ถ้าเอ่ยถึงหนังรัก ใครๆก็คงนึกถึง ชายหญิงคู่นึง ที่ปิดท้ายด้วยความรักอันหอมหวาน แฮปปี้แอนดิ้งอย่างมีความสุข แต่สำหรับปัจจุบัน ชีวิตจริงบางทีก็ยิ่งกว่านิยาย สมหวังบ้าง ไม่สมหวังบ้าง และปัจจุบันนี้โลกเปิดกว้าง เปิดรับเรื่องราวความรักได้ทุกรูปแบบ เพราะความรักสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ชายกับหญิง ชายกับชาย หรือจะเป็นหญิงกับหญิง วันนี้กระผมขอแนะนำหนังรัก 3 แบบ 3 เพศ ที่ดูแล้วประทับใจ มาแนะนำเพื่อนๆ นะครับ 
 

เริ่มด้วยเรื่องแรก แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ 
แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ หนังรักภาพสวย น้ำตานอง คำก็คม เพลงก็เพราะ การันตีด้วยรางวัลมากมาย จากผลงานการกำกับของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เขียนบทโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริ่งแฮม และ ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ ของค่ายหนัง โมทีฟ พลัส (เดิมคือ โมโนฟิล์ม) 

แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ เป็นเรื่องราวความรักของชายหนุ่ม “เต็น” (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) และหญิงสาว “เภา” (ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ) ที่บุพเพสันนิวาสชักนำให้พวกเขาได้มารู้จักกันผ่านตัวหนังสือ ในหนังสือท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน โดยที่พวกเขาไม่เคยแม้แต่พบหน้ากัน...แต่มันกลายเป็นสื่อกลางที่ทำให้คนมือบอน 2 คนได้มาพบและรู้จักกัน 
 

“จีบได้เปล่า?...คิดจะจีบ ดีพอแล้วเหรอ” คำถามที่ “เภา” ทิ้งไว้ให้ “เต็น” ในระหว่างที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังคืบหน้าไปอย่างช้า ๆ กระทั่งถึงวันครบรอบวันเกิดของ “เต็น” เภา ได้เดินทางนำของขวัญวันเกิดมามอบให้แก่ เต็น...ทว่าของขวัญชิ้นนั้นกลับไปไม่ถึงมือของเต็น เภาประสพอุบัติเหตุในวันเกิดของเต็น และในขณะที่กำลังจะนำของขวัญวันเกิดไปให้เต็น เหลือเพียงข้อความที่เภาเขียนทิ้งไว้ในการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับเต็นว่า “สัญญานะว่าจะดูแลกันตลอดไป” …. และนี่คือจุดเริ่มของการพิสูจน์คำสัญญาที่เต็นมีต่อเภา 
 

และอีกฉากที่ทำเอาคนดูน้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย คือฉากที่ เภานอนนิ่งๆ ไม่รับรู้อะไร แต่เต็นนั่งพูดกับเภาเบาเบาว่า “เต็นดีพอที่จะเป็นแฟนเภาหรือยัง... ดีพอหรือยังเภา” (พร้อมน้ำตาที่ร่วงลงมา แล้วต่อด้วยเพลง เธอคือความฝัน) เพียงแค่สิ้นเสียงของเต็น น้ำตาที่สกัดกลั้นมาแทบตาย มันได้ไหลออกมาอย่างไม่อายใคร เรื่องราวความรักของทั้งเธอและเค้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ชายหนุ่มที่เฝ้ารอปาฏิหาริย์การกลับมาของแฟนสาว เธอจะฟื้นหรือไม่ คำสัญญาที่จะดูแลกันตลอดไป เต็นจะทำได้มั๊ย เพราะบางครั้งคำสัญญา ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ 

 

 

เรื่องที่สอง รักแห่งสยาม 
หนังรักอารมณ์เหงา เพลงเพราะ มุมกล้องดีการันตีรางวัลจากหลายสถาบัน และเป็นหนังที่ช่วยเปิดกว้างให้สังคมยอมรับความรักของชายรักชายมากยิ่งขึ้น จากผลงานการกำกับและเขียนบทของ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช ,ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, มาริโอ้ เมาเร่อ,วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล,กัญญา รัตนเพชร,อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ ของค่ายหนังสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล 

 

รักแห่งสยามเป็นเรื่องราวของ “โต้ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) เด็กชาย ม. 6 หน้าตาดี มีแฟนสวยจน ใครต้องต้องอิจฉา แต่สำหรับโต้งนั้น ความน่ารักของ “โดนัท” (อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เริ่มจะกินไม่ได้เสียแล้ว โต้งเริ่มตีตัวออกห่างโดนัทและเริ่มค้นหาคำตอบให้กับชีวิตตัวเอง ในขณะที่“มิว” (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) เด็กชายขี้เหงาวัยเดียวกันที่กำลังทุ่มเทความรักให้กับเสียงเพลงและวงดนตรีของตัวเอง และมิวไม่เคยได้สัมผัสกับความรักมานานแสนนาน ตั้งแต่อาม่าตายจากไป ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากเหลือเกินสำหรับโจทย์ “เพลงรัก” เพื่อนำไปเสนอกับค่ายเพลงใหญ่ ....ในเวลาเดียวกับที่ “หญิง” (กัญญา รัตนเพชร์) เพื่อนบ้านของมิวก็คอยให้กำลังใจและแอบมองมิวอยู่ห่างๆ แต่มิวก็ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกที่หญิงมีต่อตัวเองเลย 

 

....และแล้ววันหนึ่ง สยาม โต้งและมิวก็ได้เจอกันอีกครั้ง หลังจากที่ขาดการติดต่อกันมานาน มิวแนะนำโต้งให้รู้จักกับ จูน (พลอย เฌอมาลย์) คนดูแลวงดนตรีของมิวที่หน้าตาเหมือนกับ แตง พี่สาวของโต้งที่หายตัวไปสมัยที่เขายังเด็ก โต้งจึงคิดแผนให้แม่ “สุนีย์” (สินจัย เปล่งพานิช) จ้างจูนปลอมตัวเป็นแตงเพื่อมารักษาอาการติดเหล้าให้กับพ่อ “กร” (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) การเข้ามาของจูนทำให้ครอบครัวโต้งดีขึ้น ในขณะที่เพลงรักของมิวก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ความฝันของวงออกัสที่จะได้ออกอัลบั้มเริ่มใกล้เข้ามาทุกที แต่แล้วมิวก็หายตัวไปในวันออดิชั่น และแล้ววันคริสมาสก็ใกล้เข้ามา คอนเสิร์ตใหญ่ที่ทุกคนเฝ้ารอคอยก็กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า วงออกัสจะได้เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และมิวก็ตัดสินสินกลับมาร้องเพลงรัก ที่มิวเขียนขึ้น 

 

รักแห่งสยามแม้จะไม่มีคำคมที่สวยหรู แต่ก็มีคำๆนึง ที่ยังจำได้คือ ฉากที่โต้งมาบอกลามิว หลังจบคอนเสิร์ตของวงออกัส กับคำที่โต้งบอกกับมิวว่า “เราคงคบกับมิวเป็นแฟนไม่ได้...แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักมิวนะ” แม้เรื่องราวความรักของโต้งและมิวจะไม่ได้จบลงอย่างสวยหรู แต่ก็พรั่งพรูไปด้วยความอบอุ่น ความรัก และมิตรภาพ และยังคงตราตรึงอยู่ในใจใครๆหลายคนเช่นกัน 

 

 

 

เรื่องสุดท้าย Yes or No อยากรัก ก็รักเลย 
หนังรักใสใส ที่เพลงประกอบหนังเพราะ จังหวะของหนังทั้งเพลงและภาพดูลงตัว แม้จะไม่ได้รับรางวัลจากสถาบันใด แต่เป็นหนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงมากมาย สร้างฐานแฟนคลับให้กับออมและติ๊นาได้กว้างมาก ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่อง ที่เปิดกว้างให้สังคมได้ยอมรับความรักในแบบของ หญิงกับหญิง มากยิ่งขึ้น จากผลงานการกำกับของ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือสองเล่มโดย ลลนล "Yes รักนี้ใช่เลย" และ "No ก็ว่าจะไม่รัก" นำแสดงโดย สุชาร์ มานะยิ่ง , ศุภนาฎ จิตตลีลา , อริสรา ทองบริสุทธิ์ , สรณัฐ ยุปานันท์ , อินทิรา ยืนยง , มณีรัตน์ วงศ์จีระศักดิ์ ของค่ายหนัง คัมออน สวีท 

 

เรื่องราวนักศึกษาสาวอย่าง พาย (สุชาร์ มานะยิ่ง) จู่ๆ ก็ต้องเก็บข้าวของออกจากหอพักเก่าด้วยความรำคาญเพื่อนสาวร่วมห้องอย่าง เจน (อริสรา ทองบริสุทธิ์) เอาแต่ฟูมฟายไม่ยอมหยุด หลังจากโดนแฟนทอมบอยทิ้ง ด้วยสภาพการณ์แบบนี้ทำให้ทัศนคติของพายที่มีต่อทอมหรือหญิงรักหญิง จากที่ไม่ดีอยู่แล้วก็กลับดูแย่ลงกว่าเดิม 

สำหรับพายเองนั้น แม้ยังไม่มีใครที่เรียกว่าแฟน แต่เธอก็มี พี่แวน (สรณัฐ ยุปานันท์) ชายหนุ่มแสนดีอบอุ่นที่แอบชอบเธอ แวะเวียนมาคอยดูแลเอาใจใส่เธอตั้งแต่เล็กจนโต ครอบครัวของพายเองโดยเฉพาะคุณแม่ (มณีรัตน์ วงศ์จีระศักดิ์) ก็ไฟเขียวเต็มที่ หวังว่าทั้งคู่จะคบหาเป็นแฟนกัน แต่เหมือนว่าคนเราเกลียดสิ่งใดมักเจอสิ่งนั้น เหมือนเบื้องบนแกล้งบันดาลให้พายต้องมาเจอกับเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่ชื่อ คิม (ศุภนาฎ จิตตลีลา) เพื่อนหญิงที่เท่ หน้าตาท่าทางเหมือนผู้ชายมากๆ แค่วันแรกที่ต้องอยู่ห้องเดียวกัน พายก็เริ่มตั้งแง่รังเกียจคิมด้วยการขีดเส้นพื้นที่อาณาเขตของตัวเองทันที แม้คิมจะงงๆ กับพฤติกรรมของเพื่อนร่วมห้อง แต่ด้วยนิสัยที่ง่ายๆ สบายๆ และยังเป็นคนชอบดูแลคนอื่น ความน่ารักของคิมจึงกลายเป็นจุดเด่นขึ้นมา แม้กระทั่งเจนที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ก็ยังวิ่งเข้าใส่ 
 

วันเวลาผ่านไป พายและคิมได้เรียนรู้กันและกัน ได้สัมผัสถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน ผสมกับบางสิ่งที่สับสนขัดแย้งอยู่ในใจ โดยทั้ง 2 คนก็หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นเรียกว่าอะไร ใช่ความรักหรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ถ้าใจมันเกิดบอกว่าใช่ขึ้นมา 

Yes or No อยากรัก ก็รักเลย หนังที่ไม่ได้มีคำคมที่หวานและสวยหรู แต่ก็ยังคงมีคำที่ติดหู กับฉากที่ คิมและพาย นอนคุยกันถึงทัศนคติของราวความรัก กับคำที่พายพูดกับคิมว่า “แม่บอกว่า ถ้าเรารู้สึกชอบใคร เราจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อยตัวบินอยู่ในท้องอ่ะ” และอีกหนึ่งฉากที่มีคำติดหูไม่แพ้กัน กับฉากที่ พายไปง้อคิม กับคำที่คิมพูดกับพายว่า “ขอบใจนะ....ที่กล้ารักกัน” ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปของตัวละคร กล้าที่จะยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองเป็นหลังจากที่คิมปฎิเสธกับตัวเองและคนรอบข้างว่าไม่ใช่ทอม คิมและพายจะต้องค้นหาตัวเอง และฟันฝ่าอุปสรรคความรักของเค้าและเธอเพื่อที่ให้แม่ของพายยอมรับให้ได้ 

 

เรื่องราวความรักทั้งสามแบบที่นำเสนอผ่านภาพยนตร์ เป็นความรักที่เกิดขึ้นจริงในสังคมปัจจุบัน อยู่ที่ว่าตัวตนของแต่ละคนจะยอมรับหรือแสดงออกมาได้มากหรือน้อยก็เท่านั้น ไม่ว่าเรื่องราวความรักของคุณจะเป็นไปในแบบไหน เพียงแค่คุณรักกัน เข้าใจ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน พร้อมที่จะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน แม้ตอนจบของเรื่องราวความรักจะไม่สวยหรูแฮปปี้แอนดิ้งอย่างที่ตั้งใจ แต่อย่างน้อยคุณก็ยังได้รู้ว่า “คุณยังมีหัวใจ มีใครให้คุณได้คิดถึง แม้ว่าตัวเค้าจะรู้หรือไม่ก็ตาม”