เนื้อเรื่องย่อ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ต้องทิ้งโลกไป แล้วมีคนบางคนลืมปิดสวิตช์หุ่นยนต์ตัวสุดท้ายบนโลก?
หลังจากหลายร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยวของภาระกิจที่เขาถูกสร้างมาโดยเฉพาะ นั่นก็คือการเก็บกวาดโลก เพราะโลกเต็มไปด้วยขยะและมลพิษ จนมนุษย์ต้องอพยพไปอาศัยอยู่บนสถานีอวกาศนอกโลกชั่วคราว วอลล์-อี (ซึ่งชื่อของเขาย่อมาจาก ผู้เก็บกวาดและจัดเก็บขยะบนโลก) ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านอกโลกยังมีสิ่งมีชีวิต และหุ่นยนตร์อีกมากมาย เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่เกิดจากการ ได้ค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต (นอกเหนือจากการสะสมของจุกจิก) เมื่อเขาได้เจอกับหุ่นยนต์สำรวจสาวแสนแวววับชื่อ อีฟ การเดินทางท่องกาแลคซี่ของเขาและอีฟ ที่ทำให้เกิดการผจญภัยเหนือจินตนาการ เรื่องราวที่น่าตื่นเต้น โดยมีความลับของอนาคตโลกเป็นปริศนา มีความรักของเพื่อนเป็นแรงผลักดัน
นอกจาก วอลล์-อีแล้ว ยังมีผู้ร่วมเดินทางผจญภัยข้ามห้วงกาแลคซี่เหนือจินตนาการไปด้วยกันกับเขา ไม่ว่าจะเป็นแมลงสาบที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา และเหล่าหุ่นยนต์หมดสภาพอีกนับสิบ
ผลงานกำกับ
“WALL•E” ผลงานจากดิสนีย์.พิกซาร์ กำกับโดยแอนดรูว์ สแตนตัน จากเรื่องราวดั้งเดิมโดยสแตนตันและพีต ด็อกเตอร์และบทภาพยนตร์โดยสแตนตันและจิม เรียร์ดอน อำนวยการสร้างบริหารโดยจอห์น แลสเซทเตอร์และอำนวยการสร้างโดยจิม มอร์ริส (“Star Wars, Episodes I และ II,” “Pearl Harbor,” “The Abyss” และ“Harry Potter” ทั้งสามภาค) ผู้ได้ร่วมสร้างวิชวล เอฟเฟ็กต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานลูคัส ดิจิตอลนานถึง 18 ปี ลินด์ซีย์ คอลลินส์ ผู้ทำงานที่พิกซาร์มานาน 11 ปี รับหน้าที่ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง ทอม พอร์ตเตอร์รับหน้าที่ผู้ช่วยอำนวยการสร้าง โรเจอร์ ดีกินส์ ช่างภาพเจ้าของรางวัลออสการ์ รับหน้าที่ที่ปรึกษาด้านวิชวล
ภาพรวมภาพยนตร์
Wall-E เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่น ที่แทบจะไม่มีบทพูดมากนัก เนื้อเรื่องที่ดูเหมือนจะเอื่อยๆ แต่ก็แฝงไปด้วยข้อคิดและความสนุกสนานไปในตัว ภาพยนตร์ที่ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพลงประกอบและภาพที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัว ฉากที่ Wall-E ห่วง EVE ที่ดูเหมือนนิ่งไปถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี ทั้งซึ้ง ทั้งขำ ฉากในอวกาศก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม อย่าลืมไปหากันมาชม แล้วคุณจะหลงรักหุ่นยนต์เก็บขยะที่ชื่อ Wall-E มากขึ้นไปอีก
ทีมนักพากย์
ทีมนักพากย์ประกอบไปด้วยนักแสดงตลก เจฟฟ์ การ์ลิน (“Curb Your Enthusiasm”), นักแสดงคู่บุญของพิกซาร์ จอห์น ราทเซนเบอร์เกอร์ (“Cheers,” “Ratatouille,” “Toy Story”), นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัล เคธี นาจิมี (“Sister Act,” “King of the Hill”), นักแสดงภาพยนตร์และละครเวที ซิเกอร์นีย์ วีฟเวอร์ (“Alien,” “Gorillas In The Mist,” “Baby Mama”) และนักออกแบบเสียงเจ้าของสี่รางวัลออสการ์ เบน เบิร์ต (“E.T. the Extra-Terrestrial,” “Indiana Jones and the Last Crusade”) และนักแสดงตลกเฟร็ด วิลลาร์ด (“Best In Show,” “Back to You”) ก็ได้ร่วมสร้างสีสันในภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน
ความคุ้มค่า
8/10
ทิ้งท้ายไว้นิดหน่อย
หุ่นยนต์ที่มนุษย์สร้างยังมีความรักและความหวัง แต่มนุษย์เองกลับละทิ้งความรักและความหวัง เพียงเพื่อความสุขสบายในอนาคต โดยใช้สิ่งที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา มีชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีและสิ่งที่ตัวเองสร้าง จนไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้าง ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายและเกือบจะถูกควบคุมโดยสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เอง...
วันนี้พวกเราได้ลองหันกลับมามองรอบตัวและใส่ใจกับคนรอบข้างบ้างแล้วหรือยัง? ...