ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

เกร็ดหนังดี 25 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง The Man from U.N.C.L.E

10 ส.ค. 2558 11:42 น. | เปิดอ่าน 1527 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวหนังดีดอทคอม วันนี้เว็บมาสเตอร์มีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ จากภาพยนตร์สายลับสุดคลาสสิคมาเล่าสู่กันฟัง จากภาพยนตร์เรื่อง The Man from U.N.C.L.E   - เดอะ แมน ฟรอม อั.ง.เ.คิ.ล  คู่ดุไร้ปรานี   จากผลงานการกำกับของ กาย ริชชี่  ที่เคยฝากผลงานมาแล้วอย่าง  Sherlock Holmes  ทั้งสองภาค

1. อาร์มี แฮมเมอร์ รู้ดีว่า “จะทำไปเพื่ออะไรถ้าท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่มีอะไรเลย” ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาร่วมโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่อง The Man from U.N.C.L.E. เขาได้พูดถึงเรื่องนี้เล็กน้อยว่า ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เขาไม่เคยดูมันมาก่อนเลย ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือ กาย ริชชี่ เป็นผู้กำกับแค่นั้นมันก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว 

2. ตัวละครที่รับบทโดย เฮนรี คาวิลล์ ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสายลับ CIA ในขณะที่ตัวละครที่รับบทโดย อาร์มี แฮมเมอร์ นั้นเกิดมาเพื่อเป็นสายลับมืออาชีพ มันเป็นความขัดแย้งกันระหว่างตัวละครที่สามารถสร้างสรรค์ออกมาได้สนุกสนานและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง 

3. บทสนทนามีการเปลี่ยนแปลงระหว่างถ่ายทำ เป็นการแสดงที่ไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อน เมื่อกลับมาสู่บทสนทนาที่ร่างไว้ คาวิลล์ บอกว่า “บางวันพวกเขาก็พูดตามบทเป๊ะ แต่พออีกวันพวกเขาก็เปลี่ยนมันแทบทั้งหมด ซึ่งนั่นมันทำให้ดูค่อนข้างมีชีวิตชีวา”

 

4. เช่นเดียวกันเพื่อนนักแสดงของเขา เฮนรี คาวิลล์ ก็ไม่เคยดู The Man from U.N.C.L.E. มาก่อนเลย ที่เขามาร่วมโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเพราะ กาย ริชชี่ เป็นผู้กำกับและเนื้อเรื่องมันก็ดี

5. ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ แฮมเมอร์ ได้กลับไปดูซีรี่ย์เรื่องนี้ แต่ คาวิลล์ ไม่ได้ดู

6. นักแสดงนำทั้งสองคนก็มีมุมฮาๆ แต่มันค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวละครทั้งสองตัว

7. เครื่องแต่งกายบางชุดในภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกแนววินเทจแบบสุดๆ

 

 

8. ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้สตั้นแมนจำนวนมาก ทั้ง คาวิลล์ และ แฮมเมอร์ ก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับพวกเขาด้วย ด้าน แฮมเมอร์ จะมีส่วนร่วมกับสตั้นแมนของเขาค่อนข้างมากหน่อย จนสตั้นแมนของเขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเขาแสดงด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด

9. ตัวละครหลักทั้งสองตัวจะขัดแย้งกันเพราะบุคลิกลักษณะความคิดของทั้งสองแตกต่างกัน ตัวหนึ่งจะต่อต้านพวกคอมมิวนิสต์ แต่อีกตัวหนึ่งก็เป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์แบบฮาร์ตคอเลยล่ะ

10. The Man from U.N.C.L.E. เป็นหนังสายลับในยุค 60 มันจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือจำนวนมาก

11. กาย ริชชี่ มองว่าภาพยนตร์เรื่อง The Man from U.N.C.L.E. เหมือนกับ Butch Cassidy และ The Sundance Kid ที่พยายามผสมผสานระหว่างความตลกขบขันกับความซีเรียสจริงจังให้มันออกมาแบบพอดีๆ

 

 

12. เดวิด เบ็คแฮม อาจมาปรากฏตัวใน The Man from U.N.C.L.E. “คุณต้องคอยจับตาดูให้ดี” ริชชี่ กล่าว

13. ตัวละครที่รับบทโดย อลิเชีย วิแคนเดอร์  เป็นช่างซ่อมรถที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของเบอร์ลิน

14. เหมือนกับในภาพยนตร์เรื่อง Sherlock มันมีเรื่องของความเข้ากันทางเคมีระหว่างผู้ชายกับผู้ชายที่ กาย ริชชี่ สร้างขึ้นมา

15. บางครั้งนักแสดงหลักของเรื่องก็ใช้สำเนียงของพวกเขาในการแสดงบทบาทที่ได้รับ

16. พวกเขาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เวทีเสียงที่ยาวที่สุดในลอนดอน

17. 60%ของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกไปถ่ายทำตามสถานที่ต่างๆ โดยที่ 60% ของภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำภายในสถานที่ ส่วนที่เหลืออีก 40% นั้นถ่ายทำนอกสถานที่

 

18.  ในการถ่ายทำบางส่วนใช้อุปกรณ์กู้ภัยจริงๆจากปี 1963 โดยมันถูกนำมาใช้ในระหว่างการถ่ายทำ 2 วันซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยว่ามันคือฉากอะไร

19. โปรดิวเซอร์ ไลโอเนล วิแกรม บอกว่ามันเหมาะสมกับ กาย ริชชี่ มากมันคลาสสิคและมันอยู่ในสายเลือดของ Sherlock Holmes

20. ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงหลังจากวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาปีหรือสองปี มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องต่างๆที่ซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน การเล่าถึงที่มาของเรื่องเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ริชชี่ และ วิแกรม ต้องการสร้างโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่องนี้

21. ค่าย Warner Bros. พยายามจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Man from U.N.C.L.E. มานานกว่าทศวรรษ และมันก็เป็นหนึ่งในโปรเจ็คที่ไม่ได้รับไฟเขียวให้สร้างสักที

 

 

22. ทอม ครูซ เกือบจะมาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วแต่ด้วยตารางงานและเหตุผลอื่นๆทำให้เขาไม่สามารถมาร่วมในโปรเจ็คนี้ได้

23. วิแกรม  บอกว่าหนึ่งในเหตุผลที่เลือกอิตาลีเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะมันเป็นโลกของ La Dolce Vita มันเป็นโลกของ Fellini และมันก็เป็นโลกของ Antonioni เขาบอกว่าพวกมันดึงดูดให้ชวนหลงใหล มันสนุกสนานและมันมีเสน่ห์น่าชม

24. หนึ่งในเหตุผลที่สร้างเป็นภาพยนตร์ในช่วงยุค 60 ก็เพราะมันช่วยให้พวกเขามีโลกของพวกตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง ใช้น้ำเสียงในแบบที่ตัวเองเป็น ซึ่งมันจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่อง Bourne หรือภาพยนตร์สายลับเรื่องอื่นๆ

25. การที่ ฮิวจ์ แกรนท์ มารับบทเป็น เวเวอร์ลีย์  มันอาจจะดูไม่ใช้เรื่องใหญ่อะไร แต่มันเป็นส่วนเล็กๆที่มีความหมายมากสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาใช้เวลาถ่ายทำในส่วนของเขามากกว่า 3 สัปดาห์เลยทีเดียว

 

 

The Man from U.N.C.L.E   - เดอะ แมน ฟรอม อั.ง.เ.คิ.ล  คู่ดุไร้ปรานี    
12 สิงหาคมนี้ในโรงภาพยนตร์
https://www.facebook.com/ManFromUncleThailand

: เกร็ดหนังดี, The Man From U.N.C.L.E

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกร็ดหนังดี ล้วงลึกก่อนดูภาพยนตร์ หม่อม
  • เกร็ดหนังน่ารู้ ก่อนดู Black Adam 20 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
  • เกร็ดภาพยนตร์ Vesper ฝ่าโลกเหนือโลก 6 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
  • 6 เกร็ดหนังทวนความจำก่อนดู Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore
  • เกร็ดเบื้องหลังน่าสนใจ Justice League จากปากของผู้กำกับฯ แซ็ค สไนเดอร์
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :