หลังจากภาพยนตร์เรื่อง "อันดากับฟ้าใส" พ.ศ 2540 ที่ทำให้ "ชาคริต แย้มนาม" แจ้งเกิดเมื่อ 18 ปีที่แล้วจากผลงานกำกับภาพยนตร์ของ "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ในปีนี้ "ชาคริต แย้มนาม" นักแสดงเจ้าบทบาทได้หวนกลับมาร่วมงานกับหม่อมน้อยอีกครั้งในบทบาทของ "ชนะชล สุพรรณภูมิ" นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ซึ่งโชคชะตาทำให้เขาต้องพบกับความลึกลับของ "งูเห่า" ในเรือนไทยโบราณที่สุพรรณบุรี ในภาพยนตร์แนว "วิจิตรกามา" (Erotic) เรื่อง "แม่เบี้ย" จากวรรณกรรมร่วมสมัยของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์"
ชาคริต แย้มนาม รับบทเป็น ชนะชล สุพรรณภูมิ รับบทโดย หนุ่มใหญ่วัย 37 ปี ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ "สุพรรณภูมิ" ที่มั่งคั่งของเมืองไทย มองดูภายนอกเขาเป็นสุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบที่หาที่ติมิได้ในสังคม มีครอบครัวที่น่าอิจฉา มีภรรยาที่สวยสง่า ชาติตระกูลไม่แพ้กัน มีลูกสาวฉลาดน่ารัก แต่หนุ่มใหญ่ผู้นี้หาความสุขในชีวิตไม่ได้ เพราะในทุกขณะจิตของเขานั้นตระหนักอยู่ตลอดว่า เขาเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยงของท่านสุจินต์ และคุณหญิงสาวิตรี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และสิ่งที่ทรมานจิตใจของเขานอกเหนือไปจากความปรารถนาที่จะพบบิดาและมารดาที่แท้จริงและรากเหง้าต้นกำเนิดของเขา ก็คือ ฝันร้ายว่าเขาจมน้ำตาย สิ่งเดียวที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตของเขาก็คือ บ้านเรือนไทยโบราณของเมขลาที่เขารู้สึกผูกพันเป็นพิเศษ
"ชนะชลเป็นคนนิ่ง ให้คนอ่านความรู้สึกจากข้างใน ทุกอย่างเป็นคนเก็บไว้ข้างใน คนอื่นจะอ่านความรู้สึกไม่ออก ว่าเศร้าหรือเสียใจ หรือแม้กระทั่งดีใจ บางทียิ้มอยู่ แต่มันอาจจะเศร้าอยู่ก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่การแสดง
จริงๆแล้วผมไม่เคยดูเวอร์ชั่นเก่านะ แต่พอพูดถึง คนก็จะบอกว่าเป็นเรื่องของขูดมะพร้าวบ้าง เซ็กซ์บ้าง แต่พอได้มาคุยกะหม่อม เราจะรู้วิธีเลือก มันมีแก่นมีหัวใจมากกว่าที่คนมองว่าหม่อมน้อยชอบทำหนังที่มีฉากอีโรติก แต่จริงๆ แล้วเค้าจะดูที่จิตใต้สำนึก สันดานดิบ หรือว่าแก่นแท้ของภาพยนตร์ และทุกอย่างมันก็มีอยู่ในมนุษย์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหนัง มันก็เลยค่อนข้างเป็นอีโรติกที่ค่อนข้างรุนแรง
ถ้าจะบอกว่าเวอร์ชั่นนี้น่าจะใกล้เคียงกับบทประพันธ์ของอาจารย์วานิช ผมคิดว่าน่าจะใกล้เคียงที่สุด แต่มันก็ต้องมีการดัดแปลงเพื่อมาเอนเตอร์เทนในเชิงภาพยนตร์เพื่อให้สนุก เพราะการจะทำภาพยนตร์ให้ตรงกับหนังสือ ผมว่าทำให้ตายยังไงมันก็สู้หนังสือไม่ได้ แต่นี่คือการคัดแปลงให้มันจบได้ภายในสองชั่วโมง แต่เชื่อว่าการเล่นเรื่องไม่ใช่แค่เพีงหนังอีโรติดหรือหนังขายเซ็กซ์ที่ทุกคนเคยเข้าใจ "แม่เบี้ย" มา ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของสันดาน หรือความรู้สึกเบื้องลึกของมนุษย์มากกว่า ซึ่งมันจะนำไปสู่ความหายนะต่างๆของชีวิต เพราะฉะนั้นมันค่อนข้างลึกพอสมควร ลองมาดูกัน คงได้ข้อคิดเยอะแยะเลยทีเดียวครับ"
17 กันยายน ในโรงภาพยนตร์