ปล่อย 4 คลิปมาใหม่ซับไทย [Heart of the Mountain Clip , Mirrors Clip , Thirty Three Clip, Collapse Clip] จากภาพยนตร์เรื่อง “The 33” จะได้ถ่ายทอดความยากลำบากของเหล่าคนงานเหมืองและการต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่ออยู่รอด แม้เมื่อต้องเผชิญกับความเป็นจริงอันโหดร้ายว่าความช่วยเหลืออาจไม่มีทางมาถึง หนังเรื่องนี้ยังได้เผยให้เห็นความหวังและความแน่วแน่ของครอบครัวคนงานเหมืองซึ่งไม่รู้ว่าผู้เป็นที่รักยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่จะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาถูกหลงลืม รวมถึงความมุ่งมั่นของหน่วยกู้ภัยซึ่งฝ่าฟันอุปสรรคนานาประการเพื่อนำคนงานเหมืองกลับบ้านให้ได้

ผู้กำกับแพทริเชีย ริกเกน กล่าวว่า “สิ่งแรกๆ ที่ทำให้ฉันสนใจโครงการหนังเรื่องนี้” เธอกล่าวต่อ “ก็คือการตระหนักว่ามีคนที่ประทับใจเรื่องราวนี้อยู่มากแค่ไหน ในการพัฒนาตัวหนัง ฉันอยากสำรวจว่าอะไรที่ทำให้เรื่องนี้ตรงใจผู้คนทั่วโลก อะไรที่ทำให้ผู้คนเทใจให้ชีวิตของคน 33 คนที่ไม่เคยรู้จัก”

"หนังเรื่องนี้ยืนยันคุณค่าของชีวิต” ลู ไดมอนด์ ฟิลลิปส์ ผู้รับบทเป็นคนงานเหมือง ลูอิซ อูร์ซัว เห็นพ้องในประเด็นนี้ “มีเรื่องราวของความเป็นมนุษย์ ความหวัง แรงบันดาลใจและการยกย่องในศรัทธาอย่างแท้จริงปรากฏอยู่ในทุกๆ เฟรม และเพราะหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริง มันจึงช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นที่เรามีต่อจิตใจของมนุษย์ เราไม่ได้สร้างวีรบุรุษขึ้นมาในหนังเรื่องนี้ เราเพียงแค่นำเสนอเรื่องราวของบุคคลที่มีอยู่จริงและกลายมาเป็นวีรบุรุษ”

เมื่อชาย 33 คนถูกส่งลงไปยังเหมืองในวันธรรมดาๆ วันหนึ่งของเดือนสิงหาคม พวกเขาเป็นเพียงคนที่ไม่มีใครรู้จัก หกสิบเก้าวันต่อมา พวกเขากลายเป็นคนดัง แต่ความโด่งดังที่ไม่คาดฝันนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกัน ผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต แคตซ์ ตั้งข้อสังเกตว่า “จู่ๆ คนงาน 33 ที่ทำงานหนักและไม่มีใครรู้จักก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นปรากฏการณ์ระดับโลก คนธรรมดากลุ่มนี้ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อสถานะทางอารมณ์และความสัมพันธ์ส่วนบุคคลของพวกเขา”

“เราสัมภาษณ์บรรดาคนงานเหมืองและครอบครัวซึ่งได้เล่าให้เราฟังถึงช่วงเวลาอันชวนระทึกระหว่างความยากลำบากอันยาวนานนั้น และเราต่างรู้สึกว่านับเป็นเกียรติที่ได้ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขา” อแลนเสริม

“แพทริเชียเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการกำกับหนังเรื่องนี้” เมดาวอยเห็นด้วย “เธอเป็นหนึ่งในผู้กำกับหญิงเพียงไม่กี่คนในปัจจุบัน และด้วยความที่มาจากละตินอเมริกา เธอจึงมีความสนใจเรื่องนี้อยู่เป็นทุนเดิม เธอสามารถถ่ายทอดทั้งความกลัว ความหวัง ความสิ้นหวัง ศรัทธา ความโกรธ และความสุขที่ขึ้นลงผกผันอยู่ตลอดทั้งเรื่องออกมาได้”

ริกเกนเผยว่าสิ่งสำคัญที่เธอสนใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็คือสมดุล “ฉันรู้ว่าต้องจัดการกับโลกสามโลกซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่ก็ซ้อนกันอยู่ตลอดเวลาด้วย มีคนงานเหมืองซึ่งถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกและต้องอยู่กันตามลำพังนานหลายสัปดาห์ มีครอบครัวซึ่งมุ่งมั่นรักษาศรัทธาและคอยผลักดันความพยายามในการช่วยเหลือ และมีหน่วยกู้ภัยซึ่งสงสัยว่าตัวเองอาจกำลังต่อสู้เพื่อจุดมุ่งหมายที่สูญเปล่า การสร้างสมดุลระหว่างเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากค่ะ”

นักแสดงและทีมงานได้รับเกียรติจากการมาเยี่ยมกองถ่ายของเหล่าคนงานเหมืองเจ้าของประสบการณ์จริงที่พวกเขานำมาถ่ายทอด ผู้อำนวยการสร้างเอ็ดเวิร์ด แม็คเกิร์น กล่าวว่า “คนงานเหมืองทุกคนมาเยี่ยมเราระหว่างถ่ายทำ ที่จริงแล้วหลายคนทำงานร่วมกับเราในสถานที่ถ่ายทำมากน้อยแตกต่างกันไป การได้พวกเขามามีส่วนร่วมด้วยนับเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก การมีพวกเขาอยู่ในกองถ่ายช่วยเตือนเราทุกคนว่าเราอยู่ตรงนั้นเพื่ออะไรและนำไปสู่ช่วงเวลาที่งดงามและซาบซึ้งใจ”

คนหนึ่งที่มาเยี่ยมกองถ่ายคือมาริโอ เซปุลเวดา ซึ่งสื่อมวลชนขนานนามว่า “ซูเปอร์มาริโอ” จากพลังอันแรงกล้า ไหวพริบ และอารมณ์ขันของเขา “ผมคาดไม่ถึงเลยว่าทีมงานจะเล่าเรื่องราวของเราด้วยความเป็นมืออาชีพและความจริงจังขนาดนี้” เซปุลเวดากล่าว “การเดินในกองถ่ายให้ความรู้สึกเหมือนฝันเลยล่ะครับ ทุกคนต้อนรับเราอย่างอบอุ่น และการได้เห็นเบื้องหลังการทำงานเพื่อสร้างหนังเรื่องนี้ก็น่าประทับใจมาก โดยส่วนตัวผมหวังว่าผู้ชมจะได้ตระหนักว่าไม่มีอุปสรรคไหนที่เราฝ่าฟันไปไม่ได้ และไม่มีสิ่งไหนงดงามไปกว่าการมีชีวิตอยู่และได้อยู่กับคนที่เรารัก”

การได้รับข้อมูลโดยตรงจากเจ้าของเรื่องราวที่นำมาถ่ายทอดช่วยให้ทีมงานทั้งหมดได้สัมผัสสภาพความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น กลุ่มคนงานเหมืองยังได้ช่วยให้คำปรึกษาแก่นักแสดงที่รับบทเป็นคนงานเกี่ยวกับการทำงานภายในเหมือง ขณะที่ฉากใต้ดินถ่ายทำกันในเหมืองจริงสองแห่งที่ยังใช้งานอยู่ในกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย  

“การทำงานในเหมืองเหล่านั้นช่วยให้นักแสดง ทีมงาน และเราทุกคนได้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไร” ริกเกนกล่าว “เราทุกคนได้รับรู้สภาพความเป็นจริง ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ส่งผลดีต่อการแสดง เราต้องเผชิญความกลัวที่แคบ ความร้อน และเริ่มรับรู้ได้ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่คนงานเหมืองต้องพบเจอ ถ้าเราไม่ฆ่ากันเองซะก่อน” เธอกล่าวติดตลก "เราก็คงได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและทำหนังออกมา”

นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทำโดยใช้ฉากเป็นทะเลทรายอาตากามาในชิลี โดยอยู่ห่างจากสถานที่ซึ่งรู้จักกันในชื่อแคมป์เอสเปรานซา (ค่ายแห่งความหวัง) เพียงไม่กี่ไมล์ ที่นั่นครอบครัวคนงานเหมืองต่างคอยสวดภาวนาและรอคอยที่จะได้รู้ชะตากรรมของสามี พ่อ พี่ชาย น้องชาย และลูกชายของตน

ริกเกนกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อค่ะที่เราได้ถ่ายทำฉากแคมป์โฮพในบริเวณเดียวกันกับที่เกิดเหตุการณ์จริงขึ้น ไม่เพียงแต่คนงานเหมืองและครอบครัวมาเยี่ยมกองถ่ายของเรา แต่ตัวประกอบหลายคนที่มาเล่นในฉากแคมป์โฮพของเราก็อยู่ที่นั่นในเหตุการณ์จริงเมื่อห้าปีก่อน ฉันไม่เคยได้เห็นผู้คนมากมายที่น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติแบบนั้นมาก่อนขณะที่เราจำลองการรอคอยที่ยาวนาน...รวมถึงการช่วยชีวิตในท้ายที่สุด"

ผู้กำกับกล่าวสรุปว่า “การมีโอกาสได้เล่าเรื่องนี้เป็นสิ่งพิเศษมากสำหรับฉันและทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป้าหมายหลักของเราในการทำหนังเรื่องนี้คือการย้ำเตือนผู้ชมถึงความกล้าหาญและความทรหดของคนงานเหมือง การมีศรัทธาอันไม่คลอนแคลนต่อผู้เป็นที่รัก รวมถึงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของผู้เชี่ยวชาญและคนงานซึ่งเดินทางมาจากทุกสารทิศเพื่อช่วยเหลือคนทั้ง 33 คน เมื่อห้าปีก่อน เรื่องราวของพวกเขาได้สร้างแรงบันดาลใจและรวมใจคนนับล้านๆ จากทุกมุมโลก และความหวังครั้งนั้นสมควรที่จะได้รับการจดจำ...ในเวลานี้และตลอดไป”

The 33 - 33 ใต้นรก 200 ชั้น   กำหนดเข้าฉาย 12 พฤศจิกายน 2015  นำแสดงโดย แอนโตนิโอ แบนเดรัส, โรดริโก ซานโตโร, ผู้ชนะรางวัลออสการ์ จูเลียต บิโนช (“The English Patient”), เจมส์ โบรลิน และลู ไดมอนด์ ฟิลลิปส์ ร่วมด้วยบ็อบ กันตัน และเกเบรียล เบิร์น นอกจากนี้ยังมีนักแสดง ได้แก่ มาริโอ กาซาส, เจค็อบ บาร์กัส, ฮวน ปาโบล ราบา, ออสการ์ นูเยซ, เตนอช อูเอร์ตา, มาร์โก เทรวินโย, เอเดรียนา บาร์ราซา, เคต เดล คาสติลโย, โคเต เด ปาโบล, อลิซาเบธ เด ราซโซ และนาโอมิ สก็อตต์  กำกับการแสดงโดย  แพทริเซีย ริกแกน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/the33moviethailand