จุดเริ่มต้นของการได้มาทำ ฉลุย-แตะขอบฟ้า
สมัยเรียนผมมีโอกาสได้ประกวดหนังสั้นที่มหาวิทยาลัยโดยมีพี่อังเคิลเป็นกรรมการและหนังสั้นของผมได้รับรางวัลชนะเลิศ นั้นเป็นครั้งแรกที่เจอกับ พี่อังเคิล หลังจากนั้นไม่นานพี่อังเคิลก็ติดต่อมาแล้วถามว่าสนใจอยากลองมาฝึกงานและศึกษางานด้านหนังจริงๆไหม ตอนนั้นผมเรียนอยู่ปี3 ด้วยความสนใจก็รีบตอบตกลง เลยได้มาฝึกงานกับกองถ่ายหนังที่ พี่อังเคิล เป็นโปรดิวเซอร์ เริ่มจาก เรื่องท้าชน,แฟนเก่า และกองถ่ายทำหนังเรื่อง มือปืนดาวพระเสาร์ ของพี่ต้อม ยุทธเลิศ ทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของการทำงาน ของพี่ๆ แต่ละคนว่าเขามีวิธีคิดและทำงานกันอย่างไร ต่อจากนั้นพี่อังเคิลได้รับโปรเจกต์บันทึกกรรมมา พี่อังเคิลทำช่วงเปิดเรื่องและให้ผมทำต่อ นั่นเป็นการได้กำกับเต็มตัวงานแรกครับ แล้วก็มีงานกำกับมิวสิควีดีโอบ้าง เล็กๆน้อยๆ หลังจากนั้นไม่นาน พี่อังเคิล ก็เริ่มทำ โปรเจกต์ฉลุย-แตะขอบฟ้า และให้โอกาสผมได้กำกับหนังเป็นครั้งแรก สำหรับผม ฉลุยมันสุดยอดของมันอยู่แล้วมันมีความสมบูรณ์ของตัวมันเองในยุคนั้นต่อให้มาดูในยุคนี้มันก็ยังสมบูรณ์อยู่ดี เพียงแต่ว่าครั้งนี้เรามาเติมเรื่องราวให้มันสนุกขึ้น ทันสมัย เร้าใจวัยมันมากขึ้น ฉลุย-แตะขอบฟ้า เป็นอีกรสชาดหนึ่งที่เป็นส่วนผสมของความคลาสสิคกับความใหม่ ความสด คงมีไม่กี่เรื่องที่นำเอา ผู้กำกับใหม่และผู้กำกับรุ่นเก๋าในตำนานมาร่วมกำกับ จนกลายเป็นอีกรสชาดหนึ่งที่คนที่ได้ดูจะได้รสชาดที่แปลกใหม่ครบรส เป็นส่วนผสมที่ลงตัวเราของคนสองรุ่นที่ร่วมกันด้วยใจ
การเตรียมตัวการเป็นผู้กำกับครั้งแรก
ตอนเริ่มโปรเจกต์พี่อังเคิลถามผมว่าไหวไหมถ้าให้กำกับคนเดียวเดี๋ยวพี่เป็นโปรดิวเซอร์ให้ ผมคิดว่าถ้าเราทำหนังในประเทศอย่างเดียวมันจะไม่ยากมากที่จะดูแลคนเดียว แต่พอโจทย์เป็นหนังที่ต้องไปถ่ายทำที่ต่างประเทศแถมมีเรื่องราวของการผจญภัยไม่ใช่หนังที่อยู่กับที่มัน สโคปใหญ่มากสำหรับผม ยิ่งมีศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับเอเชีย อย่าง นิชคุณร่วมด้วยอีก ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกประสบการณ์ผมยังไม่ได้มีมากขนาดนั้นผมก็เลยบอกพี่อังเคิลว่า ผมขอกำกับร่วมกับพี่ดีกว่า เพราะผมยังต้องการคนคอยประคองและช่วยแนะนำ พอเริ่มงาน อันดับแรกผมทำในสิ่งที่พี่อังเคิลมอบหมายมาให้และเสนอกลับไปก่อน สมมุติว่ามอบหมายมาให้ 10อย่าง ผมเสนอผ่าน 2อย่าง ก็ดีใจมากแล้ว ถ้าผมทำได้ก็เหมือนผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีก มันคือสิ่งที่เราหาซื้อไม่ได้คงไม่มีงานไหนหรือใครที่ให้ความรู้กับผมได้มากขนาดนี้ นอกจากพี่อังเคิลจะให้โอกาสในการทำงานแล้ว พี่อังเคิล ยังสอนผมในทุกๆเรื่องตั้งแต่การถ่ายทำไปจนถึงการตัดต่อ ทำให้ผมได้เพิ่มความรู้ขึ้นทุกวัน
การไปถ่ายทำที่เกาหลี
ราบรื่น กว่าที่ผมคิดไว้ครับ โชคดีที่เรามีทีมที่ดี ปัญหาที่เจอเลยน้อยมากและด้วยการทำงานของผมปกติก็ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยอยู่แล้วเราเลยรู้ว่าเราควรเตรียมงานอะไรก่อนหลัง ตอนแรกที่ไปก็ต้องไปศึกษาชีวิต วัฒนธรรม ของคนที่นั่นก่อนว่าเป็นอย่างไรเพราะประเทศเรากับประเทศเขามีเนเจอร์ที่ต่างกัน แล้วเราก็มาทำ story board กันหลังจากที่กลับมาจากกการไปดูโลเคชั่น เพื่อปรับ ลด เพิ่ม ทุกอย่างให้ออกมาดี และเตรียมความพร้อมในการถ่ายทำ
การร่วมงานกับนิชคุณ
เขาทำการบ้านมาดีมาก มีความตั้งใจ และให้เกียรติทุกคน รับฟังสิ่งที่ผู้กำกับบรีฟและทำออกมาได้ดี เล่นเต็มที่ ไม่ห่วงหล่อ ไม่กลัวเสียภาพพอเราเห็นเขาทำอะไรได้เยอะกว่าที่เราคิด เราก็ใส่ไปเต็มที่เหมือนกัน ถ้ามีคิวเยอะกว่านี้สงสัยใส่กันไม่ยั้งครับ ประทับใจมาก ระดับมืออาชีพจริงๆ แม้แต่นักแสดงสมทบเกาหลีทุกคนทำการบ้านมาดีหมด และเล่นดีมาก ทำให้งานเราออกมาสนุกมากขึ้นครับ
หลังจากปิดกล้อง
ผมภูมิใจกับสิ่งที่ได้ฝ่าฟันมา การเป็นผู้กำกับหนังมันยากเพราะมันไม่ใช่แค่คิดมาแล้วก็ออกไปทำ มันมีเรื่องของเหตุและผล มีรายละเอียดมีปัญหาเฉพาะหน้า มีคำถามที่เราต้องหาคำตอบ หาทางออกที่ดีที่สุด คนเราไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่เราฝันกันง่าย เมื่อโอกาสมาถึงเราควรมุ่งมั่นตั้งใจ ลองสู้กับมันดูซักตั้ง เราอาจไม่ใช่คนที่ดีที่เก่งที่สุดแต่ถ้าเราพยายามทุ่มเทและตั้งใจซักวันก็จะเป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับเราครับ
สุดท้ายอยากบอกอะไร
ต้องขอบคุณพี่อังเคิลมากครับ ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมาถึงตรงนี้ได้ เราเป็นแค่นักศึกษา ณ ตอนนั้นเราทำหนังสั้นเพราะความสนุกและแค่อยากทำให้คนที่ได้ดูหนังเราชมว่าหนังเราสนุก หนังดีนะ เราตั้งใจทำเต็มที่ แต่วันนี้สิ่งที่เราตั้งใจทำในวันนั้นมันเกินฝัน และกลับกลายเป็นได้รับสิ่งยิ่งใหญ่มากกลับมา โอกาสที่ได้รับในวันนี้ไม่ใช่ใครจะเดินเอามาให้ง่ายๆ แต่นี่เป็นสิ่งที่พี่เขามอบให้ด้วยความมั่นใจในตัวเรา พี่อังเคิลเป็นมากกว่าผู้กำกับสำหรับผม เขาให้ประสบการณ์ ให้โอกาส ในการเรียนรู้ ในการแก้ปัญหา เป็นเหมือนครูและพ่อเลยก็ว่าได้ขอบคุณมากครับพี่