สวัสดีครับเพื่อนที่รักนักเสพความเอนเตอร์เท นเม้นท์ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับเมื่อมีภาพยนตร์เก่าที่น่าสนใจนำมารีวิวกันใหม่ “นัวฟิล์ม” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้ เพื่อนๆในหนังดีดอทคอมได้อ่านกันนะครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนย้อนไปหาจุดเริ่มต้นของสงครามของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้แล้วนะครับ เรื่องที่ผมหมายถึงก็คือ Twilight (แวมไพร์ ทไวไลท์) เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ เบลล่า สวาน รับบทโดย คริสเต็น สจ็วต สาวน้อยธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่แล้วเมื่อเธอต้องย้ายไปอยู่กับพ่อที่เมืองฟอร์ค รัฐวอชิงตัน เนื่องจากแม่ของเธอมีสามีใหม่และได้ย้ายไปอยู่กันที่ฟลอริด้านั่นเอง เมื่อเบลล่าได้ย้ายมาอยู่ที่ฟอร์คทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่ม เอ็ดเวิร์ด คัลเลน นำแสดงโดย โรเบิร์ท แพททินสัน ทั้งคู่รู้สึกว่าแต่ละคนมีชะตาต้องกัน แม้ว่าตัวของเอ็ดเวิร์ดจะไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม เพราะเขาคือแวมไพร์ผู้เป็นอมตะ แต่เขาและครอบครัวคัลเลนไม่กินเลือดมนุษย์แต่กินเลือดของสัตว์ในป่าเขาเพื่อ ดำรงชีวิตแทน แต่เมื่อแวมไพร์กลุ่มอื่นรู้ว่าเบลล่าเป็นมนุษย์ ทำให้เบลล่าต้องตกอยู่ในอันตราย จากแวมไพร์ เจมส์ รับบทโดย แคม จิแกนเด็ท แวมไพร์นักล่าผู้กระหายเลือดเป็นที่สุด
ตัวภาพยนตร์
เป็นเรื่องราวความรักของแวมไพร์หนุ่มและสาว น้อยธรรมดาๆคนหนึ่งซึ่งนำมาจากนิยายขายดีของ สเตฟานี เมเยอร์ ในเรื่องจะเป็นการดำเนินเรื่องราวต่างๆของเบลล่า ทั้งสิ่งที่เธอคิดและทำ รวมถึงสิ่งต่างๆที่เธอได้พบเจอโดยเฉพาะการที่เธอได้เจอกับแวมไพร์หนุ่มสุด หล่ออย่าง เอ็ดเวิร์ด เธอรู้สึกสนใจในตัวเขาและเขาเองก็สนใจเธอเช่นกัน แม้ความรักของเขาจะมีอุปสรรคมากมายจาก แวมไพร์ตัวอื่นๆที่ต้องการกินเลือดของเบลล่า
บทบาทภาพยนตร์
แวมไพร์หนุ่มและสาวน้อย ที่มีชะตาต้องกันจนเกิดเป็นความรักที่ยากจะแยกออกจากกัน เบลล่าสาวที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยหมอกทุกๆวัน รวมถึงมีคดีฆาตกรรมแปลกๆที่บอกว่าเกิดจากสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ เธอได้พบเจอกับหนุ่มหล่อที่ใครๆต่างก็หลงใหล เอ็ดเวิร์ดผู้มีท่าทางๆแปลกๆ แต่ทั้งสองก็เริ่มสนใจซึ่งกันและกัน และทำให้เกิดเป็นความรักแม้ว่า เอ็ดเวิร์ดจะเป็นแวมไพร์ก็ตาม
นักแสดง
เบลล่า นำแสดงโดย คริสเต็น สจ็วต เป็นหญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่งผู้ที่สนใจในตัวของแวมไพร์หนุ่มสุดหล่ออย่าง เอ็ดเวิร์ด ที่รับบทโดย โรเบิร์ท แพททินสิน แต่เอ็ดเวิร์ดเองก็สนใจในตัวของเบลล่าเช่นกัน เพราะเธอเป็นคนเพียงคนเดียวที่เขาไม่สามารถอ่านจิตใจได้ ทั้งสองจึงเริ่มเรียนรู้กันแต่แล้วทั้งสองก็ได้พบกับแวมไพร์นักล่าอย่าง เจมส์ นำแสดงโดย แคม จิแกนเด็ท ซึ่งเจมส์ต้องการที่จะกินเลือดของเบลล่าให้จงได้
การกำกับ
แคทธาลีน ฮาร์ดวิค ได้นำเรื่องราวของนิยายของ สเตฟานี เมเยอร์ มาเรียบเรียงเป็นภาพยนตร์ได้อย่างน่าสนใจ และนำจุดสำคัญๆของเรื่องมาอยู่ในหนังได้ครบถ้วน รวมถึงการกำกับและลำดับฉากรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆก็ทำออกมาได้อย่างน่าประทับ ใจ
การถ่ายภาพ
ฉากต่างๆในเรื่องก็ทำออกมาได้ดีและน่าติดตาม ถึงแม้ว่าภาคนี้จะยังไม่มีฉากไหนเด็ดเป็นพิเศษเพราะเรื่องราวยังอยู่ในเมือง เป็นส่วนใหญ่ก็ตามที
ภาพรวม
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่สร้างจากนิยาย แล้วทำออกมาได้ดีมาก ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นกระแส ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ ในทุกๆช่วงที่แต่ละภาคเข้าฉายเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะเรื่องราวที่เข้มข้นและลึกซึ้งที่ไม่ได้มีเพียงเรื่องความรัก ใคร่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มและเผ่าพันธุ์อีกด้วย นั่นทำให้ ทไวไลท์ กลายเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆคนไปได้อย่างไม่ยากเย็น
ความคุ้มค่า
8.5/10
ทิ้งท้ายไว้นิดหน่อย
เรื่องราวของ เบลล่า, เอ็ดเวิร์ด และ เจ ค็อป ได้ดำเนินมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้วนะครับ และภาคสุดท้ายนี้กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 15 พฤศจิกายน 55 สาวก Twilight อย่าพลาดชมกันนะครับกับ The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 2 จุดจบของความรักอันชั่วนิรันดร์จะเป็นเช่นไร
สามารถอัพเดตข้อมูลของเรื่องนี้ได้ที่ https://www.nangdee.com/title/html/m2967.html
แล้วคราวหน้า "นัวฟิล์ม" จะนำเอาภาพยนตร์เก่าๆ มารีวิว มาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม อ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสต์ข้อความเข้ามาบอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับว่า ชอบหรือไม่ชอบ อย่างไร หรือ อยากให้ วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอะไร ก็บอกกันนะครับ สวัสดีครับ