ถือเป็นงานที่ท้าทายความสามารถอีกงานหนึ่งที่ผู้กำกับโฆษณาและช่างภาพอิสระชื่อดังอย่าง "แอ๊ะ - ชาติฉกาจ ไวกวี" ถึงกับออกปากว่างานนี้ยากพอตัว หลังจากที่ตบปากรับคำร่วมนั่งแท่นกำกับหนังสั้นเรื่อง "PATTAYA(พัทยา)" หนังสั้นหนึ่งใน "โปรเจ็กต์เด็ก" โปรเจ็กต์ที่รวมรวมผลงานของ 5 ผู้กำกับชื่อดังของเมืองไทย มาถ่ายทอดเรื่องราวการต่อต้านความรุนแรงและการละเมิดสิทธิเด็กในสังคมไทย ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท สาระดี จำกัด บริษัทฯ ในเครือ บมจ. กันตนา กรุ๊ป หนังสั้นเรื่อง "PATTAYA(พัทยา)" เป็นหนังสั้นที่สะท้อนด้านมืดท่ามกลางแสงสีเสียงของเมืองพัทยา นำเสนอเรื่องราวของเด็กชายเร่ร่อนที่ถูกชักนำมาเข้าสู่วังวนของการขายบริการทางเพศให้กับชาวต่างชาติ เพื่อแลกกับเงินค่าเล่นเกมและค่าอาหารในแต่ละมื้อ วังวนของชีวิตเล็กๆ ที่เหมือนฝุ่นไร้ค่าขาดคนนำทางไปสู่โอกาสที่ดีกว่าเพื่อให้เขาได้หลุดออกจากวังวนเดิมๆ
หนังสั้นเรื่องนี้ "แอ๊ะ ชาติฉกาจ" ผู้กำกับของเรื่องลงพื้นที่เก็บสัมภาษณ์ข้อมูลจากกลุ่มเด็กขายบริการ และกลุ่มชาวต่างชาติที่ซื้อบริการจากเมืองพัทยา การถ่ายทำเป็นเพียงกองถ่ายเล็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่มอนิเตอร์ เพราะผู้กำกับให้เหตุผลว่า เรื่องราวในหนังมันเกิดจากความจริงที่ไม่สามารถมีเทคสองได้ ส่วนกล้องและอุปกรณ์ก็แตกต่างจากการถ่ายทำหนังเรื่องอื่นๆ เพราะผู้กำกับเชื่อว่าในความไม่สมบูรณ์มันสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามได้ เหมือนกับชีวิตของเด็กเหล่านี้ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขามีความสุขในมุมเล็กๆ ของเขาเหมือนกัน ลองมาฟังผู้กำกับคนเก่ง แอ๊ะ ชาติฉกาจ เล่าถึงไอเดียที่หยิบเอาด้านมืดของสังคมมาถ่ายทอดเป็นหนังสั้น "PATTAYA(พัทยา)" ให้ฟังกันดูว่า...
"…ครั้งแรกที่ผมเห็นลิสรายชื่อหนังสั้นที่ทีมงานส่งมา ผมรีบคว้าเรื่องนี้ไว้เลย เพราะตัวผมเองทำงานเกี่ยวกับเด็กมาตลอด ผมคิดว่าผมน่าจะถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาได้ดี เพราะการค้าประเวณีเด็กมันเหมือนจุดบอดด้านมืดของสังคมที่หลายคนเลือกที่จะมองข้าม ผมมักชอบเกิดความสงสัยในเรื่องด้านมืดความดำดิ่งของมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ ผมเลยเลือกที่จะทำเรื่องนี้ออกมาในแบบมุมมองของผมครับ หนังของผมไม่มีนักแสดงที่มีชื่อเสียง ไม่มีนักแสดงจากโมเดลลิ่ง แต่ผมใช้นักแสดงจากโลกของความจริง นักแสดงนำและนักแสดงรองของเรื่องผมได้มาจากเด็กที่นั่งเล่นเกมอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ท หนังของผมไม่มีสคริปต์ให้นักแสดงท่องจำ แต่ผมจะมีแค่บทร่างเอาไว้ 1-10 ส่วนไดอะล็อก ผมจะให้นักแสดงทุกคนอินกับสิ่งที่ผมเล่า และก็ให้เขาคิดตามว่าถ้าเขาต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เขาจะรู้สึกอะไรแล้วจะพูดอะไรออกมา มันเป็นการทำงานที่ท้าทายมากสำหรับผม แต่ผมเชื่อว่าหนังที่มาจากพื้นฐานของความจริงที่ไม่ใช่การแสดงการสวมบทบาท ความน่าสนใจของหนังสั้นเรื่องนี้ในมุมมองของผมในฐานะผู้กำกับ ผมอยากถ่ายทอดให้มันออกมาให้มีกลิ่นอายของความสุขเบาๆ บนความขัดแย้งของความต้องการของเด็ก ผมอยากถ่ายทอดมุมความสุขเล็กๆ ของเด็กเหล่านี้ หลายคนมองว่าเขาเป็นเด็กขายบริการชีวิตลำบาก เราพยายามยัดเยียดความเจ็บปวดให้เขา แต่จริงๆ แล้วเด็กพวกนี้เขาไม่ได้มีความทุกข์ทั้งชีวิต แต่เขายังมีมุมความสุขที่เขาได้เต้นกับเพื่อน ได้ร้องเพลงที่เขาชอบ ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ที่เขารัก มันยังมีมุมความสุขของพวกเขาที่คนส่วนมากไม่ค่อยได้เห็น ซึ่งผมก็ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กๆ ทำอาชีพนี้นะ ผมแค่อยากทำหนังของผมเรื่องนี้ให้ออกมาใกล้เคียงกับความจริงมากกว่าหนังที่ดูออกมาแล้วรู้สึกหดหู่ เพียงแค่ผมอยากสะท้อนเรื่องจริงของสังคมผ่านหน้าจอ มากกว่าการเอาเรื่องที่แต่งขึ้นมาถ่ายทอด ผมไม่อยากให้เรื่องการค้าประเวณีในเด็กกลายเป็นแค่ฝุ่นผง ทุกคนรู้ว่าปัญหานี้มันมีมานานแล้ว แต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น จนกลายเป็นฝุ่นเล็กๆ นี้บังตาผู้คนในสังคม ที่ทำให้ปากไม่กล้าขยับพูดความจริง ผมอยากให้เรื่องนี้ไปกระแทกตาผู้หลักผู้ใหญ่คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางด้านนี้ให้เห็นความสำคัญของปัญหาที่สะสมมานาน และมันถึงเวลาแล้วทุกคนในสังคมต้องร่วมช่วยกันแก้ไข อยากให้ลองติดตามดูกันครับ..."
22 กรกฎาคม นี้ติดตามหนังสั้น "PATTAYA(พัทยา)" จากผลงานการกำกับของ แอ๊ะ-ชาติฉกาจ ไวกวี หนึ่งในหนังสั้นจาก "โปรเจ็กต์เด็ก" โครงการดีๆที่จัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์การละเมิดสิทธิเด็กในสังคมไทย เปิดฉายรอบการกุศลเพียงรอบเดียวในโรงภาพยนตร์ เอสพลานาด รัชดาฯ โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรนำไปมอบให้ 5 องค์กรการกุศลเกี่ยวกับเด็ก