นอกจากไฮไลท์ศึกยุทธหัตถีอภิมหาสงครามชี้ความอยู่รอดของชาวอโยธยาว่าจะมีชัยเหนือหงสาหรือไม่นั้น แน่นอนว่าคำตอบของคำถามที่ทุกคนรอคอยรออยู่ใน “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” ให้ทุกคนได้ประจักษ์สายตาในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน แต่ความเข้มข้นของเรื่องราวและชะตากรรมอันนำมาซึ่งเป็นจุดพลิกผันสำคัญที่จะเกิดขึ้นกับหลากหลายตัวละครที่อยู่รายล้อมรอบตัวพระนเรศวรอันนำไปสู่มหาศึกครั้งสำคัญรวมไปถึงต้นสายปลายเหตุทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาคนี้เต็มไปด้วยหลากหลายเหตุการณ์ที่ทุกคนพลาดไม่ได้ โดยเฉพาะฉากพระมหาธรรมราชาถ่ายทอดความในใจที่มีต่อพระราชโอรสสมเด็จพระนเรศวรก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์อันนำมาซึ่งการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินของอโยธยาโดยได้นักแสดง 2 รุ่นศิษย์เอกของ ท่านมุ้ย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ประกบบทบาทในฉากที่พูดได้ว่าเข้มข้นที่สุดโชว์ฝีไม้ลายมือทางด้านการแสดงระดับสุดยอดของพระเอกตลอดกาลอย่าง ฉัตรชัย เปล่งพานิช ในบท พระมหาธรรมราชา ถึงขนาด ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี ที่รับบท สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เข้าฉากคู่กันปลาบปลื้มแบบสุดๆ ที่ได้เข้าฉากร่วมกันนอกจากจะยกนิ้วให้พระเอกตลอดกาลแล้วยังยกให้เป็นฉากจุกอกเป็น 1 ในฉากประทับใจที่สุดฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียว
“ซีนนี้ทั้งตอนที่ถ่ายทำและที่ได้ชมหลังการตัดต่อแล้วโอ้โหจุกอกเลยครับจริงๆ ในภาคยุทธหัตถีมีฉากจุก อกอยู่หลายซีน แต่สำหรับฉากที่พี่นกฉัตรชัยซึ่งพี่เขาแสดงเป็นพระมหาธรรมราชาเป็นพ่อของผมพี่นกเก่งมาก ถ้าคุณผู้ชมได้ชมนะครับจะรู้ว่าบทยาวจริงๆ มันเป็นบทที่สำคัญมากๆ บทหนึ่งเลยที่พี่นกแสดงออกมาในฉากนี้ที่จะสรุปความเป็นมาเป็นไปทุกๆ อย่างใครที่ดูตำนานสมเด็จพระนเรศวรมาตั้งแต่ภาคแรกจนถึงปัจจุบันหรือย้อนไปตั้งแต่สุริโยไทโน่นเลยฉากนี้แหละครับจะเป็นข้อสรุปที่สุดในความเป็นตัวตนของความเป็นพระมหาธรรมราชาของความเป็นพระนเรศวรของความเป็นพ่อกับลูกความไม่เข้าใจความเข้าใจทุกอย่างความเป็นสยามประเทศความเป็นราษฎรประชาราษฎร์ พี่นกถ่ายทอดฉากนี้ได้อย่างสุดยอดมากๆ ครับ แล้วถ้าใครตัดฉากนี้ออกไปนะผมโกรธมากเลย (หัวเราะ)จำได้ว่าเบื้องหลังตอนที่ถ่ายทำฉากนี้เป็นช่วงที่พี่นกไม่สบายจริงๆ ด้วยครับ เราอาจจะเคยได้ยินข่าวว่าพี่นกป่วยอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วการถ่ายทำท่านมุ้ยจะถ่ายทุกคนให้หมดก่อนแล้วปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านเหลือถ่ายกับพี่นกสองคน แล้วท่านก็ไปนั่งอยู่ข้างกล้องเลยครับ แต่ผมนะแอบอยู่ผมนะอยู่ด้วยคือผมอยากดูคืออยู่เป็นอายไลน์ให้พี่นกด้วย แล้วผมก็ได้เห็นโอ้โหพี่นกสุดยอด น้ำตานี่ซึมเลยแล้วพี่นกน้ำตาไหลจริงไหลฟึ้ดแล้วตอนแกลุกขึ้นมาน้ำตาแกหยดเลยคือต้องถือว่าในบรรดานักแสดงด้วย กันผมโชคดีที่สุดได้เล่นกับพี่นกฉัตรชัย และนักแสดงท่านอื่นอย่างพี่เอกสรพงษ์ แล้วฉากนี้คือพี่นกโอ้โหเล่นขนาดนี้เลยคือผมเข้าใจเลยว่านักแสดงสมัยก่อนที่เขาเรียกว่านักแสดงมืออาชีพนะเป็นอย่างนี้จริงๆ ฉากนี้ได้สั่งเสียทุกอย่างแล้วก็เป็นฉากสุดท้ายที่พระมหาธรรมราชาจะสวรรคตจะสิ้นพระชนม์แล้ว เพราะฉะนั้นฉากนี้ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ผมอยากให้ทุกคนได้ไปดูว่าพี่นกแกจำบทได้ไงไม่รู้บทยาวมากโอ้โหคือถือว่าเป็นสุดยอดมากแล้วการถ่ายทำมีมาตั้งแต่กลางวันแล้วก็มาต่อกลางคืน ฉากนั้นกลางคืน แล้วพี่นกก็ไม่ทำให้ผิดหวัง”
นอกเหนือไปจากเบื้องหลังการถ่ายทำและการแสดงในระดับสุดยอดแล้วในแง่ความสำคัญของภาพยนตร์ในฉากนี้จะเป็นอีกหนึ่งฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความลึกซึ้งที่สะท้อนถึงความรักความผูกผันที่พ่อลูกมีต่อกันที่องค์มหากษัตริย์มีต่อแผ่นดินที่ ท่านมุ้ย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคลตั้งใจถ่ายทอดออกมาเพื่อตอกย้ำถึงความเข้มข้นของเรื่องราวที่ถือได้ว่าถึงขีดสุดในภาคยุทธหัตถีอย่างแท้จริง
“เราจะได้เห็นถึงความรักที่พ่อมีต่อลูกพระมหาธรรมราชาเองพระองค์ที่มีประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ในภาค 2 ที่ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครงจำได้ว่ากลับมาโดนพ่อด่าเลยก็เพราะพ่อรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกทำไปจะสร้างปัญหาให้กับอโยธยา แต่จริงๆ ที่ตั้งของพระมหาธรรมราชาคืออโยธยาจะต้องอยู่อย่างมีเอกราชต้องอยู่อย่างมีความสุขประชาชนของพระองค์ต้องอยู่อย่างมีความสุขซึ่งนั่นคือหน้าที่อย่างหนึ่งของพระเจ้าแผ่นดินนะครับ พอมาภาคนี้เราจะได้เห็นสิ่งที่พระนเรศวรได้ทำเราจะได้เห็นสิ่งที่พระมหาธรรมราชาได้พูดคุยกับพระนเรศวรได้เห็นความรักที่พ่อมีต่อลูกเห็นความรักที่มีต่อประชาชนของพระองค์และได้ฝากฝั่งอะไรในขณะเดียวกันจะได้เห็นความรักของพระมหาธรรมราชาที่มีต่อพระสุพรรณกัลยาในภาคที่ผ่านมาเราอาจสงสัยว่าทำไมพระมหาธรรมราชาถึงส่งลูกสาวไปเป็นองค์ประกันที่หงสา แต่ภาคนี้จะเป็นการไขปัญหาเลยว่าพ่อนะรักลูกจริงๆ เป็นช่วงเวลาของช็อตที่เต็มไปด้วยความประทับใจจริงๆ เลยทันทีที่พี่นก-ฉัตรชัย..... แหมไม่อยากบอกเลยไปดูในหนังดีกว่าครับ”
29 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์