับภาพ เรเดียม เจิ้ง จะบอกว่า "ทั้งประหยัดงบและง่ายมาก จนแทบไม่ต้องทิ้งฟุตเตจอะไรเลย" แต่จริงๆ แล้วเขาต้องมี 6 สิ่งต่อไปนี้จึงทำมันออกมาได้น่าทึ่งอย่างที่เห็น
1 ไอโฟน 5 เอส แน่นอนต้องมีสิ่งนี้ก่อน เบเกอร์กับทีมของเขาเลือกใช้รุ่นนี้เพราะมันเพิ่งออกมาตอนนั้นและเป็นรุ่นที่กล้องดีมาก โดยเขาใช้ 3 เครื่อง
2 แอพ FiLMiC Pro ราคาแค่ 8 เหรียญ แต่เป็นแอพที่ได้รับการทดสอบจากผู้ใช้ว่าช่วยให้ถ่ายได้ภาพคุณภาพสูง กว่ากล้อง Sony FS100 (ราคา 5 พันเหรียญ) และเทียบเท่ากล้อง Canon C300 (ราคาเกินหมื่นเหรียญ) เลยทีเดียว ตัวแอพสามารถควบคุมโฟกัส รูรับแสง และอุณหภูมิสีโดยได้ภาพเกรนสวยงาม
3 สเตดิแคมสำหรับไอโฟน เพราะโทรศัพท์มันเบาและเล็กมาก ไม่ว่าคุณจะใช้มือจับแน่นแค่ไหน มันก็สั่นอยู่ดี จึงต้องใช้สเตดิแคมติดตั้งให้มันนิ่ง" เบเกอร์บอก (ตัวละร้อยกว่าเหรียญเช่นที่ http://www.bhphotovideo.com/c/search…)
4 เลนส์อะนามอร์ฟิกอะแดปเตอร์ เบเกอร์โชคดีได้คุยกับ Moondog Labs ซึ่งทำเลนส์ต้นแบบชุดนี้ออกมาให้ทดลองใช้พอดี และผลที่ได้น่าพอใจมากถึงขั้นที่เขาพูดว่า "ว่าตามตรง หนังเรื่องนี้ไม่มีทางสำเร็จได้เลยถ้าไม่มีเลนส์นี่ มันช่วยยกระดับให้ภาพของเรามีความเป็น 'หนัง' จริงๆ" (ที่สำคัญ เลนส์เจ้านี้ตัวละแค่ร้อยกว่าเหรียญ หรือประมาณ 6 พันต่อตัว ใครสนใจลองคลิก http://www.moondoglabs.com/store/)
5 งานปรับสีในขั้นโพสต์โปรดักชั่น "หนังโซเชียลเรียลิสต์ส่วนใหญ่จะลดสีหนังให้ดูจืดลงในขั้นโพสต์ฯ" เบเกอร์อธิบาย "แต่เราเลือกทางตรงกันข้าม เราเพิ่มสีและความอิ่มของมันให้เต็มพิกัดไปเลย เพราะโลกในหนังเป็นโลกที่เปี่ยมสีสันและสาวๆ เหล่านี้ก็จัดจ้านมาก เราจึงอยากให้สีของหนังคู่ควรกับพวกเธอ" (ขั้นตอนนี้ทำให้ "สีส้ม" กลายมาเป็นสีเด่นของหนัง และมันก็เลยกลายมาเป็นชื่อเรื่อง "Tangerine" ด้วย ^^) และหลังจากปรับสีแล้ว ขั้นสุดท้ายก็แต่งเกรนดิจิตอลใส่เข้าไป เพื่อให้ดูเป็นภาพแบบหนังจริงๆ มากขึ้น
6 ความรู้ในการทำหนังตามขนบ แต่ใช่ว่าแค่มีอุปกรณ์ทั้งหมดนั่นแล้วก็จะได้หนังมาง่ายๆ ...เจมส์ แรนซัน (จากซีรีส์ The Wire) ซึ่งมารับบท "เชสเตอร์" ไอ้หนุ่มแสบตัวต้นเหตุของเรื่องเล่าว่า "ตอนแรกผมรู้สึกเสียศักดิ์ศรียังไงชอบกลที่ต้องมาเล่นหนังถ่ายด้วยไอโฟน แต่พอได้เห็นฌอนทำงาน ผมก็เข้าใจข้อดีของมันทันทีเพราะมันทำให้เราทำงานได้ยืดหยุ่นมาก (ตัวอย่าง : ฌอน เบเกอร์ถ่ายหลายๆ ฉากในหนังขณะขี่จักรยานเป็นวงกลมรอบนักแสดง!)
"แต่ยิ่งกว่านั้น พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาทำหนังเป็น กุญแจสำคัญของการทำหนังเรื่องนี้ยังคงคือทักษะพื้นฐานในการทำหนังที่ไม่ต่าง จากหนังทั่วไป คุณยังต้องรู้วิธีตัดต่อ ยังต้องรู้วิธีบันทึกเสียง ยังต้องรู้วิธีเคลื่อนกล้อง พวกเขาไม่ได้สักแต่มีไอโฟนแล้วก็ออกไปถ่ายหนังหรอกนะ"
"Tangerine : แทนเจอรีน" ไม่ใช่หนังสารคดี แต่เป็นหนังอินดี้ ถ่ายด้วย iPhone 5S ทั้งเรื่อง รอบฉายสัปดาห์ที่ 1 : พฤหัส 21-พุธ 27 ม.ค. (Thu 21-Wed 27 Jan)
- SFW CentralWorld วันธรรมดา (Mon-Fri) : 19:00 / 21:00 วันเสาร์-อาทิตย์ (Sat-Sun) : 15:00 / 17:00 / 19:00
- SFX Central Rama 9 : 15:00 / 19:10
- SFX Central Ladprao : 19:40
- SFX Maya ChiangMai วันธรรมดา (Mon-Fri) : 20:00 วันเสาร์-อาทิตย์ (Sat-Sun) : 17:00 / 19:00
ที่มา https://www.facebook.com/DocumentaryClubTH