“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” ที่กำกับโดย ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ยังคงให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของเรื่องราว และตัวละครที่ดำเนินสืบเนื่องต่อไป ตามชะตากรรมของทุกตัวละครสำคัญในภาพยนตร์ พร้อมกับทรงให้น้ำหนักให้เห็นแง่มุมของอารมณ์ และความรู้สึก ตลอดจนความผูกพันที่แต่ละตัวละครมีต่อกัน
และอีกฉากสำคัญของภาพยนตร์ ที่ท่านมุ้ยทรงตั้งใจถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับรู้ และสัมผัสถึงความรักความผูกพันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีต่อพระสหายที่เติบโต และร่วมศึกสงครามเคียงข้างกันมา ขณะเดียวกันก็จะได้เห็นความรักความผูกพันของทหารเอกคู่ใจ ที่เทิดทูนพระนเรศวรเหนือสิ่งอื่นใด และพร้อมยอมที่จะเสียสละชีวิตเพื่อพระองค์ โดยมี 4 นักแสดงหลักของภาพยนตร์ อย่าง ผู้พันเบิร์ด-วันชนะ สวัสดี, แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ (เตชะณรงค์), ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม และ ทราย เจริญปุระ เข้าฉากร่วมกัน และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉากนี้ต่างร่วมกันถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างซาบ ซึ้งและกินใจเลยทีเดียว ผู้พันเบิร์ด ได้เผยถึงฉากนี้ว่า
“กับอีกฉาก ๆ หนึ่งนะครับ เป็นฉากที่ผมจะพูดถึงนักแสดงท่านหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามีฝีไม้ลายมือในการเล่น ถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยเลยในปัจจุบัน หลายคนอาจคิดไม่ถึงเขา เพราะเขาไม่ค่อยได้เล่นหนังเยอะมาก คน ๆ นี้แหละถ้าในใจผมนะที่ 1 ของประเทศไทยเลย เชื่อผม การันตีเลยคุณนพชัยที่เล่นเป็นไอ้บุญทิ้งนะครับ
ฉากนี้ภาพยนตร์พยายามที่จะแสดงออกให้คนดูได้เห็นถึงความเป็นคนธรรมดาของ พระนเรศวร ความเป็นตัวตนของคนธรรมดาคนหนึ่ง เพื่อไปหาบุญทิ้ง แต่ความจงรักภักดีที่บุญทิ้งมีต่อพระมหากษัตริย์ไม่แปรเปลี่ยน ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน พระนเรศวรเป็นคนธรรมดามาหาบุญทิ้ง แต่บุญทิ้งไม่แสดงความเป็นเพื่อนเลยนะ
บุญทิ้งคือสหายคือเพื่อนสนิท แต่ความจงรักภักดีที่บุญทิ้งมีให้ต่อพระนเรศวร คือความเป็นข้ารองบาทที่แสดงออกแบบบ่าวรับใช้ ที่พร้อมจะพลีกาย แล้วในขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นมุมมองของเลอขิ่นซึ่งเป็นคนรักของบุญทิ้ง ทั้ง 2 คนคุยกันเลอขิ่นบอกว่าสมแล้วที่เลอขิ่นกับพระราชมนูได้ถวายชีวิตให้กับพระ นเรศวร ซึ่งจริง ๆ แล้วเลอขิ่นไม่ได้เป็นคนไทยด้วยซ้ำ แต่ก็ซาบซึ้งและเห็นในความรักที่พระนเรศวรมีต่อประชาชนของท่าน เห็นความรักความเทิดทูนของบุญทิ้งที่มีต่อพระองค์ เราก็จะได้เห็นเลอขิ่นร่วมรบเคียงข้างกับบุญทิ้งในภาคนี้อีกเช่นกัน”.