จากไอเดียในการมองเรื่องอกหักในแง่บวก เมื่อมาอยู่ในมือของผู้กำกับหน้าใหม่ แต่ไม่ใหม่ด้านฝีมืออย่าง "หนุ่ย - ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์" ที่เคยผ่านงานกำกับ มิวสิกวิดีโอสุดดราม่าอย่าง แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ของ อ๊อฟ ปองศักดิ์ และ ผ่านมาแค่ให้จำ ของ พีท พีระ รวมไปถึง ซีรีย์ยอดฮิตอย่าง Club Friday The Series จึงส่งผลให้ "คน•อก•หัก Love H2O" เป็นภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่ทุกคนจะอินไปกับการอกหักและความรักที่เกิดขึ้นของตัวละครในเรื่องได้
"จริงๆ แล้วคนทุกคนน่าจะเคยผ่านการอกหักมาหมด บนโลกใบนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยอกหัก แต่ว่าคนบางคนก็มีมุมมองความรักที่แตกต่างออกไป ในเรื่องจึงถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ น้ำ ที่ต้องอกหักแล้วชีวิตของเธอก็เข้าไปพัวพันกับผู้ชายสามคนที่ต่างก็รู้สึกดีกับเธอ และทุกคนก็หลงเชื่อว่าเธอจริงใจ แต่แล้ววันหนึ่งความก็แตกออกมา โดยที่ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าต้องการอะไร"
น้ำ รับบทโดย "หยก - ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์" ที่เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ต้องอกหัก ซึ่งนำไปสู่เรื่องราวของผู้ชายอีกสามคนอย่าง ด็อก รับบทโดย "โทนี่ รากแก่น", โจ รับบทโดย "นาวิน ต้าร์ - นาวิน เยาวพลกุล" และ โอม รับบทโดย "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" กับความรักและการอกหักหลายรูปแบบที่เกิดขึ้น "ด็อกคือตัวแทนความรักแบบแอบรักเพื่อน คือเริ่มอกหักตั้งแต่เริ่มรักแล้ว เพราะเธอไม่เคยมองมาเลย ซึ่งคนแอบรักคงรู้สึกลึกๆ อยู่ตลอดเวลา แต่คนข้างๆ ตัวกลับไม่รู้เลย แล้วก็ไม่กล้าบอก ความรักอีกแบบคือรักแบบไม่เคยลืม แม้ว่าจะผ่านมาแล้วสิบปียี่สิบปีแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยลืมเธอเลย ทำให้เกิดคาแรกเตอร์ของโจ ซึ่งเป็นผู้ชายที่จมกับอดีต แล้วเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ และคาแรกเตอร์ของโอม คือเป็นผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างในชีวิต แต่ก็ใช่ว่าเขาจะมีความสุข เขารู้สึกว่า ทำไมเขามีทุกอย่างพร้อม แต่ทำไมเรื่องของความรัก เขาดูเป็นคนอาภัพจังเลย ซึ่งเขาก็หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้"
ปกติภาพยนตร์รักทั่วไปมักจะมีเรื่องราวของการอกหักอยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้กลับมีความพิเศษบางอย่างที่ผู้กำกับตั้งใจนำเสนอ "ความแตกต่างเป็นเรื่องของการนำเสนอ มีการเล่าเรื่องที่อาจจะไม่ได้เป็นหนังสูตรนัก และการดำเนินเรื่องที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนเวลาอกหักก็อยากที่จะลุกขึ้นมาเพื่อลืมอดีตให้เร็วที่สุด อย่างตัวละครน้ำที่มีโอกาสได้พบกับผู้ชายตั้งสามคน แต่ท้ายที่สุดมันก็อาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ จริงๆ แล้วมันก็เชื่อมโยงถึงคน คือเหมือนเราก็ได้เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้วการเริ่มต้นใหม่ได้เร็ว มันก็มีประโยชน์มากกว่า เพราะว่าไม่อย่างนั้นก็จมอยู่ตรงนั้นตลอดไป คือคนเราเวลาเลิกกัน จะชอบคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเลวไปมีคนอื่น แต่ลืมคิดอะไรไปหรือเปล่าว่าตัวเราก็ไม่ดีเหมือนกัน ทำไมเราไม่คิดว่าที่เขาเลิกกับเรา เพราะว่าเราไม่ดีจริงๆ ก็เหมือนตัวนางเอกที่ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างผ่านการกระทำของตัวเองด้วย"
นอกจากเรื่องราวของคนอกหักอันเข้มข้นแล้ว ฉากหลังของภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วยความโรแมนติก โดยมีไฮไลต์สำคัญที่ทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันถึง เมืองลี่เจียง ประเทศจีน เลยทีเดียว "เมืองนี้มีความโรแมนติกแบบเมืองเก่าอยู่ มีความสโลว์ไลฟ์ ที่สำคัญเป็นเมืองที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา คือน้ำแข็งจากหิมะบนยอดเขาจะละลายลงมา ประกอบกับนางเอกของเราชื่อน้ำด้วย ด้วยความที่ชื่อเป็นน้ำเมื่ออยู่ในภาชนะไหนก็เป็นไปตามสิ่งนั้น เหมือนน้ำที่พอไปอยู่กับใครก็เป็นไปตามคนนั้น ไม่มีความเป็นตัวเองเท่าไร ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และตัวละครโจที่อยู่เมืองนี้ก็เป็นคนใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์เหมือนกับว่าเขาเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ เพราะเฝ้ารอคนรักให้กลับมาที่นั่น"
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรสชาติของภาพยนตร์รักโรแมนติกดราม่า ที่จะทำให้มองความรักและการอกหักเปลี่ยนไป "ช่วงนี้ตลาดหนังแบบโรแมนติกดราม่าหายไปนานมากแล้ว อยากให้ทุกคนมาลองดูอีกรสชาติหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้อาจจะได้เรียนรู้ว่า ชีวิตคนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เราก็แค่ปล่อยออกมา แล้วเดินต่อไป อย่างตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้ยังอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าเกิดแค่คุณเปลี่ยนมุมมองหรือตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป คุณก็สามารถไปต่อได้ หนังเรื่องนี้จึงตอบโจทย์คนอกหักชัดเจนมาก"