ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > ข่าวหนัง

พระเอกคนนี้มีดีด้านการแสดง จาก "ไอฟายฯ" สู่หนังรัก "ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ"

20 ส.ค. 2558 10:40 น. | เปิดอ่าน 1522 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" จากพระเอกหนัง 300 ล้าน "ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้" สู่หนังรัก "ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ" หนังที่เปิดโลกใหม่ และมิติใหม่ทางการแสดงให้กับซันนี่
"วันที่พี่เก้ง พี่วัน บอกว่ามีหนังจะให้เล่น แต่ต้องมาแคสนะ ผมสนใจตรงต้องมาแคสนี้แหละ พออ่านบทจบปุ๊บก็ยังไม่รู้นะว่าบทยุ่นเนี้ยเราจะเล่นออกมาอย่างไร มันไม่มีภาพในหัวเลย รู้แค่ว่าเราอยากเล่นเรื่องนี้ อยากทำงานกับ เต๋อ-นวพล ผมเคยดูผลงานเขาแล้วชอบ มีอะไรใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยเห็น"

พอแคสผ่านปุ๊บถึงเวลาเข้าฉากจริง ผ่านไป 2 อาทิตย์ยังจับคาแร็กเตอร์ยุ่นไม่ได้
"ขนาดผมไปเวิร์คช็อปกับเต๋อมา 20 กว่าครั้ง ตัวละครยุ่น ผมยังจับคาแร็กเตอร์ เล่นอย่างไรให้ถูกใจผู้กำกับไม่ได้เลยครับ จนกระทั่งวันหนึ่งผมนั่งคุยกับเต๋อเป็นชั่วโมง นั่งดูเต๋อทำงาน มูฟเม้นท์ต่างๆ ของเต๋อเออนี้มันคือตัวยุ่นชัดๆ ผมก็ปรับเอาคาแร็กเตอร์เต๋อผู้กำกับนี่ล่ะครับมาผสมผสานกับตัวผมให้กลายเป็นยุ่น แต่ถ้าวันไหนมีความเป็นซันนี่ใส่เข้าไปในยุ่น เต๋อจะบอกทันทีว่านี้เล่นผิด แต่ถ้าวันนั้นยุ่นมีความเป็นเต๋อเขาจะบอกถูก น่านล่ะครับผู้กำกับผม"

 

 

เต๋อ ผู้กำกับจอมละเอียด เทคเดียวไม่เคยผ่าน
"ได้มาร่วมงานกับเต๋อ รู้เลยว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ละเอียดมากครับ มาตรวัดของเขาเป็นมิลลิเมตรคือละเอียดยิบ ผมเล่นไม่เคยเทคเดียวผ่าน แค่ฉากแรกกินก๊วยเตี๋ยวเล่นไป 24 เทค  แล้วฉากต่อไปคิดดูซิครับว่าจะกี่เทค แต่เพราะความเทคเยอะของเต๋อ  และความละเอียดของเขาทำให้ผมฮึดสู้ เอาซิเล่นทุกเทคให้มันดีที่สุด เล่นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นภาษาเกมส์ผมได้ท่าไม้ตายกลับมาเยอะมาก ผมเหมือนมีเวทย์มนตร์เพิ่มขึ้นเยอะเลย ผ่านไป 2 อาทิตย์จากที่หาคาแร็กเตอร์ยุ่นไม่เจอ  พอเจอปุ๊บ ผมกับเต๋อเริ่มเข้าขากันปั๊บ จากนั้นพลังการแสดงมันก็พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ"

เล่นคนเดียวมันเหงา เต๋อผู้เปิดโลกใหม่ทางการแสดง
"หนังเรื่องนี้ผมเล่นคนเดียวเยอะเหมือนกันนะ บางวันเหงาเลยครับถ่ายตั้งแต่ 6โมงเช้าถึง6โมงเช้าอีกวัน และเล่นคนเดียวมันยากมาก เป็นบุคลิกตัวละครที่เราไม่คุ้นเคย วันไหนได้เข้าฉากกับใหม่ หรือกับวีผมนี้เฮลั่น ฉันไม่เหงาแล้ว เพราะความเป็นทีมเวิร์คมันส่งพลังการแสดงให้กับผม ผมชอบวิธีการแสดงของใหม่ กับวี เวลาเข้าฉากด้วยกันมันเลยมีพลังบางอย่าง ที่ทำให้เราเป็นตัวยุ่นได้เลย และวิธีการทำงานของเต๋อที่ให้เราเล่นกันแบบลองเทค คือเล่นยาวๆ ไปเรื่อยๆ มันเหมือนเล่นเกมส์ 3 ฝ่าย คือกล้องจะตามเราไปเรื่อยๆ เราก็เล่นไปเรื่อยๆ2-3 นาที ซึ่งมันเป็นการทำงานที่ยากมาก ต้องแยกประสาทการแสดงด้วย มองกล้องด้วย เป็นอีกวิธีการทำงานที่ผมชอบ และเหมือนได้เปิดโลกใหม่ทางการแสดงให้กับผม"

 

 

การแสดงคืออาชีพเดียวที่ผมมี และทำมันให้ดีที่สุด
"เวลาเล่นหนังเรื่องไหน ผมจะอินและเต็มที่กับมันทุกเรื่อง ผมกับยุ่นเหมือนกันตรงนี้คือรักในอาชีพ และทำงานที่ตัวเองรักให้ดีที่สุด ผมมีอาชีพเดียวในชีวิตที่รักที่สุดคือการแสดง ถ้าผมไม่ทุ่มเทกับมันตั้งใจทำให้มันดีที่สุด แล้วต่อไปใครจะจ้างผมทำงาน เหมือนกับยุ่น เขาเป็นมือรีทัชภาพที่มุ่งมั่นตั้งใจกับการทำงาน ไม่หลับไม่นอนเพื่อทำงานแข่งกับเวลาและให้งานออกมาดีที่สุด งานที่ยุ่นทำครั้งนี้เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง ครั้งหน้าจะต้องเสร็จภายในชั่วโมงครึ่ง เขารู้สึกว่าเลเวลเขาเพิ่ม เขาเก่งขึ้น จะสนุกกับงานมากจนไม่อยากนอน เวลามีคนบอกว่าพักผ่อนมั้ย เขาจะรู้สึกว่าพักผ่อนทำไมเสียเวลา ยังสนุกกับงานอยู่เลย เหมือนกับตัวผมที่อยากมาถ่ายหนังเรื่องนี้ทุกวัน"

ฉากที่โรงพยาบาลอลังการคนเยอะ
"ฉากที่ยุ่นต้องไปหาหมออิม ผมต้องไปถ่ายที่โรงพยาบาลรัฐจริงๆ มันรู้สึกสมจริงมากๆ เราต้องมารอคิวแต่เช้า คนมาประมาณ 200-300 คน มันตื่นตาตื่นใจมากๆ ครับ และในเรื่องต้องมีแปะพลาสเตอร์ บางวันผมแพ้แกะออกมาเป็นรอยแดงเลยครับ บางฉากยุ่นเป็นผื่น เราก็ต้องให้คนในกองมาช่วยเกาให้แดง บางวันผู้กำกับก็ลงมือมาช่วยเกา เรียกว่าเราทำงานกันเป็นทีม เพื่อให้ทุกอย่างสมจริงตามใจผู้กำกับ"

 

 

ซันนี่-เต๋อ คู่หูชุลมุน ชุดยุ่น คือ เสื้อผ้าเต๋อ
"หลังจากที่ผมเริ่มเลียนแบบเต๋อ เอาคาแร็กเตอร์เต๋อมาใส่ในตัวละครยุ่น เสื้อผ้าที่เต๋อใส่ในชีวิตประจำวันก็คือชุดของยุ่นในเรื่อง เสื้อแจ็คเก็ตที่คอสตูมหามาให้ก็ไม่ถูกใจเต๋อ จนวันดีคืนดีเขาก็เปิดตู้เอาเสื้อที่บ้านมาให้ผมใส่ นั่นไงยุ่นก็คือเต๋อชัดๆ ผมชอบแกล้งเขา แซวเขา เพราะเขาคือผู้กำกับที่น่าแกล้งที่สุด แต่ก็เก่งที่สุดด้วย ผมชื่นชอบผู้กำกับคนนี้มาก"

หนังเรื่องนี้มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ อยากให้คนดูรู้ และได้ดูกันเร็วๆ
"บทพูดของหนังเรื่องนี้ก็แค่ธรรมดา แต่แปลกที่ว่าทำไมผมรู้สึกประทับใจ หรือเพราะตัวละครมันมีความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ผมรู้สึกว่า แค่การได้พูดคุย หรือสื่อความรู้สึกออกมา มันทำให้ผมรู้สึกดี มีโมเมนท์ที่โรแมนติกแล้ว ตั้งแต่วันที่ผมจับคาแร็กเตอร์ยุ่นได้ผมก็เริ่มรู้สึกสนุก มันส์ไปกับตัวละครตัวนี้  หลังจากเล่นหนังเรื่องนี้ผมรู้สึกว่าเรื่องการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานครอบครัว ความรัก เราต้องเรียนรู้ และรู้จักที่จะทำมันให้ดี ทุกความสัมพันธ์มีค่าต่อชีวิตเรา หนังเรื่องนี้ดูจบแล้วอาจจะทำให้เราหันกลับมารักและดูแลตัวเองมากขึ้นครับ"

: ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • “ป๋อมแป๋ม” รับบทพี่ชาย “ซันนี่” ที่ปรึกษาอันดับหนึ่ง ในหนัง ‘Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์’
  • ‘ซันนี่’ ทุ่มสุดตัวรับบท สติ(สองร่าง)ฟาดหนักกับ ‘ชมพู่ อารยา’ ในหนังแนวฮา-ม่า ‘Long Live Love!
  • “ชมพู่-ซันนี่-เบ็คกี้” นำทัพนักแสดง ร่วมเดินพรมชมพูในงานเปิดตัวภาพยนตร์ Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์!
  • ‘ชมพู่ อารยา’ เปิดใจ พังสุด เยินสุดชีวิต ใส่เต็มกราฟ ฟาดหนักในหนังแนวฮา-ม่า ‘Long Live Love!’
  • "มุก ปิยะกานต์" จัดเต็ม! กำกับหนังรักเรื่องแรกในชีวิต "ชมพู่-ซันนี่" อัพดีกรี ตัวพ่อ ตัวแม่ สะท้อนชีวิตคู่
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :