สวัสดีครับ เพื่อนมิตรรักนักเสพความเอาเตอร์เทนเม้นท์ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ท และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชมภาพยนตร์ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ กระผม “นัวฟิล์ม” จะมานำแนะนำภาพยนตร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ วันนี้กระผมจะมาแนะนำภาพยนตร์ “ตัมยำกุ้ง” ต้องขออิงกระแสกับหนังไทยฟอร์มยักษ์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วกับภาพยนตร์เรื่อง “ตัมยำกุ้ง 2 3D” ที่กำลังจะเข้าฉาย 24 ตุลาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งในภาคที่สองนี้ฉายห่างจากภาคแรก (11 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2548) ถึง 8 ปี เรามาเริ่มย้อนความทรงจำในภาคแรก กับภาพยนตร์ “ตัมยำกุ้ง” กันเลยดีกว่า
ตัวภาพยนตร์
ต้มยำกุ้งเรื่องราวของ ขาม (จา พนม ยีรัมย์) หนุ่นบ้านป่าที่ต้องเดินทางข้ามโลก เพื่อไปตามหาช้างพลายสองพ่อลูก ที่ถูกผู้มีอิทธิพลลักขโมยไปขาย ณ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเรีย การที่จะไปช่วยช้างอันเป็นที่รักของเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากคนไทยที่อยู่ที่นั่นอย่าง จ่ามาร์ค (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทย และ ปลา (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ ขามต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งค์มาเฟียที่นำโดย มาดามโรส (จิน ซิง) ที่ซ่องสุมลูกสมุนตัวเอ้ที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้สุดยอดอย่าง จอนนี่ (จอห์นนี่ เหงียน) ทีเค (นาธาน โจนส์) และ ลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง จอน ฟู และ ลาทีฟ อย่างไม่ได้ตั้งใจ ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ ถึงอานุภาพของ แม่ไม้มวยไทยบทใหม่ ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ ตำนานมวยคชสาร
นักแสดง
ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม รับบทเป็น ขาม , เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา รับบทเป็น จ่ามาร์ค , จิน ซิง รับบทเป็น มาดามโรส , จอห์นนี่ เหงียน รับบทเป็น จอห์นนี่ , นาธาน โจนส์ รับบทเป็น ทีเค , บงกช คงมาลัย รับบทเป็น ปลา , เดวิท อัศวนนท์ รับบทเป็น ริค , ลาธีฟ คราวเดอร์ รับบทเป็น นักสู้คาโปเอร่า , สิริลภัส กองตระการ รับบทเป็น กุ้ง , จอน ฟู รับบทเป็น นักสู้วูซู
การกำกับ
กำกับภาพยนตร์โดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว กำกับคิวบู๊โดย พันนา ฤทธิไกร เรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจตรงทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะมุมกล้องและเทคนิคในการถ่ายทำ ทำให้ภาพออกมาสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ หรือ ฉากเมื่อตอนที่ ขาม (พนม ยีรัมย์) ยังเป็นเด็ก อยู่กับช้างในป่า สวยงามจริงๆ ครับ ยิ่งเทคนิคสโลว์ภาพช่วงบู๊ ทำออกมาได้สวยดี มีพอประมาณกำลังดี ไม่เยอะจนเกินไป
ภาพรวม
ต้มยำกุ้ง เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่ององต์ประกอบโดยรวม ดูแล้วโอเคดีมาก ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง โปรดักชั่น และที่สำคัญที่ไม่ชมไม่ได้แล้วคือ คิวบู๊ หรือลีลาการต่อสู้ มันส์ สะใจ สนุก ไม่น่าเบื่อ แม้บทจะเรียบง่ายไม่มีอะไรมาก ขาดเหตุและผลไปบ้าง แต่ลีลาการบู๊ของ จา พนม ทำให้สะกดทุกสายตา ชนิดที่ว่าไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย
ความคุ้มค่า
8.5/10
ทิ้งท้ายไว้นิดหน่อย
ต้มยำกุ้ง เป็น อีกหนึ่งภาพยนตร์ ที่จะช่วยบอกกล่าวให้คนทั่วโลกได้รู้ว่า คนไทยรักและหวงแหนช้างขนาดไหน เพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และยังเป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ดูแล้วอาจจะช่วยให้คนไทยได้สำนักรักบ้านเกิด รักและหวงแหนช้าง และที่สำคัญ คุณไม่ควนพลาดที่จะชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอแถมเกร็ดหนังให้ได้ทราบอีกสักนิด ภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2548 และยังได้รับรางวัล สุพรรณหงส์เกียรติยศ (พนม ยีรัมย์), (ปรัชญา ปิ่นแก้ว) จาก สุพรรณหงส์ และ ภาพยนตร์ที่มีรายได้สูงสุด ชมรมวิจารณ์บันเทิง ชื่อหนังของ ต้มยำกุ้ง ในต่างประเทศ ก็จะใช้ชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เหมือนกับบ้านเรา เช่น ในสหรัฐอเมริกา ใช้ชื่อว่า The Protector และ อังกฤษ ใช้ชื่อว่า Warrior King
เป็นยังไงบ้างครับ เพลินๆ สนุก ครบรส แถมท้ายด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของหนัง หากเพื่อนๆ มีความเห็น หรือคำแนะนำติชม หรือจะมาพูดคุย ก็เข้ามาคุยกันได้เลยนะครับ แล้วคราวหน้า “นัวฟิล์ม” จะนำภาพยนตร์เรื่องไหน มาเล่าสู่กันฟัง ก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ มาดูต้มยำกุ้งภาคแรกกันแล้ว อย่าลืมเข้าไปดู “ตัมยำกุ้ง 2 3D” ในโรงภาพยนตร์ และเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ ขอแนะนำระบบสามมิติ ที่จะให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ขอลาไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีครับ